"เกาะช้าง" มาเฟียขู่! บังคับขาย
ฝรั่งชาวผู้ดีควงเมียไทยร้องกองปราบฯ ระบุถูกมาเฟียเกาะช้างขู่บังคับให้โอนกรรมสิทธิ์รีสอร์ต เผยลงทุนสร้างก่อนประกาศขาย 10 ล้าน เจ้าถิ่นติดต่อซื้อและต่อรองเหลือ 5.5 ล้านสุดท้ายยอมขายและรับเงินมัดจำ 1 แสน จากนั้นยกพวกเข้ามาตกแต่งต่อเติม ล่าสุดยกพวกเข้ารุมทำร้ายบังคับซื้อในราคา 4 ล้านและให้เซ็นกรรมสิทธิ์ เหยื่อโร่แจ้งความแต่ตร.เกาะช้างนิ่ง จึงเข้าร้องกองปราบฯ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ต.ค. ที่กองปราบปราม นางรัตนา เนียมสูงเนิน อายุ 32 ปี พร้อมด้วยสามีคือนายดาเวลล์ ไวน์โต้ หรือ "ไบรอัน" อายุ 45 ปี ชาวอังกฤษ
อยู่บ้านเลขที่ 13/4/1 หมู่ 4 ต.เกาะช้าง กิ่งอ.เกาะช้าง จ.ตราด เข้าพบ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป. เพื่อร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกเจ้าของวินรถตู้ในสายใต้ใหม่ พาลูกน้องมารุมทำร้ายเพื่อให้คนทั้งสองเซ็นโอนกรรมสิทธิ์รีสอร์ตให้ ทั้งที่ยังจ่ายเงินไม่ครบตามสัญญาที่ตกลงกันไว้
นางรัตนา กล่าวว่า แต่งงานอยู่กินกับนายดาเวลล์มานานกว่า 10 ปี
ก่อนหน้านี้พักอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ต่อมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ขายบ้านที่อังกฤษแล้วนำเงินมาลงทุนเช่าที่ดินบนเกาะช้างเนื้อที่กว่า 500 ตารางวา เพื่อทำรีสอร์ตโดยทำสัญญา 30 ปี ชื่อว่า "แบ็คแพคเกอร์" ต่อมาเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นายพรนที ตระกูลสุขศรี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115/103 หมู่ 7 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. มาติดต่อขอซื้อกิจการ ตนได้ตั้งราคาไว้ที่ 10 ล้านบาท แต่มีการต่อรองราคากันเหลือ 5.5 ล้านบาท จึงยอมตกลง
นางรัตนา กล่าวต่อว่า นายพรนทีนำเงินมาจ่ายค่ามัดจำไว้จำนวน 1 แสนบาท
แต่ยังไม่ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้ จนกว่าจะจ่ายเงินครบตามสัญญาที่ตกลงไว้ กระทั่งเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา นายพรนทีได้นำคนงานประมาณ 10 คน เข้ามาอยู่ที่รีสอร์ตเพื่อควบคุมการก่อสร้างและเรียนรู้งานทั้งหมด ทั้งๆ ที่ยังไม่จ่ายเงินให้ครบตามสัญญา นอกจากนี้นายพรนที ยังได้พยายามต่อรองราคาลงมาให้เหลือ 4 ล้านบาทอีกด้วย
"ช่วงนั้นไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะนายพรนที นำคนงานเข้ามาอยู่ที่รีสอร์ตเป็นจำนวนมาก และไม่กล้าว่าอะไร จนมาเมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายพรนที นายกิจ พร้อมลูกน้องอีก 3 คน ได้ใช้ไม้และขวดเข้ามารุมทำร้ายดิฉัน สามี และน้องชายสามีจนได้รับบาดเจ็บ พร้อมข่มขู่ว่าด้วยว่า ครั้งนี้เป็นแค่การเตือนเท่านั้น โทษฐานที่ไม่ยอมเซ็นโอนกิจการให้ต่อมาได้ไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยว และพาไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.อ.เกาะช้าง แต่ตำรวจกลับบอกว่าให้ไปไกล่เกลี่ยกันเอง เพราะเป็นเรื่องของสัญญาที่ต้องตกลงกัน ดิฉันเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงพากันเดินทางมาร้องทุกข์ที่กองปราบปราบ เพื่อให้ดำเนินการกับการกระทำของนายพรนที" เจ้าของแบ็คแพคเกอร์ กล่าวและว่า ตอนนี้ต้องย้ายหนีออกมาอยู่ที่พัทยา โดยสามีไปร้องขอความคุ้มครองจากสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยด้วย
ด้าน พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ หลังได้รับทราบเรื่องราวจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วิชิต ปักษา ผกก.2 บก.ป. จัดชุดสืบสวนลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว หากพบการกระทำผิดให้รวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป