พ่อเมืองสุรินทร์โร่แจ้งความถูกตัดต่อคลิป ติดเชื้อโควิด ในจังหวัดแสนคน

 จากกรณีที่มีการตัดต่อคลิปผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และส่งต่อในโซเชียลมีเดีย พร้อมข้อความอ้างว่า "ความจริงปรากฏแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดแล้ว จังหวัดสุรินทร์ ติดเชื้อเป็นแสนราย อาการหนักอยู่ห้องไอซียู 5 พันคน ไม่แสดงอาการ 8 พันคน และอยู่โรงพยาบาลอีกนับหมื่น"

สำหรับคลิปดังกล่าวเป็นการให้สัมภาษณ์ของผู้ว่าฯ สุรินทร์ เกี่ยวกับการสร้างความตระหนักเรื่องการป้องกันการระบาดของโควิด 19 เพื่อเผยแพร่ในยูทูบ และเพจเฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ แต่มีคนนำตัดต่อเฉพาะบางช่วงไปเผยแพร่ จนสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ห้องประชุม ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ แถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า

เป็นคลิปที่ถูกตัดต่อ ถ้าไปฟังตั้งแต่ต้น ตนเอาข้อมูลที่ได้รับการคาดการณ์ขั้นสูงสุด ในการป้องกันแก้ไขปัญหา ซึ่งนักวิชาการให้คาดการณ์ขั้นสูงสุดไว้ก่อน หากไม่ทำอะไรปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ หากติดเชื้อประมาณนี้ โดยเอาอู่ฮั่นมาเปรียบเทียบ คนสุรินทร์มีประมาณ 1.3 ล้านคน คาดว่าจะมีคนติดเชื้อประมาณ 1.8 แสนคน มีอาการเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้านได้ ส่วนอีก 1.5 หมื่นคน ต้องไปนอนโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการ แต่มี 5,000 คน ที่จะเป็นคนป่วยหนักที่ต้องเข้าไอซียู ต้องพึ่งเครื่องช่วยหายใจ

หากเราปล่อยไปถึงขนาดนั้น เรามีแพทย์ไม่เกิน 380 คน มีพยาบาลแค่ 2,200 คน เครื่องหายใจทั้งจังหวัดแค่ 200 กว่าเครื่อง ดังนั้นวันนี้ถึงเวลาแล้วที่ชาวสุรินทร์ต้องออกมาช่วยกัน เพื่อไม่ให้มันเดินถึงจุดนั้น นี่คือภาพรวมที่ตนได้แถลงออกมาในวันนั้น ปรากฏว่ามีผู้ไม่หวังดีมาดึงเอาจากเพจของประชาสัมพันธ์จังหวัดออกไปตัดต่อ ตั้งแต่นาทีที่ 4.36 นาที เป็นต้นไป แทนที่จะเผยแพร่ตั้งแต่ต้น แล้วไปเขียนหัวว่า ผู้ว่าฯ ยอมรับความจริงแล้วว่าสุรินทร์มีคนติดเชื้อเป็นแสนคน เพื่อสร้างข่าวปลอม ทำคนเข้าใจผิด

นายไกรสร กล่าวต่อว่า ขอประณามการกระทำเช่นนี้ ซึ่งตนได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ยืนยันว่าขณะนี้ จ.สุรินทร์ มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวม 5 ราย ตามที่สื่อได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้นแล้ว ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันอยู่กับบ้าน รักษาระยะห่าง ก็จะสามารถลดการเพิ่มเชื้อตัวนี้ได้ และขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ ที่ตอนนี้ทำงานกันหนักมาก ไม่อยากให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกเลย