เหยื่อ แก๊งรีดลิขสิทธิ์ แห่ร้องยธ. แฉยับ! แค้นใจขายของแท้ก็โดน ข้องใจตร.เอี่ยว?
นายวรกร กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รวบรวมผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มบุคคลแอบอ้างว่า เป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์จับกุมและข่มขู่กรรโชกทรัพย์ในพื้นที่กทม.และปริมณฑลได้ประมาณ 300 ราย แต่มีตัวแทนของผู้เสียหายประมาณ 90 รายมายื่นเรื่องร้องเรียน ซึ่งหลายรายถูกเจ้าหน้าที่บริษัทลิขสิทธิ์ข่มขู่คุกคาม โดยเฉพาะในขั้นตอนการควบคุมตัวภายหลังการถูกล่อซื้อ ส่วนใหญ่ต้องจ่ายเงินให้กับขบวนการดังกล่าวตั้งแต่ 30,000-100,000 บาท
นายวรกร กล่าวต่อว่า แม้บางรายจะมีของแท้ลิขสิทธิ์ถูกต้องเป็นของพรีออเดอร์นำเข้าโมเดลการ์ตูนจากญี่ปุ่น ก็ถูกขบวนการดังกล่าวล่อซื้อให้นำของมาส่งโดยจะเลือกตัวที่ไม่มีกล่องใส่ตัวโมเดล รวมถึงพ่อค้าที่ขายโมเดลการ์ตูนมือสอง ก็จะถูกล่อซื้อเพื่อเรียกค่าปรับลิขสิทธิ์ในลักษณะเดียวกัน บางรายหวาดกลัวจากการถูกข่มขู่จึงยอมจ่ายเงินเพื่อยุติเรื่อง เมื่อทราบว่าเป็นขบวนการหากินช่องว่างทางกฎหมายจึงรวมตัวเพื่อแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากพฤติการณ์เป็นเครือข่ายเดียวกันและมีภาพถ่ายแสดงความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มบุคคลดังกล่าว
นายวรกร กล่าวอีกว่า เบื้องต้นต้องกาารขอให้กระทรวงยุติธรรมให้ความช่วยเหลือด้วยการประสานไปยังตำรวจเพื่อให้พนักงานสอบสวนใช้ดุลยพินิจเกี่ยวกับการประกันตัวผู้ต้องหา โดยไม่ต้องเรียกหลักทรัพย์ เพราะมั่นใจว่า หากคดีขึ้นสู่การพิจารณาในชั้นศาล ศาลจะยกฟ้อง เนื่องจากการล่อซื้อเป็นเจตนาให้ได้มาซึ่งพยานหลักฐานที่ไม่สุจริต
ด้าน นายสามารถ กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว เนื่องจากปัญหาการใช้ช่องว่างทางกฎหมายมาหากินรีดทรัพย์จากประชาชนเกิดขึ้นมานานแล้ว จึงต้องเร่งแก้ไขเพื่อตัดวงจรของขบวนการดังกล่าว ซึ่งกระทรวงยุติธรรมมีกองทุนยุติธรรมพร้อมให้ความช่วยเหลือทั้งค่าทนายความและหลักทรัพย์ประกันตัว
ขณะที่ ผู้เสียหายรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนมีอาชีพเสริมขายโมเดลการ์ตูนลิขสิทธิ์แท้ซึ่งเป็นของหิ้วนำเข้ามาครั้งละ 1-2 ตัว โดยโพสต์ขายออนไลน์ ต่อมามีผู้สั่งสินค้าติดต่อซื้อโดยให้นำของที่มีอยู่ทั้งหมดมาส่งที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อส่งมอบสินค้าซึ่งมีแค่ 2 ตัว ก็มีกลุ่มที่อ้างว่าเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ไม่พอใจว่าทำไมมีเพียง 2 ตัว และนำตนไปยัง สภ.ปากเกร็ด ข่มขู่ กรรโชกทรัพย์ พร้อมใช้อุปกรณ์สำนักงานของโรงพักทุกอย่าง
"โดยอ้างว่าตำรวจติดภารกิจอื่น จึงต้องสอบสวนแทนและยังแยกพ่อของตนไปสอบสวนอีกห้องหนึ่ง แต่โชคดีที่ร้อยเวรคนหนึ่งกลับมาเห็นเหตุการณ์จึงรับแจ้งความ ทำสำนวนและให้ไปสู้คดีกันในชั้นศาล ซึ่งกรณีของผมบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นก็ยืนยันว่าเป็นโมเดลแท้ จึงอยากออกมาใช้สิทธิฟ้องกลับบุคคลที่แอบอ้างเพื่อไม่ให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อของคนที่ถูกกระทำ" ผู้เสียหาย กล่าว
ส่วน แม่ค้าขายของออนไลน์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากลูกค้ารายหนึ่งให้จัดหาตัวการ์ตูนโดราเอมอน 5 ชุด ในราคา 1,090 บาท และนัดส่งสินค้าให้ลูกค้าตามที่นัดไว้ในช่วงเย็น แต่กลับถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจของโรงพักแห่งหนึ่งในจ.นครปฐม เข้าจับกุมในข้อหาละเมิดสินค้าลิขสิทธิ์ และมีการเรียกเงินประกันตัว 50,000 บาท
แม่ค้าออนไลน์ กล่าวต่อว่า ตนจึงโต้แย้งเจ้าหน้าที่ว่า ตัวการ์ตูนโดราเอมอนไม่ได้มีลิขสิทธิ์แล้ว และขอต่อสู้คดีในชั้นศาล โดยขอใช้หลักทรัพย์คือที่ดิน เนื่องจากไม่มีเงินสดในการยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งตนว่า คดีละเมิดลิขสิทธิ์ไม่สามารถใช้หลักทรัพย์อื่นประกันตัวได้ และขอให้มีการไกล่เกลี่ยเพื่อขอให้จบเรื่อง จากที่เรียก 50,000 บาท ก็มีการลดจำนวนเงินไปเรื่อย ๆ ก็ยืนยันว่าไม่มีเงิน จะยอมติดคุกไปเลย
"แต่แม่กลัวว่าหนูจะเสียประวัติ กระทั่งเจรจาจบลงที่ 10,000 บาท โดยได้โอนเงินเข้าบัญชีของนายดาบตำรวจชุดจับกุม ซึ่งหลักฐานต่าง ๆ ได้เก็บไว้หมด เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีการทำกันเป็นขบวนการ เพราะหลังจากมีเด็กถูกจับคดีละเมิดลิขสิทธิ์กระทงที่โคราช ผู้ที่ถูกกลุ่มคนพวกนี้จับกุมจึงโผล่ออกมาร้องเรียนเยอะมาก ทั้งในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ราชบุรี ร้อยเอ็ด เชื่อว่าน่าจะมีการทำเป็นขบวนการ" แม่ค้าออนไลน์ กล่าว
ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมและผู้ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ ใช้วิธีการบีบบังคับด้วยคำพูดและการกระทำ ไม่ให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน จึงอยากขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือประชาชนด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ต้องหาคดีละเมิดลิขสิทธิ์ใช้สิทธิ์ประกันตัวเองได้ ให้ญาติประกันตัวผู้ต้องหาได้แทนการใช้เงินสดจำนวน 50,000 บาท ทั้งนี้ ตนจะขอนำหลักฐานทั้งหมดที่มีฟ้องกลับเอาผิดตำรวจและบุคคลที่อ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ด้วย