ออกหมายจับอีก 5 แก๊งลักปืนหลวง “บิ๊กแป๊ะ” ฉุน “ด.ต.” สั่งเอาผิดหนักสุด
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ออกหมายจับอีก 5 แก๊งลักปืนหลวง “บิ๊กแป๊ะ” ฉุน “ด.ต.” สั่งเอาผิดหนักสุด
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษกสตช.) เปิดเผยถึงกรณีดาบตำรวจ สภ.ท่าหิน นำปืนหลวงซึ่งเป็นปืนที่อยู่ในคลังของ สภ.ท่าหิน ไปจำนำแก่บุคคลภายนอก ในพื้นที่ สภ.ท่าหิน จว.ลพบุรี ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.ท่าหิน ว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 62 ด.ต.ชรินทร์ บุตรดี ซึ่งทำหน้าที่ดูแลพัสดุและสิ่งของหลวง ได้กระทำผิดวินัยร้ายแรง โดยการนำอาวุธปืนในคลังของ สภ.ท่าหิน ไปจำนำแก่บุคคลอื่น รวมทั้งหมด 50 กระบอก
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทาง สภ.ท่าหินได้ดำเนินคดีอาญากับ ด.ต.ชรินทร์ ประกอบกับทาง ภ.จว.ลพบุรีได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พร้อมมีคำสั่งให้ออกจากราชไว้ก่อนแล้ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส กับทุกฝ่าย ประกอบกับได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนดำเนินคดีอาญา และตั้งชุดสืบสวนติดตามอาวุธปืนดังกล่าว
ต่อมาในวันที่ 25 ต.ค.62 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัว นายประทีป โตพูล ตามหมายจับของศาลจังหวัดลพบุรี "ในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดซื้อ ทำ ดูแล รักษาทรัพย์ใดๆเบียดบังทรัพย์นั้นป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต หรือรับของโจร" และได้นำตัวฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤตมิชอบภาค 1 จ.สระบุรี และวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถติดตามอาวุธปืนของหลวงที่หายไปได้อีก 1 กระบอก บริเวณป่าหญ้าด้านหลังศาลารถประจำทาง ถนนสุรนารายณ์ ต.นาโสม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี
ขณะนี้เบื้องต้น สามารถติดตามอาวุธปืนคืนได้แล้วจำนวน 19 กระบอก คงเหลือที่หายอีก จำนวน 31 กระบอก
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ โปร่งใส รวดเร็ว เป็นธรรม ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหากทำผิดจริง ต้องเอาโทษให้ถึงที่สุด ทั้งทางวินัยและทางอาญา อย่างเด็ดขาด โดยจะต้องรับโทษหนักกว่าบุคคลธรรมดา เพราะว่าเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายแต่กลับทำผิดเสียเองโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่เคารพต่อเกียรติของตำรวจ
พร้อมทั้งกำชับให้ผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้น เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย สอดส่อง ตรวจตรา ความสงบเรียบร้อย รวมไปถึงมาตรการในการป้องกันเหตุ สำรวจสิ่งของหลวงตามกำหนด โดยเน้นย้ำอย่าให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก และได้กำชับกองบัญชาการทุกภาคส่วน ให้กำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัดอย่างใกล้ชิด คอยสอดส่อง ดูแลให้ประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัย ตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 โดยต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง หรือสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น