ครอบครัวผู้สูญเสีย เปิดใจ หลังจับโจรชิงทองได้ ลั่น!ไม่อโหสิกรรม

วันนี้ (22 ม.ค.253) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ชิงทอง ในจ.ลพบุรี ตามโครงการคุ้มครองสิทธิ เพื่อสร้างวิถีชีวิตแห่งความเป็นธรรม ครั้งที่ 5 ประจำปี 2563

โดยได้มอบเงินให้กับนายวัลลภ นิ่มมา พ่อของ นายธีรฉัตร นิ่มมา พนักงานรักษาความปลอดภัย จำนวน 110,000 บาท นายสุรกิต ทองทิพย์ พ่อของ น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองออโรร่า จำนวน 110,000 บาท และน.ส.สิไลวรรณ ยังรอด แม่ของ ด.ช.ภาณุวิชญ์ วงศ์อยู่ (น้องไทตัล) จำนวน 110,000 บาท

ร.อ.สุระกิจ ทองทิพย์ พ่อของ น.ส.ธิดารัตน์ พนักงานร้านทอง กล่าวภายหลังจากทราบข่าวว่ามีการจับตัวผู้ต้องสงสัยที่อาจจะเป็นผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากได้ข้อมูลจากหลายกระแสว่าอาจเป็นบุคคลอื่น อย่างไรก็ตาม ต้องรอการแถลงข่าวจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) อย่างเป็นทางการว่าผู้ก่อเหตุตัวจริง และหากมีพยานหลักฐานชี้แจงได้อย่างชัดเจนก็พร้อมที่จะเชื่อ

ร.อ.สุระกิจ กล่าวว่า ตั้งแต่จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ ก็ยังไม่มีการได้รับการติดต่อ หรือเชิญตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่เป็นการจับแพะอย่างแน่นอน อยากให้เป็นคนร้ายตัวจริง

"ผมจะไม่อโหสิกรรมให้อย่างเด็ดขาด เพราะเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมกับลูกสาว และผู้บริสุทธิ์ หากได้พบผู้ต้องหาตัวจริง มีหลายคำถามที่อยากจะพูดด้วย อยากจะถามว่าเหตุใด จึงก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมกับผู้บริสุทธิ์ได้"

ครอบครัวผู้สูญเสีย เปิดใจ หลังจับโจรชิงทองได้ ลั่น!ไม่อโหสิกรรม

ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาระบุว่าอยากให้จับตายผู้ก่อเหตุ เนื่องจากหากการจับกุมคนร้ายมีการต่อสู้ขัดขืนก็อยากให้จับตาย แต่หากผู้ต้องหาให้ความร่วมมือในการจับกุมด้วยดี ก็ขอให้เป็นตามกระบวนการตามกฎหมาย และถูกประหารตายตกตามกันไป

ทั้งนี้หากหากจับกุมผู้ต้องหาตัวจริงได้ก็อยากจะบอกกับดวงวิญญาณของลูกสาวว่า ให้ไปสู่ในภพภูมิที่ดีไม่ต้องห่วงน้องออกัสลูกชาย และตนเอง ขอให้ไปสู่สุคติ

ด้านนายวัลล นิ่มมา พ่อของพนักงานรักษาความปลอดภัย กล่าวว่า ทราบข่าวว่ามีการจับตัวผู้ต้องสงสัยที่อาจจะเป็นผู้ก่อเหตุได้แล้ว หากเป็นเรื่องจริงต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานกันอย่างเต็มที่ และหากเจอกับคนร้ายก็อยากบอกกับคนร้ายว่าทำไมถึงมีพฤติกรรมโหดร้ายเช่นนี้ เป็นถึงผู้บริหารโรง เรียน เป็นบุคคลที่มีวุฒิการศึกษา

รู้สึกว่าเขาเป็นคนเลือดเย็นมาก รับไม่ได้กับเหตุการณ์ อยากให้มีบทลงโทษถึงขั้นประหารชีวิต เนื่องจากหากได้รับโทษ ก็จะติดคุกประมาณ 15 ปี เมื่อพ้นโทษออกมาก็อาจก่อเหตุซ้ำอีก

"หากแก้กฎหมายได้ อยากให้แก้กฎหมายให้มีความยุติธรรมมากกว่านี้ ทั้งนี้ยืนยันจะไม่อโหสิกรรมให้กับคนร้าย เพราะอโหสิกรรมไปก็ไม่ทำให้จิตใจของผู้ร้ายสูงขึ้น"