รวบสาวรับจ้างอุ้มบุญเมืองชล ชี้นายใหญ่อยู่แดนมังกร
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม รวบสาวรับจ้างอุ้มบุญเมืองชล ชี้นายใหญ่อยู่แดนมังกร
พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 เข้าสอบปากคำ สองสาวชาวไทย รับจ้างอุ้มบุญให้นายใหญ่ชาวจีน หลังตำรวจสภ.แสนสุข จ.ชลบุรี บุกจับได้คาบ้านพักกลางเมืองชล สารภาพกำลังตั้งท้อง 8 เดือนใกล้คลอด แต่ยังไปประเทศจีนไม่ได้ เพราะติดโควิด ขณะที่อีกคนรับตั้งครรภ์มาแล้ว 3 ครั้ง
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่สภ.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 พ.ต.อ.ฐิติวัฒน์ สุริยฉาย รอง.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้เดินทางไปสอบปากคำกรณีหญิงไทยรับจ้างอุ้มบุญให้กับเครือข่ายประเทศจีน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.แสนสุข ได้รับการร้องเรียนผ่านระบบโซเซียลว่า มีการรับทำอุ้มบุญ หรือ รับจ้างตั้งครรภ์ ในพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งของ ต.บ้านปึก อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้น
เบื้องต้น น.ส.เพ็ญนภา วัฒนอินทร์ อายุ 35 ปี และ น.ส.ประกายแก้ว พุธโชค อายุ 30 ปี (พี่น้องกัน) โดย น.ส.เพ็ญนภา รับสารภาพว่า รับจ้างตั้งครรภ์จริง ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ขณะที่ น.ส.ประกายแก้ว รับสารภาพว่า รับจ้างตั้งครรภ์มาแล้ว 3 ครั้ง และไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก
สำหรับหญิงสาวที่รับค่าจ้างตั้งครรภ์ จะถูกว่าจ้างเป็นรายเดือน เดือนละ 30,000 บาท ตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์จะได้เงินประมาณ 450,000 บาท ส่วนการตั้งครรภ์นั้นจะมีการตรวจร่างกายที่กรุงเทพฯ หากสภาพร่างกายสมบูรณ์ก็จะฝังตัวอ่อน โดยจะมีผู้ประสานงานเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์ทั้งหมด เมื่อใกล้คลอดแล้วจะพาไปประเทศกัมพูชา หรือประเทศจีน
แต่เพราะเกิดการแพร่ระบาดของ "โควิท-19" จึงไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ มีหญิงสาวรับจ้างตั้งครรภ์ประมาณ 7 คน บางรายมีการคลอดลูกในไทย ทาง พม.ได้นำเด็กไปเลี้ยงดูในที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนการขยายผลนั้นจะมุ่งพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 8 เป้าหมาย พร้อมขออนุมัติหมายจับ น.ส.วัน หรือ พรทิวา แร่มี และ น.ส.จิน หรือ น.ส.มลิษา สองเมือง รวมทั้งติดตามเด็กอุ้มบุญที่คลอดมาแล้วทั้งหมด 3 ราย ส่วนตัวการใหญ่ที่ว่าจ้างให้อุ้มบุญในครั้งนี้อยู่ประเทศจีน...
พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า คดีอุ้มบุญที่เกิดขึ้นในขณะนี้มาจากชาวจีนต้องการทารกเพศชาย หากเปรียบเทียบกับการทำกิ๊บที่ประเทศจีนกับการจ้างอุ้มบุญถือว่าอุ้มบุญถูกกว่ามาก จึงได้เกิดขบวนการว่าจ้างให้หญิงไทยอุ้มบุญเกิดขึ้น ซึ่งทาง สภ.แสนสุข กับ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ชลบุรี หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการอุ้มบุญ จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนพบว่าเป็นขบวนการใหญ่
และที่ตรวจพบการกระทำความผิดเพราะพิษโควิด-19 ทำให้หญิงสาวไม่สามารถเดินทางไปคลอดต่างประเทศได้ จึงต้องมาคลอดที่เมืองไทย ทำให้สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ส่วนความผิดนั้นเป็นความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ผู้ร้ายข้ามชาติ เพราะสร้างความเสียหายระหว่างชาติ หากพบว่าเป็นการกระทำความผิดอื่นอีกก็จะดำเนินคดีทุกข้อหา ส่วนชาวจีนถือว่าเป็นการร่วมกันกระทำความผิด ซึ่งจะต้องมีการขยายผลและจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ยังพบว่ายังมีหญิงไทยอีกจำนวนมากที่รับจ้างอุ้มบุญ ซึ่งจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลอีกเช่นกัน....
