สรุปชนวนเหตุลูกดับในบ้าน ข้อพิรุธบาน-แม่รู้ ใครคือคนร้ายตัวจริง!
- วันที่ 11 เม.ย.63เวลา 01.30 น. น.ส.ชลธิชา จินดาวงค์ วัย 29 ปี ชาวนครศรีธรรมราช เธอถูกคนร้ายใช้ไขควงแทงคอและหน้าอก รวม 11 แผล จนเสียชีวิตในบ้านพัก
- ในค่ำคืนนั้น นอกจากคนร้ายจะฆ่าชลธิชา คนร้ายได้ขโมยเงินในกระปุกออมสินของเธอ 5,000 บาท และหลบหนีไป
- ขณะที่งานศพของ ชลธิชา ผู้เป็นแม่นำน้ำมะนาวบีบใส่ศพของลูกสาว เพื่อสะกดวิญญาณ โดยระบุว่า "คุณตาได้สั่งไว้ว่า หากเกิดกรณีเช่นนี้ให้บีบน้ำมะนาวใส่ศพ เพื่อให้วิญญาณได้ไปผุดไปเกิด" ซึ่งชาวบ้านสังเกตเห็นว่า ผู้เป็นแม่ไม่ได้โศกเศร้า เหมือนคนทั่วไปที่ลูกเสียชีวิต
- หลังจากเกิดเหตุ ตำรวจดำเนินการสอบสวนอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น พยานที่เกิดเหตุ พยานแวดล้อม สอบปากคำพยานที่เป็นญาติ และพบหลักฐานอื่นๆ
- ผ่านไปเกือบ 2 เดือน สิ่งที่หลายคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกหมายจับนางประทีป จินดาวงศ์ แม่บังเกิดเกล้าของผู้ตาย ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
- นางประทีป แม่บังเกิดเกล้า เข้ามอบตัว และให้การปฏิเสธ พร้อมใช้หลักทรัพย์ 200,000 บาท เพื่อประกันตัวออกไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาแล้วว่าเป็นเรื่องในครอบครัว ผู้ต้องหาไม่น่าจะหลบหนี
- ส่วนหลักฐานต่างๆ ที่มัดตัวนางประทีปนั้น มีดังนี้
1. สภาพศพถูกแทงด้วยไขควงทั้งหมด 11 แผล แพทย์ตรวจพบว่า ก่อนเสียชีวิตผู้ตายถูกแทง 9 แผล จากนั้นคนร้ายได้ย้อนกลับมาแทงซ้ำอีก 2 แผล : ข้อพิรุธ คือ โดยปกติ หากคนร้ายต้องการชิงทรัพย์ คนร้ายจะไม่กลับมาแทงผู้ตายซ้ำ และถ้าคนร้ายต้องการชิงทรัพย์ ทำไมต้องย้อนกลับมาแทงซ้ำลักษณะเหมือนโกรธแค้น
2. ผู้เป็นแม่ให้การว่า คนร้ายงัดหน้าต่างบานเกล็ดเข้ามาฆ่าลูกสาว : ข้อพิรุธ คือ บานเกล็ดถูกถอดจากในบ้าน ไม่ใช่นอกบ้าน และข้าวของที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าต่างที่คนร้ายงัด ไม่ได้ล้มกระจัดกระจายเสียหาย และบานเกล็ดที่มีรอยงัดแงะก็มีความสูงจากพื้นเกือบ 3 เมตร ถ้าคนร้ายมาจากด้านนอก เป็นไปไม่ได้ว่าจะปีนขึ้นไปได้
3. ผลชันสูตร พบว่า ชลธิชา เสียชีวิตในเวลา 00.00 น. : ข้อพิรุธ คือ กล้องวงจรปิด พบว่า ผู้เป็นแม่ขับรถออกจากบ้านไปสวนยางพารา เวลา 01.48 น. และกลับบ้านมาเวลา 09.00 น. ย่อมเท่ากับว่า แม่อาจอยู่กับลูกสาวช่วงเวลาที่ลูกสาวถูกฆาตกรรม
4. ไขควงที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ : ข้อพิรุธ คือ ไขควงเป็นของในบ้าน ไม่ใช่ของคนร้าย
- ถัดมาอีก 1 เดือน หลังจากที่ลูกสาวเสียชีวิต นางประทีป ขายที่ดินผืนที่มีปัญหาได้ในราคา 2 ล้านบาท โดยนางประทีป บอกเล่ากับสื่อว่า ตอนแรกลูกสาวไม่อยากให้ขายที่ดิน แต่ต่อมาภายหลัง ได้มีการพูดคุยกันภายในครอบครัว สุดท้าย ลูกสาวก็ยอมให้ขาย
- ผู้ใหญ่บ้าน ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า ครอบครัวที่เกิดเหตุไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เท่าที่เห็น ลูกกับแม่ก็สนิทสนมกัน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกัน จึงไม่แน่ชัดว่าแม่เป็นผู้ฆ่าลูก
- อย่างไรก็ดี นางประทีป ออกมาวิงวอนขอความเป็นธรรมจากสังคม เพราะเธอทั้งสูญเสียลูกสาว ถูกดำเนินคดี และยังถูกสังคมมองว่าเป็นฆาตกร
- "แม่รู้ดีว่าใครเป็นคนฆ่าลูก แต่ไม่มีหลักฐานสาวถึง แต่บอกได้เลยว่า เป็นญาติสนิทที่มีความขัดแย้งกับครอบครัวของแม่ในเรื่องมรดกที่ดินสวนปาล์มน้ำมัน 10 ไร่ ซึ่งขัดแย้งกันมานาน ถ้าแม่คิดฆ่าลูกสาว แม่ฆ่าลูกคนเล็กไม่ดีกว่าหรือ เพราะพิการทางสมองและเป็นภาระที่ต้องเลี้ยงดูมานาน และขอสาบานกับพ่อท่านไข่ (เกจิดัง) ถ้าแม่ทำขอให้ตายวันตายคืน" นางประทีป กล่าวทั้งน้ำตา.