หิ้ว ไอ้เอ็ม ฆ่าเศรษฐีนีทำแผน หวิดโดนตึ๊บ เสียงชาวบ้านสาปแช่งลั่น
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม หิ้ว ไอ้เอ็ม ฆ่าเศรษฐีนีทำแผน หวิดโดนตึ๊บ เสียงชาวบ้านสาปแช่งลั่น
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ดำเนิน กันอ่อง ผกก.สภ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.ภ.จว.เชียงใหม่ ตำรวจสภ.จอมทอง เจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองอำเภอจอมทองกว่า 100 นาย ได้ทำการปิดกั้นบริเวณห้องแถว 3 ชั้นเลขที่ 90/3 หมู่ 3 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรม น.ส.วรรณี จิรเจริญยิ่ง เศรษฐินีนักปฏิบัติธรรม วัย 58 ปี โดยทางตำรวจมีแผนจำลองนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ปรากฏว่าตั้งแต่เวลา 06.00 น.มีชาวบ้านใน อ.จอมทอง และใกล้เคียงกว่า 300 คน ได้มาปักหลักรอดูการทำแผน ทางเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นระหว่างทำแผน จึงต้องประสานขอกำลังเพิ่มจากหน่วยงานใกล้เคียงที่เกี่ยวข้องมาปิดล้อมพื้นที่ทั้งหมดไว้
อีกช่วงหนึ่งของการทำแผนเป็นบริเวณห้องครัวที่ต่อเติมด้านข้างของทาวน์เฮ้าส์ซึ่งเป็นจุดที่ นายเอ็ม อุ้มศพของ น.ส.วรรณี เข้าไปใส่ในตู้เย็นก่อนจัดการอำพรางศพด้วยการใช้ผงปูนโรยปิดทับก่อนจะหลบหนีออกไปทางประตูหน้า เจ้าหน้าที่ใช้เวลาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในเวลาสั้นๆ เพียง 15 นาที เพราะเกรงว่าจะเกิดความโกลาหลจากชาวบ้านที่มาเฝ้ารอกันเป็นจำนวนมาก จากนั้นได้ควบคุมตัว นายเอ็ม ขึ้นรถส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดฮอด
พ.ต.อ.สุคนธ์ เปิดเผยว่า คดีนี้ไม่ซับซ้อนและทุกอย่างก็คลี่คลายหมดแล้ว ผู้ต้องหายอมรับสารภาพทุกขั้นตอนของการลงมือฆ่า และมีการทำแผนรับสารภาพ โดยจุดสำคัญคือจุดที่มาทำวันนี้ ตั้งแต่ขั้นตอนการเข้าบ้าน การลงมือต่างๆ ส่วนขั้นตอนอื่นๆ ทั้งไปซื้ออุปกรณ์อำพรางศพ และการไปกดเงินรวมทั้งอื่นๆ เรามีภาพวงจรปิดใช้ประกอบในสำนวนหมดแล้ว โดยตอนนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาแก่ นายเอ็ม 5 ข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นตายโดยทรมาน, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิคส์ผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต, เอาไปซึ่งเอกสารโดยประการใดๆ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
คดีนี้แม้ นายเอ็ม จะรับสารภาพว่าทำเพียงคนเดียว แต่ในทางสอบสวนจะยังคงดำเนินไปอยู่ เพื่อดูว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องมีส่วนในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ยังระบุไม่ได้ว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องคนไหนจะถูกแจ้งข้อหา หรือจะถูกกันเป็นพยานในคดี นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะติดตามทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะเงินสดที่กดออกไปโดยจากคำให้การมีการกดเงินไปจำนวน 1.7 ล้านบาท เหลือที่ยึดคืนได้ 1.2 ล้านบาท โดยเชื่อว่ามีการนำเงินไปใช้จำนวน 5 แสนบาท รวมทั้งเครื่องประดับที่หายไปจำนวนหนึ่ง โดยทางตำรวจจะตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อรวบรวมคืนให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุด หลังการทำแผนก็จะนำตัวผู้ต้องหาฝากขังที่ศาลเข้าสู่เรือนจำไปเลย ไม่มีการสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะใช้เวลาในการทำสำนวนและรอทางนิติวิทยาศาสตร์ และผลการนิติเวช มาประกอบในสำนวน เชื่อว่าสำนวนทุกอย่างจะสมบูรณ์ภายใน 1 เดือน ก็จะสามารถสรุปเสนอให้พนักงานอัยการดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายได้
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น