ลูกน้องยิง รอง ผกก.คาโรงพัก

เหตุฉุนนายออกคำสั่งปิดร้านสถานบันเทิงเปิดเกินเวลา ขณะนั่งก๊งเหล้ากับเพื่อน เผยนาทีมรณะปะทะคารมเดือด นายท้า "กล้ายิงหรือ" เลยโดนซัดเปรี้ยงที่แขน ก่อนจ่อยิงหัว-ลำตัวรวม 4 นัดตายคาที่

เมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 16 ต.ค.

พ.ต.ท.สุรจิต จันทร์แดง สารวัตรเวรสน.บางยี่ขัน รับแจ้งเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าสน.บางยี่ขัน จึงออกไปตรวจสอบพบร่างพ.ต.ท.วีรากร ไวยวุฒิ รองผกก.(ป) สน.บางยี่ขัน ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าบริเวณหน้าลำตัว แขนขา และศรีษะ รวม 4 นัด นอนร้องครวญครางอยู่ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศิริราช เป็นการด่วน แต่พ.ต.ท.วีรากร ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้คือ ร.ต.ท.วัชรินทร์ รักปทุม รองสารวัตรสอบสวนสน.บางยี่ขัน ช่วยราชการงานสืบสวน สน.บางยี่ขัน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป

ต่อมา พล.ต.ต.จุตติ ธรรมมโนวานิช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 พ.ต.อ.บัณฑิต ทิศาภาค ผกก.สน.บางยี่ขัน และ พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัตร ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 (ผกก.สส.บก.น.7) เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายเพื่อสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเคร่งเครียด
  
พล.ต.ต.จุตติ กล่าวว่า เบื้องต้น พ.ต.ท.วีรากร ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าบริเวณศรีษะ ลำตัว รวม 4 นัด

ส่วนสาเหตุจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า พ.ต.ท.วีรากร กับ ร.ต.ท.วัชรินทร์ มีเรื่องทะเลาะกันเป็นการส่วนตัว แต่ก็ไม่ยืนยันว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์อะไรหรือไม่ ซึ่งต้องมีการสอบพยานอีกหลายปาก ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำไปได้ไม่มาก ทาง พ.ต.ท.วีรากร กับ ร.ต.ท.วัชรินทร์ เคยปฏิบัติงานร่วมกันมาก่อนแล้วเกิดความไม่พอใจกันมาเป็นเวลานานแล้ว ขณะนี้ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป และไม่มีการติดต่อเพื่อขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะผู้บังคับบัญชามีอะไรฝากถึงผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติงานแล้วขัดแย้งกัน พล.ต.ต.จุตติ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอุทธาหรณ์อย่างหนึ่งสำหรับผู้บังคับบัญชาหากทราบว่าตำรวจมีปัญหากันควรจับมาปรับความเข้าใจจะได้ไม่เกิดปัญหาสูญเสียอย่างเหตุการณ์ครั้งนี้

สำหรับ ร.ต.ท.วัชรินทร์ เคยเป็นตำรวจชั้นประทวนสังกัด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จากนั้นเรียนจบปริญญาตรี จนสมัครสอบนายร้อยตำรวจเป็นพนักงานสอบสวน สันยาบัตร 1 ที่สน.บางยี่ขัน ประมาณ 2 ปี จากนั้นจึงขอมาทำงานฝ่ายสืบสวน
  
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า จากการสอบปากคำภรรยา ร.ต.ท.วัชรินทร์ ทราบว่า

ก่อนเกิดเหตุร.ต.ท.วัชรินทร์ ไปรับภรรยาที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อกลับมาที่แฟลตบางยี่ขัน จากนั้นร.ต.ท.วัชรินทร์ ขับรถออกไปนั่งดื่มเหล้าที่ร้านอีสานเถิดเทิง ติดห้างพาต้าปิ่นเกล้าจนภรรยาทราบภายหลังว่าร.ต.ท.วัชรินทร์ มาก่อเหตุยิง พ.ต.ท.วีรากร เสียชีวิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.ท.วัชรินทร์ ไปนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนที่ร้านอีสานเถิดเทิง ระหว่างนั้น พ.ต.ท.วีรากร ซึ่งปฎิบัติหน้าที่อยู่ได้ไปตรวจสถานบันเทิงในพื้นที่จนไปพบว่าร้านดังกล่าวยังไม่ปิดจึงสั่งให้เจ้าของร้านปิดร้าน แต่มี ร.ต.ท.วัชรินทร์ นั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนๆ ภายในร้าน จนสร้างความไม่พอใจให้ ร.ต.ท.วัชรินทร์ เป็นอย่างมาก  หลังจาก พ.ต.ท.วีรากร เดินทางกลับโรงพักและเตรียมตัวจะกลับบ้านซึ่งกำลังเดินลงมาจากโรงพักก็พบ ร.ต.ท.วัชรินทร์ ขับรถกระบะมาพร้อมกับเพื่อนมาจอดที่หน้าโรงพัก จากนั้นร.ต.ท.วัชรินทร์ เดินถืออาวุธปืนลงมาจากรถ แล้วต่อว่าพ.ต.ท.วีรากร โดยทั้งสองคนก็ทะเลาะวิวาทกันขึ้น ทาง พ.ต.ท.วีรากร ได้พูดขึ้นมา "มึงกล้ายิงกูหรือ" จากนั้นทำให้ ร.ต.ท.วัชรินทร์ ใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปที่แขน พ.ต.ท.วีรากร 1 นัด ทำให้ พ.ต.ท.วีรากร ล้มลงกับพื้น ร.ต.ท.วัชรินทร์ ใช้เท้าเหยียบลำตัวก่อนที่จะยิงศรีษะ และลำตัวอีก 3 นัด ก่อนที่จะขับรถกระบะหลบหนี

ทั้งนี้สำหรับประวัติพ.ต.ท.วีรากร นั้นจบจากนักเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่น 43

อดีตเคยเป็นนายเวร พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หลังจากนั้นดำรงตำแหน่งสารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี (สว.สส.สน.ลุมพินี) ก่อนที่จะย้ายมาเป็น รองผู้กำกับฝ่ายปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน (รอง ผกก.ป.สน.บางยี่ขัน)