เปิดคลิป แม่ปุ๊ก บวชชี บีบน้ำตาพูดถึง น้องอมยิ้ม ผุดปมอาจวางยาเด็ก

จากกรณี น.ส.นิษฐา หรือ แม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี ถูกแจ้งความฉ้อโกงประชาชน และสงสัยว่าวางยาลูก น้องอมยิ้ม อายุ 4 ขวบ ที่ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ จนเสียชีวิต และน้องอิ่มบุญ ลูกชายวัย 2 ขวบ สร้างดราม่ารับเงินบริจาคนั้น

ประเด็นที่มีแชทไลน์หลุด แม่เอม แม่แท้ ๆ ของน้องอมยิ้ม ถามแม่ปุ๊ก ว่าน้องอิ่มบุญเป็นใคร ซึ่งแม่ปุ๊กตอบว่า "หลานชายพี่เอง ลูกน้องชายพี่ พี่เลี้ยงคู่มากับยิ้ม" และยังตอบเพิ่มเติมด้วยว่า "เลี้ยงเหมือนยิ้มนี่ล่ะ เอาลูกชาวบ้านมาเลี้ยง" ซึ่งคำตอบนี้ไม่ตรงกับคำให้การของแม่ปุ๊กว่า น้องอิ่มบุญเป็นลูกของตนเอง

ล่าสุด น้องชายแม่ปุ๊ก เปิดเผยว่า จากที่มีแชทหลุด ตนไม่ทราบว่าแชทหลุดไปแบบนั้นได้อย่างไร แต่ตนยืนยันว่าไม่ใช่ลูกของตนแน่นอน ไม่เคยมีลูกกับใคร ถามชาวบ้านแถวนี้ได้ ตนยังต้องทำงานเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ ส่วนตัวตนไม่ค่อยได้สุงสิงกับพี่สาวเท่าไหร่ ตนทำงานเช้ากลับอีกทีก็มืดแล้ว รู้แต่ว่าพี่ปุ๊กเปิดเพจให้น้องอมยิ้มและน้องอิ่มบุญ

ส่วนเรื่องเงินที่มีข้อมูลมาว่ามีเงินจำนวน 10 ล้าน เงินหมุนเวียน 20 ล้านนั้น ตนไม่เคยรู้เรื่องเช่นกัน ถ้ามีเงินมากมายจริง ๆ ทำไมตนยังผ่อนรถผ่อนบัตรเครดิตอยู่เลย จากข่าวที่ออกไปตนก็ยังช็อคและไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น

ด้านพ่อของแม่ปุ๊ก เล่าว่า ตนพูดจากสิ่งที่ตนเห็น และจากที่คลุกคลีกันอยู่ในบ้าน ส่วนลูกสาวจะทำอะไรหลานนอกบ้านนั้นตนไม่รู้ ส่วนลูกคนแรกน้องอมยิ้ม ลูกสาวย้ายมาอยู่ที่บ้านและอุ้มลูกมาด้วย ตนก็นึกว่าเป็นหลานมาโดยตลอด และมาน้องอิ่มบุญ ตนยืนยันว่าเป็นลูกของน้องปุ๊ก เพราะตนเป็นคนนำตัวลูกสาวไปส่งที่โรงพยาบาล และนั่งรอหน้าห้องคลอดด้วยตัวเอง

ระหว่างตั้งครรภ์ 9 เดือน ลูกสาวไม่ได้มีอาการคลื่นไส้ หรือแพ้ท้องใด ๆ ทั้งสิ้น และลักษณะท้องเล็กเหมือนคนอวบ แต่ถ้าหลังจากพิสูจน์มาแล้วว่าไม่ใช่ลูก ตนก็เหวอเหมือนกัน ตนยืนยันมีหลานสองคน เลี้ยงดูป้อนข้าวมาปกติ ถ้ามีการหยอดยาจริง ๆ ตนคงได้กลิ่นไปนานแล้ว ตนเพิ่งมารู้ว่าหลานคนแรกไม่ใช่ลูกก็วันที่ตำรวจมา ส่วนเรื่องเงินจำนวน 10-20 ล้าน ตนไม่ทราบเลยว่าลูกสาวมีเงินมากมายขนาดนั้น