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่สภ.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 พ.ต.อ.ฐิติวัฒน์ สุริยฉาย รอง.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้เดินทางไปสอบปากคำกรณีหญิงไทยรับจ้างอุ้มบุญให้กับเครือข่ายประเทศจีน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.แสนสุข ได้รับการร้องเรียนผ่านระบบโซเซียลว่า มีการรับทำอุ้มบุญ หรือ รับจ้างตั้งครรภ์ ในพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งของ ต.บ้านปึก อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้น
เบื้องต้น น.ส.เพ็ญนภา วัฒนอินทร์ อายุ 35 ปี และ น.ส.ประกายแก้ว พุธโชค อายุ 30 ปี (พี่น้องกัน) โดย น.ส.เพ็ญนภา รับสารภาพว่า รับจ้างตั้งครรภ์จริง ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ขณะที่ น.ส.ประกายแก้ว รับสารภาพว่า รับจ้างตั้งครรภ์มาแล้ว 3 ครั้ง และไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก
สำหรับหญิงสาวที่รับค่าจ้างตั้งครรภ์ จะถูกว่าจ้างเป็นรายเดือน เดือนละ 30,000 บาท ตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์จะได้เงินประมาณ 450,000 บาท ส่วนการตั้งครรภ์นั้นจะมีการตรวจร่างกายที่กรุงเทพฯ หากสภาพร่างกายสมบูรณ์ก็จะฝังตัวอ่อน โดยจะมีผู้ประสานงานเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์ทั้งหมด เมื่อใกล้คลอดแล้วจะพาไปประเทศกัมพูชา หรือประเทศจีน
แต่เพราะเกิดการแพร่ระบาดของ "โควิท-19" จึงไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ มีหญิงสาวรับจ้างตั้งครรภ์ประมาณ 7 คน บางรายมีการคลอดลูกในไทย ทาง พม.ได้นำเด็กไปเลี้ยงดูในที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนการขยายผลนั้นจะมุ่งพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 8 เป้าหมาย พร้อมขออนุมัติหมายจับ น.ส.วัน หรือ พรทิวา แร่มี และ น.ส.จิน หรือ น.ส.มลิษา สองเมือง รวมทั้งติดตามเด็กอุ้มบุญที่คลอดมาแล้วทั้งหมด 3 ราย ส่วนตัวการใหญ่ที่ว่าจ้างให้อุ้มบุญในครั้งนี้อยู่ประเทศจีน...
พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า คดีอุ้มบุญที่เกิดขึ้นในขณะนี้มาจากชาวจีนต้องการทารกเพศชาย หากเปรียบเทียบกับการทำกิ๊บที่ประเทศจีนกับการจ้างอุ้มบุญถือว่าอุ้มบุญถูกกว่ามาก จึงได้เกิดขบวนการว่าจ้างให้หญิงไทยอุ้มบุญเกิดขึ้น ซึ่งทาง สภ.แสนสุข กับ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ชลบุรี หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการอุ้มบุญ จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนพบว่าเป็นขบวนการใหญ่
และที่ตรวจพบการกระทำความผิดเพราะพิษโควิด-19 ทำให้หญิงสาวไม่สามารถเดินทางไปคลอดต่างประเทศได้ จึงต้องมาคลอดที่เมืองไทย ทำให้สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ส่วนความผิดนั้นเป็นความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ผู้ร้ายข้ามชาติ เพราะสร้างความเสียหายระหว่างชาติ หากพบว่าเป็นการกระทำความผิดอื่นอีกก็จะดำเนินคดีทุกข้อหา ส่วนชาวจีนถือว่าเป็นการร่วมกันกระทำความผิด ซึ่งจะต้องมีการขยายผลและจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ยังพบว่ายังมีหญิงไทยอีกจำนวนมากที่รับจ้างอุ้มบุญ ซึ่งจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลอีกเช่นกัน....
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น