หนูน้อย ป.5 คิดสั้นผูกคอฆ่าตัวตาย พี่สาวช่วยไว้ทัน รอดตายหวุดหวิด เครียดโดนเพื่อนแกล้ง
จากการสอบถาม ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี พี่สาวของเด็ก เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงบ่ายวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา แม่ไม่อยู่บ้าน ตนและน้องชายคือ ด.ช.เอ วัย 11 ปี และน้องชายอีกคนวัย 8 ปี อยู่บ้านกันเพียงลำพัง ช่วงที่ตนกำลังเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมทำอาหารให้น้องๆ กิน ตนเรียก ด.ช.เอ แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบ จึงเดินออกมาดูที่ห้องโถงในบ้าน ก็พบน้องชายใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตัวเองหมดสติอยู่ จึงรีบเข้าไปปลดผ้าออก แล้วขับรถจักรยานยนต์ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในหมู่บ้าน ช่วยกันปฐมพยาบาล และนำตัวน้องชายส่งรพ.ลำทับ ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร
ขณะที่ นางแก้ว (นามสมมติ) อายุ 46 ปี แม่ของ ด.ช.เอ บอกว่า สาเหตุที่ลูกชายคิดสั้น เชื่อว่ามาจากปัญหาในกลุ่มเพื่อนที่โรงเรียน โดยเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนทราบจากลูกว่ามีกลุ่มนักเรียนในโรงเรียนบางกลุ่ม มาข่มขู่และทำร้ายลูก ก่อนหน้านี้ลูกไปเล่นเครื่องเล่นในโรงเรียน แล้วเสียหลักล้มลงทำให้เท้าไปโดนนักเรียนคนหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ กลุ่มนักเรียนดังกล่าวจึงทำร้ายชกหน้าลูกชาย จนลูกบ่นว่าไม่อยากจะไปโรงเรียนแล้วเพราะกลัวจะเกิดเรื่องอีก วันเกิดเหตุตนไปทำงานที่เกาะลันตา อ.เกาะลันตา แต่ลูกขอไปด้วย ตนมองว่าไม่สะดวกจึงให้ลูกอยู่บ้านกับพี่สาวและน้องชาย คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ตนได้เล่าเรื่องดังกล่าวให้ครูที่โรงเรียนทราบ ซึ่งครูรับปากว่าจะเร่งสืบหาว่าเป็นเด็กกลุ่มไหน ยืนยันว่าลูกชายเป็นเด็กขยัน อยู่บ้านก็จะช่วยตนทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ทั้งช่วยกรีดยางขาย เวลาอยู่โรงเรียนก็ชอบช่วยเหลืองานครูที่โรงเรียน แต่อาจจะทำให้เพื่อนบางคนไม่ชอบ เพราะเป็นเด็กที่ครูรัก
ด้าน นพ.สุพจน์ ภูเก้าล้วน ผอ.รพ.กระบี่ เผยว่า ตอนนี้อาการของเด็ก ยังอยู่ในขั้นตอนการเฝ้าระวัง เนื่องจากสมองขาดออกซิเจนเป็นระยะเวลาพอสมควร แต่อาการดีขึ้นตามลำดับ เด็กเริ่มมีอาการตอบสนองที่ดีขึ้น ขยับแขนขาได้ เวลาเรียกก็มีอาการตอบสนอง เริ่มลืมตาได้ ได้กำชับให้ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะประเมินอาการได้ภายใน 48 ชั่วโมง ส่วนของการเยียวยาด้านสภาพจิตใจ สั่งให้เจ้าหน้าที่สุขภาพจิตคอยดูแลสภาพจิตใจของครอบครัว ทั้งแม่เด็ก พี่สาว น้องชาย รวมทั้งเมื่อเด็กหายดี จะต้องดูแลสภาพจิตใจอีกครั้ง ให้เด็กสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