เปิดเบื้องหลัง ลำดับการตามหา ‘พริตตี้ออย’ จากคนหายกลายเป็นศพ
1.วันที่ 22 มค 63 ทีมงาน รับแจ้งคนหายไปนานเกือบ 6 ปี ระบุเบื้องต้นว่า สงสัยอาจเป็นเหยื่อกรณีไอซ์หีบเหล็กหรือไม่ เพราะชื่อเล่น "ออย" เหมือนในข่าว และหายตัวไปลึกลับหลายปี
2.หลังรับแจ้งเหตุในวันเดียวกันนั้น ทีมงานประสานไปยัง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ยืนยันว่า ช่วงปีที่คนหายหายตัวไป ไอซ์หีบเหล็ก ยังอยู่ในเรือนจำ จึงน่าจะเป็นคนละ "ออย" กัน
3.กรณีคนหายตัวลึกลับไปนาน โดยไม่ปรากฏข้อมูลทางราชการทั้งทะเบียนราษฎร์ หลักประกันสุขภาพ ประกันสังคม และการเดินทางออกนอกประเทศ จึงประเมินว่า คนหายอาจเกิดเหตุร้ายถึงแก่ชีวิต
4.วันถัดมาหลังรับแจ้งเหตุ คือวันที่ 23-24 มค 63 ทีมงานจึงเดินทางไปพบพ่อแม่คนหาย และเพื่อนสนิทของคนหาย ที่อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์
5.การพบพ่อแม่และเพื่อนสนิทของคนหาย ทำให้ได้ข้อมูลพอสมควร ประเมินว่า คนหายขาดการติดต่อกับทุกคน หลังไปทำงาน ที่ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557
7.มีคำถามว่า ทำไมถึงไม่เรียกผู้มีหน้าที่มาเก็บดีเอ็นเอ บอกเลยว่ายาก เพราะ ผู้มีหน้าที่คือ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เวลาจะเก็บดีเอ็นเอใคร จะต้องเก็บเพื่อไปตรวจเทียบ แล้วส่วนใหญ่มันต้องมีต้นเรื่อง มีคดีแล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเก็บไปเทียบกับใครหรือศพไหน แต่พ่อแม่สุขภาพไม่แข็งแรงแล้ว เราจึงขอเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไว้ก่อน
8.ปลายปี 2562 มูลนิธิกระจกเงา ได้เคยติดตามคนหายรายหนึ่งในพื้นที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ซึ่งหายไปตอนปี 2556 จึงมีข้อมูลศพหญิงนิรนามในพื้นที่นี้ในห้วงปี 2556-2558 อยู่ในมือ
9.การได้ข้อมูลศพนิรนามในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ช่วงปี 2556-2558 ไม่ง่ายนัก ทีมงานตระเวนไปแผนกนิติเวช โรงพยาบาลในพื้นที่ชลบุรีและระยอง รวม 5 โรงพยาบาล ทุกแห่งเก็บข้อมูลในสมุดเขียนด้วยลายมือ ต้องเปิดดูทีละแผ่น เป็นข้อมูลไม่มีภาพถ่าย
10.เมื่อคัดกรองแล้ว มีศพหญิงนิรนามและศพไม่สามารถระบุเพศได้ ใกล้เคียงน้องออยเบื้องต้น 8 ศพ
12.หนึ่งในแปดศพ มีศพหญิงนิรนามศพหนึ่ง พบศพเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 ในสภาพเสียชีวิตมาแล้ว 3-4 วัน ข้อมูลจากโรงพยาบาลแหลมฉบัง ซึ่งรับศพมาเบื้องต้น ระบุสภาพสวมเสื้อสายเดี่ยว ซึ่งประเมินว่า ลักษณะการแต่งกาย มีแนวโน้มใกล้เคียงกับน้องออย และช่วงเวลาพบศพใกล้เคียงกับช่วงที่น้องออยหายไป
13.ศพนี้ถูกส่งต่อจากโรงพยาบาลแหลมฉบัง มาผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ จึงต้องมาตามต่อที่นี่
14.วันที่ 27 มค 63 ทีมงาน นำสารพันธุกรรม บิดามารดา นางสาวยุพา ส่งมอบให้ พ.ต.อ.วาที อัศวุตมางกุร รองผู้บังคับการ นิติเวช รพ ตำรวจ เพื่อตรวจเทียบศพหญิงนิรนามดังกล่าว (ในห้วง 3-4 ปีที่ผ่าน ความสำเร็จในการตามหาคนหาย การตรวจเทียบศพนิรนามและเทียบดีเอ็นเอเด็กหาย ได้รับความกรุณาจากท่านรองวาทีมาตลอด)
15.วันที่ 28 มค 63 ทีมงาน พยายามติดต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองขาม เจ้าของคดีที่พบศพหญิงนิรนาม แต่ไม่สามารถนัดหมาย พูดคุยรายละเอียดได้ ทางพนักงานสอบสวน แจ้งว่าให้รอผลตรวจดีเอ็นเอก่อนว่าตรงกันหรือไม่
17.วันที่ 29 มค 63ช่วงเย็น ทีมงาน นัดพบ เพื่อนสนิทคนหาย ได้รายละเอียดเชิงลึกพอสมควร
18.วันที่ 30 มค 63 ทีมงาน ร่วมกับ พลตำรวจตรีไตรรงค์ ผิวพรรณ ลงพื้นที่ติดตามคดี ร่วมกัน ที่ สภ หนองขาม ชลบุรี
