หนุ่มต่อยหน้าผู้หญิง ประแจทุบรถ ที่แท้ เคยโดนรุมกระทืบ จนจิตไม่ปกติ สาวยังผวาอยู่
ล่าสุดวันที่ 9 ต.ค. ที่สน.จรเข้น้อย พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผบช.น. เปิดเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นภายหลังมีคลิปเผยแพร่บนโลกโซเชียลและมีสื่อนำเสนอเรื่องราว ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะเป็นการทำร้ายร่างกายผู้หญิงซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมเฝ้าจับตามอง จากเรื่องเล็กอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ วันนี้จึงพาผู้เสียหายมาพูดคุยกับผู้ต้องหาถึงสิ่งที่ได้กระทำไป
จากการสอบถามญาตินายฉัตรชัย ทราบว่า เมื่อ 4-5 ปี ก่อน นายฉัตรชัย เคยถูกรุมทำร้ายร่างกาย จนมีอาการผิดปกติทางจิต มักจะพูดจาวกวน เคยรักษาอาการที่ร.พ.พระมงกุฎ ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ว่าเคยเข้ารับการรักษาจริงหรือไม่ ในวันเกิดเหตุ ผู้เสียหาย ได้ขับรถอยู่ในซอยลาดกระบัง 54 ระหว่างนั้นมีรถจยย. ของผู้ต้องหา ขับอยู่ด้านหน้าเนื่องด้วยเป็นถนนเลนสวน ทำให้น.ส.เอ แซงไม่ได้ ต้องกระพริบไฟใส่
นายฉัตรชัยจึงหลบทางให้แต่เมื่อรถยนต์แซงขึ้นไป นายฉัตรชัย ที่อยู่ในอารมณ์โมโห จึงบันดาลโทสะขี่จยย. แซงคืนพร้อมหยุดรถก่อนจะลงไปทำร้ายหญิงสาวผู้เสียหาย ด้วยการชกหน้า 1 ครั้ง และใช้ประแจเบอร์ 23 ทุบกระจกฝั่งคนขับจนแตก ซึ่งทางผู้เสียหายมีคลิปที่ถ่ายไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด รวมถึงกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุด้วย
ขณะที่ นายฉัตรชัย กล่าวว่า ตนยอมรับผิดกับสิ่งที่กระทำไปเหตุเพราะอารมชั่ววูบ ทีแรกตนไม่ทราบว่าเป็นผู้หญิง โดยที่ไม่มีการปาดหน้ากันหรือเฉี่ยวชนกันแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนไม่ได้เสพยาเสพติดหรือดื่มแอลกอฮอล์มาก่อน ที่ตนทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ตนขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย
ด้าน หญิงสาวผู้เสียหาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนไม่ได้ขับจี้ท้ายเพียงแต่กระพริบไฟ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งเมื่อพูดคุยกับนายฉัตรชัย แล้วรู้สึกว่ามีอาการไม่ปกติ ควรเข้ารับการรักษากับแพทย์จริงๆ แม้ตนจะไม่ได้โกรธแล้ว แต่ยืนยันว่าจะดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เพราะตอนนี้ยังรู้สึกหวาดระแวงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก ทางเจ้าหน้าที่จับกุม นายฉัตรชัย ผู้ต้องหามาได้ นายฉัตรชัย มีอาการหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา เพียงแตะตัวก็มีอาการตกใจรุนแรง รวมถึงไม่ยอมดื่มน้ำที่ตำรวจจัดไว้ให้ดื่ม