ลูกชาย-สะใภ้ ร้องทนาย! แม่วัย83 ถูกพนักงานธนาคารโกงเงินกว่า13ล้าน
เมื่อนำสมุดบัญชีไปตรวจสอบกับธนาคารพบว่า ไม่มียอดเงินตามที่มียอดแจ้งไว้ในสมุดฝากเงิน โดยทางธนาคารยอมชดใช้เงินคืนให้พร้อมดอกเบี้ยจำนวน 10,075,629.46 บาท ส่วนที่เหลืออีก 3,474,372 บาท ธนาคารไม่คืนให้อ้างว่าตรวจสอบแล้วยอดไม่ตรงกันเป็นยอดซ้ำถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องร้องเอา
นายวิจิตร กล่าวว่า ที่ตนพร้อมภรรยาตัดสินใจเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อนายรัชพล ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เพราะอยากให้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องคดีความเนื่องจากทางธนาคารดังกล่าวปัดความรับผิดชอบเงินอีกกว่า 3 ล้านบาท โดยอ้างว่าได้ตรวจสอบเงินในบัญชีของแม่ตนทั้ง 10บัญชีแล้วพบว่ามียอดเงินซ้ำกัน
แต่ตนกลับมองว่าเมื่อแม่ตนนำเงินไปฝากที่ธนาคารและพนักงานของธนาคารรับฝากเงินแล้ว มีการอัปยอดเงินลงในสมุดบัญชีแล้วจะเป็นยอดซ้ำกันได้ยังไง เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถึงแม่ตนจะอายุมากแล้วยังไงก็ต้องตรวจสอบยอดเงินที่ฝากแล้วอย่างแน่นอน และทุกครั้งที่แม่ไปฝากเงินก็ไปฝากที่ธนาคารทุกครั้ง ซึ่งความผิดคือพนักงานธนาคารเองที่ทุจริตแล้วทำไมธนาคารจึงไม่รับผิดชอบกับเงินส่วนที่เหลือ
หลังจากนั้นทางธนาคารได้เข้าเจรจาไกล่เกลี่ยหลายครั้งจนยอมชดใช้เงินให้แค่ 10,075,629.46 บาทเท่านั้น ที่เหลือให้ไปฟ้องร้องเอา ซึ่งตนมองว่าธนาคารทำถูกแล้วหรือ ที่ทำกับลูกค้าแบบนี้ ทั้งที่มันเป็นความผิดของพนักงานธนาคารเองทั้งหมด
นายรัชพล กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องเรียนจะติดตามคดีนี้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุคคโล และ สน.คลองสาร เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องต่อศาล พร้อมทั้งจะพาผู้เสียหายไปร้องเรียนต่อสำนักงานคุ้มใครองผู้บริโภค ว่าสิ่งที่ธนาคารทำมันถูกต้องหรือไม่