19.วันที่ 30 มค 63 ช่วงเย็น พ.ต.อ. วาที นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจโทรศัพท์มาแจ้งผลการเทียบดีเอ็นเอ ระหว่างพ่อแม่น้องออยยุพา กับศพนิรนามในพื้นที่ สภ หนองขาม ยืนยัน ดีเอ็นเอตรงกัน
20.แต่...ผลดีเอ็นเอ ที่ตรวจพบว่าตรงกัน ยังไม่เป็นทางการและอ้างอิงไม่ได้ เพราะคนเก็บดีเอ็นเอพ่อแม่คนหาย คือ ทีมงานมูลนิธิกระจกเงา ไม่มีหน้าที่ตามกฏหมาย ต้องเริ่มกระบวนการเก็บดีเอ็นเอมาตรวจอีกครั้งตามขั้นตอนของกฏหมาย (ซึ่งทีมงานยังไม่ได้แจ้งผลให้ครอบครัวน้องออยทราบ เพราะต้องยืนยันด้วยผลตรวจที่เป็นทางการและถูกต้องตาม กฏหมาย) แต่ผลการตรวจทำให้ทราบทันทีว่า ศพหญิงนิรนามที่ถูกฆาตกรรม คือ น้องออย ดังนั้น แม้ผลจะไม่เป็นทางการ แต่ตำรวจรับทราบแล้วว่าผู้ตายคือน้องออยตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2563
22.วันที่ 31 มค 63 ทีมงาน คุยข้อมูลทางโทรศัพท์กับ เพื่อนสนิทอีกคนของน้องออย ได้ข้อมูลส่วนหนึ่ง ทีมงาน ได้ส่งข้อมูลให้ ตำรวจ สภ หนองขาม เพราะขณะนั้นชัดเจนแล้วว่า คนหายถูกฆาตกรรม
23.ทีมงานเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ไม่เคยสื่อสารความเคลื่อนคดีต่อภายนอกหรือสาธารณะ เพราะอยู่ในกระบวนการสืบสวน
24.วันที่ 4-5 กพ 63 ทีมงานมูลนิธิกระจกเงา และพนักงานสอบสวน สภ หนองขาม เดินทางไปสอบปากคำ พ่อแม่น้องออย ที่เพชรบูรณ์
25.วันที่ 13 กพ 63 ทีมงานมูลนิธิกระจกเงา ติดต่อพูดคุยกับเพื่อนสนิทอีกคนของคนหาย ถือเป็นเพื่อนสนิทคนสำคัญ
26.วันที่ 13 กพ 63 ทีมงานติดต่อกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา ซึ่งเป็นทีมไปเก็บศพหญิงนิรนามเมื่อปี 2557 เพื่อสอบถามรายละเอียดและพาไปดูจุดพบศพ
27.วันที่ 14 กพ 63 ทีมงานนำเรียนเชิญ พลตำรวจโทพิทยา ศิริรักษ์ จเรตำรวจ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์คนหายตำรวจ ลงพื้นที่ติดตามกรณีดังกล่าวที่ สภ.หนองขาม
29.วันที่ 16 มีค 63 พ่อน้องออยเสียชีวิต จากโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ก่อนทราบผลตรวจดีเอ็นเอแบบเป็นทางการ
30.วันที่ 16 มีค 63 ทีมงานนำเรียน พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ช่วยเร่งรัดติดตามคดี เพราะคดีล่าช้า
31.วันที่ 17 มีค 63 พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เสียชีวิต ต้องมอบหมายผู้รับผิดชอบใหม่
32.วันที่ 20 มีค 63 ทีมงานประสานขอเข้าพบ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคสอง เพื่อติดตามคดี ผู้บัญชาการภาค2 มอบหมายผู้บังคับตำรวจชลบุรี ผู้การชลบุรี มอบหมาย รองผู้การชลบุรี ให้เข้าพบ
33.วันที่ 3 เมษายน 2563 ผลตรวจดีเอ็นเอ ออกมาแบบเป็นทางการ ยืนยัน ด้วยหนังสือราชการว่า ดีเอ็นเอบิดามารดาน้องออย ตรงกับศพนิรนามดังกล่าว ร้อยละ 99.999
34.วันที่ 14 เมษายน 2563 ตำรวจ สภ หนองขาม ทำหนังสือแจ้งครอบครัวน้องออย อย่างเป็นทางการให้ไปติดต่อรับศพ แต่ติดสถานการณ์โควิด-19 จึงยังมารับศพไม่ได้
35.ในห้วงสถานการณ์โควิด ทีมงานประสานรายละเอียดคดีไปยัง รองผู้บังคับการตำรวจชลบุรี และหัวหน้างานพิทักษ์เด็กสตรี ตำรวจภูธรภาคสอง เพื่อช่วยเร่งรัดติดตามคดี จับกุมผู้ก่อเหตุ
37.วันที่ 28 พฤษภาคม 2563 ทีมงานตัดสินใจว่า ควรรายงานคดีนี้ต่อสาธารณะให้ช่วยกันติดตามความคืบหน้าของคดี
38.พรุ่งนี้แม่น้องออย จะเดินทางมาทำเรื่องเอกสารขอขุดศพที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และจะไปยื่นหนังสือต่อ พลตำรวจตรีไตรรงค์ ผิวพรรณ เลขาศูนย์คนหายตำรวจ เพื่อเร่งรัดติดตามคดี
นี่ คือ 4 เดือนเต็มที่ตำรวจรู้ว่า ศพนิรนามคนนั้น คือ คนหายที่ตามหา ก่อนศพน้องออยจะถูกพากลับบ้าน ร่วมกันติดตามเพื่อไม่ให้คนร้ายลอยนวล