เผยปมสังหาร 3 ศพ วิทยุสองแคว คาดฉุนยุ่งกับของเก่าที่บ้าน!
มีผู้เสียชีวิต คือ 1.นายสานิตย์ บุตรมางกูล ผอ.สวท.พิษณุโลก เสียชีวิตอยู่บริเวณด้านนอกด้านหลังอาคาร 2.นายจิรวุฒิ สุเมธเทพานันท์ นายช่างไฟฟ้า อาวุโส เสียชีวิตอยู่บริเวณกลางห้องโถงของอาคาร สวท.พิษณุโลก และ 3.นายภูมิศรัณญ์ พันธ์ภูมิ นายช่างอาวุโส เสียชีวิตอยู่ภายในห้องจัดรายการวิทยุ
นอกจากนี้ ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย คือ นายปรุง จันทร์แดง ช่างเครื่องส่ง หลังก่อเหตุมือปืน รอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ สาเหตุเบื้องต้นคาดเกิดจากปัญหาส่วนตัวภายในที่ทำงาน
พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก รุดไปที่เกิดเหตุทันทีและพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ คือนายวิม สอนสุดไว้ได้ พร้อมอาวุธปืนของกลาง 2 กระบอก นายวิมได้พาตำรวจไปชี้จุดที่ยิงเพื่อนร่วมงานทั้ง 3 จุด นายวิม ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง กล้าทำกล้ารับผิดชอบ และตนทำเฉพาะผู้ชาย ไม่ยิงผู้หญิง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายวิมไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองพิษณุโลก
นางสาววิจิตรา สัมปุรณะพันธ์ ผู้ประกาศเอเอ็ม สวท.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ในห้องทำงานปีกซ้ายของอาคาร ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จึงรีบไปหลบใต้โต๊ะทำงาน ได้ยินเสียงเดินเข้ามาเปิดห้อง และเดินออกไปนอกห้อง และยังได้ยินเสียงยิงปืนด้านข้างสถานีอีก ไล่วิ่งไปยิง ผอ. จึงโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ 191 พิษณุโลก และหมอบอยู่ใต้โต๊ะ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาถึง
ขณะที่บรรยากาศภายในสถานี เต็มไปด้วยความโศกเศร้าของเพื่อนร่วมงานที่ทราบข่าว ญาติผู้เสียชีวิตได้มายังจุดเกิดเหตุ ต่างโผกอดแสดงความเสียใจ
พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุให้สัมภาษณ์เบื้องต้นว่า ผู้ก่อเหตุมีเหตุโกรธเคืองกับนายช่างใหญ่มาก่อนหน้านี้ มีการเตรียมการโดยเตรียมทั้งอาวุธปืนและอาวุธมีดมา มาถึงก็ยิงเข้าใส่หัวหน้าช่าง และมีผู้เห็นเหตุการณ์ในขณะนั้นจึงตามไปยิง จนกระทั่ง ผอ.สวท.พิษณุโลก มาเห็นเข้าจึงพยายามวิ่งหนีแต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณด้านหลังอาคาร
จากนั้นผู้ก่อเหตุจึงยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยของกลางทั้งปืนและมีด ที่ใช้ก่อเหตุ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 คน บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน และพิสูจน์หลักฐาน พร้อมแพทย์เก็บหลักฐานที่เกิดเหตุ ขอนำตัวผู้ก่อเหตุสอบสวนก่อน ว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรกันแน่ พร้อมทั้งเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลตัวผู้ก่อเหตุอย่างใกล้ชิด ระมัดระวังผู้ต้องหาฆ่าตัวตาย ในระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่