นอกจากนี้ มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอขณะที่แม่ปุ๊ก บวชชีอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่ง หลังจากที่น้องอมยิ้ม เสียชีวิต

โดยคลิปดังกล่าวแม่ปุ๊ก พูดว่า "มีความทุกข์ ที่ทุกข์เพราะว่าลูกสาวปุ๊กไม่สบาย ตอนนี้เขาเสียแล้ว ปุ๊กรู้สึกว่าลูกคือชีวิตของปุ๊ก วันที่เขาเสียเหมือนโลกมันสลายไป เพราะปุ๊กเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว

ในตลอดเวลาที่ปุ๊ก รักษาเขามาปีกว่าใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลเราอยู่กับเขาตลอด แล้วน้องอีกคน (น้องอิ่มบุญ) ก็จะอยู่กับคุณยาย วันที่เขาเสียมันเหมือนโลกทั้งใบของปุ๊กมันล้มลงไป แต่คำพูดสุดท้ายที่เขาพูดทิ้งไว้ให้ปุ๊กคือ แม่อย่าร้องไห้ หนูไม่อยากเห็นแม่ร้องไห้ เคยพูดกับเขาว่าปุ๊กอยากพาเขามาที่นี่ อยากพาเขามาบวช ปุ๊กก็รอให้เขาดีขึ้น เคยโทรมาถามคุณแม่แล้ว แม่บอกว่าให้เขาดีขึ้นก่อน พร้อมที่จะมาได้ ก็จะให้มา แต่เขาก็มาไม่ได้

เพราะเสร็จจากงานเขา ปุ๊กมีลูกอีกคนที่ต้องดูแล ในวันที่เราจะล้มมีเด็กอีกคนเกาะขาเรา แล้วพูดว่าแม่จ๋า เรารู้สึกว่าเราต้องมีสติ ปุ๊กเลิกร้องไห้มาได้สักพักหนึ่งแล้ว ร้องหนักสุดในวันที่เขาเสีย พยายามทำทุกอย่างในงานของเขา อยากจัดให้เขาดีที่สุด ทำทุกอย่างดีที่สุด พยายามยิ้มให้กับทุกคน"

ด้าน พลตำรวจตรีจิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าคดี ระบุว่า

เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่พบในบ้านพัก ตั้งแต่ภาชนะ และเครื่องใช้เด็ก ไปจนถึงสารต้องสงสัยทั้งหมด และส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐานและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้ตรวจพิสูจน์เรื่องสารพิษแล้ว แต่ยังไม่ทราบผลตรวจ ซึ่งทางตำรวจก็จะมีการเร่งรัดผลตรวจอีกครั้ง

ขณะที่ พันตำรวจเอกปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า

ขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ในเรือนจำ ส่วนแม่เอม แม่แท้ ๆ ของน้องอมยิ้ม ได้สอบปากคำไปครบถ้วนแล้ว แต่หากหลังจากนี้มีประเด็นใดสงสัย ก็จะไปสอบปากคำเพิ่มเติมได้ เพราะมีการประสานกันตลอด ส่วนข้อมูลทั้งสองคนจะสอดคล้องหรือขัดแย้งกันหรือไม่ ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด

ทั้งนี้ คดีนี้ตำรวจตั้ง 5 ข้อหา โดยแม่ปุ๊ก ยอมรับเพียง 2 ข้อหา ในฐานฉ้อโกงประชาชน (ขายของออนไลน์) แต่ข้อหารับไว้ซึ่งเด็กเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ รวมถึงพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย ยังให้การปฏิเสธ