ป้ายแดงหาย เรื่องยังเงียบ สาวร่ำไห้ร้อง สคบ. มาสด้า ทำได้แค่ให้รอ

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "บ๋อมแบ๋ม พรีเมียม" โพสต์ถึงเรื่องราวรถป้ายแดง หายไปจากศูนย์บริการ หลังจากนำรถเข้าซ่อม ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. โดยเดินทางไปรับรถวันที่ 6 พ.ย. แต่พบว่ารถหายไป โดยพบวงจรปิดว่ามีชายคนหนึ่งเป็นคนนำรถไปนั้น

คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 พ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) น.ส.นันทวัน ภูพาดแร่ อายุ 27 ปี นำหลักฐานเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่สคบ. เพื่อมาร้องเรียนกับทางศูนย์บริการและโชว์รูม บริษัท มาสด้า ซิตี้ จำกัด ถ.รามอินทรา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ภายหลังไม่มีความคืบหน้าเรื่องการชดเชยแม้แต่อย่างใด

น.ส.นันทวัน กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนนำรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า รุ่น 2 สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน 8 ฮก 8759 กรุงเทพมหานคร เพื่อไปเข้าศูนย์บริการดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อช่วงสิ้นเดือน ต.ค. ทางเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาแจ้งว่าอุปกรณ์ไฟฟ้ารถยนต์เสียและต้องรออีกประมาณ 3 สัปดาห์ถึงจะซ่อมจนแล้วเสร็จ ตนจึงสอบถามกลับไปว่าหากใช้เวลานานขนาดนี้ตนขอนำรถไปเข้าศูนย์เพื่อเครมสีที่ตั้งอยู่ใกล้ก่อนได้หรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยไปยื่นเรื่องทิ้งไว้ จนกระทั่งเมื่อผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการดังกล่าวได้โทรศัพท์มาบอกตนว่า รถเสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงเวลา 13.00 น. ของวันที่ 5 พ.ย. โดยตนติดธุระก่อนเดินทางไปรับในเวลา 16.00 น. ของวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา

น.ส.นันทวัน กล่าวต่อว่า เมื่อไปถึงตนนำใบรับรถไปส่งมอบให้พนักงานก่อนจ่ายเงินส่วนต่างที่ไม่ได้อยู่ในประกัน จากนั้นพนักงานที่รับรถเดินมาบอกตนว่า รถไม่ได้อยู่ที่ศูนย์บริการแล้วมีเจ้าหน้าที่รับไปทำสีต่อ ซึ่งตนก็ไม่ได้ตกใจแม้แต่อย่างใด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามยังศูนย์ทำสีที่เคยส่งเรื่องไว้

โดยทางสาขาชี้แจงว่า ไม่ได้ส่งพนักงานไปรับแม้แต่อย่างใด ตนจึงแจ้งไปยังผู้จัดการสาขาที่ศูนย์บริการอีกครั้ง ก่อนมีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่ารถถูกนำออกไปตั้งแต่เวลา 11.00 น. ของวันที่ 5 พ.ย. ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าบุคคลที่นำรถตนออกไปนั้นได้เดินทางมาตั้งแต่ช่วงเวลา 21.00 น. ของวันที่ 4 พ.ย. แต่ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่อนุญาต เนื่องจากไม่ใช่เวลาทำการ จนกระทั่งจู่ๆได้ขับรถออกไปตามวันและเวลา ดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อตนสอบถามว่าเพราะสาเหตุใดถึงไม่ตรวจสอบบัตรพนักงานกลับได้รับคำตอบว่าบุคคลที่นำรถออกไปนั้นได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อตนแน่ชัดว่ารถหายจึงตัดสินใจไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สน.หัวหมากตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา

น.ส.นันทวัน กล่าวอีกว่า ซึ่งจนมาถึงวันนี้ทางศูนย์บริการมีการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด โดยให้ความหวังว่าจะชดใช้ให้ 100 เปอร์เซ็นต์ และนำรถคันอื่นมาให้ใช้แทนไปก่อน จนมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตนโทรศัพท์ไปสอบถามเพื่อขอความชัดเจนว่าจะชดใช้ให้อย่างไร ก่อนได้รับคำตอบว่าต้องรอ รออย่างเดียว ตนจึงแจ้งไปว่าต้องรอไปจนถึงเมื่อไหร่ หากภายในวันที่ 22 พ.ย. ไม่มีความชัดเจน ตนจะไปแจ้ง สคบ. ทางศูนย์จึงตอบกลับว่าสามารถไปแจ้งได้เนื่องจากเป็นสิทธิ์ของลูกค้า

"ในส่วนเรื่องของคดีความนั้นขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ได้ทราบตัวบุคคลที่นำรถตนออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยมีการออกหมายเรียกถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่ได้ออกหมายจับแม้แต่อย่างใด นอกจากนี้ทางศูนย์บริการ ยังชี้แจงอีกว่า บุคคลที่นำรถออกไปนั้นไม่ใช่พนักงานโดยตรงอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องการชดใช้ทางศูนย์ได้ให้คำตอบว่า จะชดใช้รถคันใหม่ให้แต่ต้องใช้เวลาเนื่องจากต้องไปทำสัญญาใหม่ จนมาถึงขณะนี้ตนก็ไม่ได้รับการยืนยันจนตัดสินใจมาร้องเรียนที่สคบ." น.ส.นันทวัน กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ประยูร ทองนุ่น สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า โดยขณะนี้ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยที่แสดงตนอยู่ในภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุนำรถออกจากศูนย์ไป ซึ่งออกหมายเรียกส่งไปที่สภ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตามภูมิลำเนา ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา และให้มาพบภายในวันที่ 6 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งหากไม่มาพบตามกำหนดจะต้องพิจารณาออกหมายจับในข้อหาลักทรัพย์ต่อไป