ให้ตรวจสอบการจราจรบริเวณถนนบรมราชชนนีขาเข้า ช่วงตั้งแต่ตลิ่งชันจนถึงบริเวณทางต่างระดับสิรินธร ซึ่งมีรถติดยาวเหยียดและรถเคลื่อนตัวได้ช้า จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ที่เกิดเหตุบริเวณเกาะกลางทางรวมระหว่างรถที่ยูเทิร์นช่วงสายใต้เก่ามารวมกับถนนบรมราชชนนีขาเข้า ซึ่งเป็นลักษณะสามเหลี่ยม พบรถยนต์จอดเรียงกัน 3 คัน คันแรกเป็นรถเก๋งโตโยต้า ยารีส สีขาว ทะเบียน กต 5107 สุพรรณบุรี สภาพท้ายรถด้านขวายุบ ถัดไปพบรถแบบเอชยูวี เล็กซัส แอลเอ็กซ์ 470 ราชบุรี สภาพกันชนหน้าเป็นรอย กระโปรงหน้าโก่ง และกระจกมองข้างด้านขวาหายไป ถัดไปอีกพบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ แค็ป สีเทา ทะเบียน ตถ 7715 กรุงเทพมหานคร สภาพบานกระจกมองข้างด้านขวาแตก
ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าคนขับรถเล็กซัส ผู้ก่อเหตุคือ นายทวี ไกรคุปต์ ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับรถกระบะมาตั้งแต่ช่วงถนนพุทธมณฑลสาย 5 แล้วขับหลบหนีมาตามถนนบรมราชชนนีขาเข้า จนเข้าพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน แล้วไปเฉี่ยวชนกับรถเก๋งโตโยต้า ยารีสอีกคัน แล้วทั้งหมดได้ลงมาเจรจากัน ซึ่งตนได้ให้รถทั้งหมดขยับไปจอดชิดขอบทางด้านซ้าย เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร ซึ่งรถของ นายทวีลูกกุญแจหักคาอยู่ในช่องเสียบ จึงไม่สามารถขยับรถได้ต้องนำรถมายกเพื่อเคลื่อนย้าย โดยทั้งรถเก๋งและกระบะมีประกันภัยชั้น 1 แต่รถของ นายทวี ไม่มีประกัน แต่ นายทวี ยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายและยอมตกลงกันเอง โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ นายทวีไม่ได้มีอาการมึนเมาแต่อย่างใด แต่น่าจะเกิดจากความชราภาพ
ปกติ นายทวี จะมีคนขับรถให้ แต่ครั้งนี้นายทวีขับรถมาเองและจะขับไปสภาเพื่อแถลงข่าวเรื่องขับรถชนในพื้นที่จังหวัดราชบุรี แต่ก็มาเกิดเหตุขึ้นอีก ส่วนนายทวีได้ทิ้งรถขึ้นรถแท็กซี่เพื่อไปสภาอย่างเร่งด่วน
โดยใช้เลนกลางส่วนรถของ นายทวี ขับมาเลนขวา ขณะที่กำลังแซงรถตน รถของนายทวี ได้เสียหลักเฉี่ยวกระจกมองข้างด้านขวาแตกจนเสียงดังลั่น ทุกคนในรถพากันตกใจแต่รถของ นายทวี ที่มีกระจะใสจนมองเห็นหน้าคนขับว่า เป็น นายทวี ก็ไม่มีที่ท่าว่าจะลงมาเจรจาแต่อย่างใด