ผู้กองบอย กราบแม่ปูนิ่ม ร่ำไห้ผมผิดไปแล้ว เครียดจัดจนฟุบหมดสติ

"ผู้กองบอย" โผล่ร่วมงานขอขมาศพ "น้องนุ่มนิ่ม" กราบขอโทษแม่ยาย ร่ำไห้ "ผมผิดไปแล้ว" ขณะที่แม่และญาติเปิดโอกาสร่วมงานไร้การขัดขวาง ลั่น!! กรรมใดใครก่อก็รับกรรมไป ส่วนเรื่องคดีให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 4 บ้านดงเค็ง ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ หรือน้องนุ่มนิ่ม อายุ 29 ปี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีบรรดาญาติพี่น้องและคนในหมู่บ้านมาร่วมแสดงความเสียใจ

ต่อมา ผู้กองบอย หรือ ร.ต.อ.ทรงกด บุญส่ง รอง สว.สืบสวน สน.วังทองหลาง สามีของน้องนุ่มนิ่ม ที่เป็นผู้ต้องหาเจตนาฆ่าใช้อาวุธปืนยิงศีรษะน้องนุ่มนิ่มจนเสียชีวิต พร้อมกับแม่และลูกสาววัย 2 ขวบ ได้เดินทางมาร่วมงานท่ามกลางสายตาของทุกคนที่คอยมอง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สายสืบสภ.ยางตลาดมาดูแลความสงบเรียบร้อย

จากนั้นผู้กองบอยได้นำพวงมาลัยเข้ามาคุกเข่ากราบขอโทษ นางทองใส ภูคงน้ำ และนายกชกิตติพัฒน์ แม่และพี่ชายน้องนุ่มนิ่ม พร้อมกล่าวคำขอโทษและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นขออนุญาตเข้าไปขอขมาศพน้องนุ่มนิ่มที่นอนทอดร่างไร้วิญญาณอยู่ในโลงศพภายในบ้าน ทั้งนี้นางทองใส มารดาน้องนุ่มนิ่มและญาติก็ไม่ได้ขัดขวางแต่อย่างใด เปิดโอกาสให้ขอขมาศพตามสะดวก... 

ทันทีที่ผู้กองบอยมองเห็นภาพถ่ายของน้องนุ่มนิ่ม อดีตภรรยาที่ตั้งเด่นอยู่หน้าโลงศพได้หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความโศกเศร้า แววตาหม่นหมองด้วยแววสำนึกผิด ขณะที่แม่และลูกสาวของผู้กองบอยก็น้ำตาซึมด้วยความสะเทือนใจ

ด้านนางทองใส กล่าวว่า วันนี้ผู้กองบอยเดินทางมาโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า เนื่องจากเพิ่งได้รับการประกันตัวเมื่อวาน และบอกว่าจะมาขอขมาศพนั้น ก็ไม่รู้กำหนดแน่ชัด อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเขากับแม่และลูกสาวตั้งใจมาก็ไม่ขัดขัดขวาง เขาจะได้สบายใจ หรือวิญญาณของน้องนุ่มนิ่มจะได้รับรู้ จะได้นอนตายตาหลับ สำหรับเรื่องทางคดีก็ขอให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม สำหรับความผิดถูกก็อยู่ที่กรรมใดใครก่อก็รับไป ซึ่งในวันนี้ตนรู้สึกผ่อนคลายจากความสูญเสียบ้างแล้ว และยังอยู่ในระยะทำใจ ส่วนคนที่จะทุกข์ไปตลอดชีวิตก็คือผู้ก่อกรรม ต่างกรรมต่างวาระ

"ตอนที่ผู้กองบอยมากราบขอโทษและขอขมาศพน้องนุ่มนิ่มนั้น ตนรู้สึกแทบจะพูดอะไรไม่ออก ซึ่งในส่วนที่ผู้กองบอยกล่าวคำขอโทษและเสียใจนั้น ตนทำได้แค่ได้ยิน ส่วนเวรส่วนกรรมก็ขอให้ตกแก่ผู้กระทำ และตนก็ไม่ได้ผูกใจเจ็บอะไรต่อไป ความสูญเสียน้องนุ่มนิ่มสักวันคนจางไป และน้องนุ่มนิ่มจะอยู่ในใจเราของพวกเราตลอดไป ส่วนใครจะรับผลกรรมยังไงนั้นสุดแท้แต่จะผลกรรมกันไป ทั้งนี้หลายๆ คนอยากให้เขาบวชหน้าไฟแต่ในเมื่อเขาเป็นคนต่างศาสนาก็บวชไม่ได้สุดแท้ที่เขาจะพิจารณาไถ่โทษให้ตนเองก็แล้วกัน" นางทองใส กล่าว.