นาทีลั่นไก! เปิดใจภรรยาจำเลยที่ 1 ในคดี‘ผู้พิพากษา’ก่อเหตุยิงตัวเอง

6 ตุลาคม 2562 ความคืบหน้ากรณีนายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลชั้นต้น ซึ่งก่อเหตุยิงตัวเองหลังอ่านคำพิจารณาคดี และตำแถลงการณ์ต่อศาล เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562 เวลา 12.50 น. จนได้รับบาดเจ็บ โดยล่าสุดอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้องพิเศษโรงพยาบาลศูนย์ยะลา

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังภรรยาของจำเลยที่ 1 คือ นายซูกรี มูเซะ ซึ่งตกเป็นจำเลยในการร่วมก่อเหตุครั้งนี้ เพื่อขอสัมภาษณ์ถึงต้นเหตุและความเป็นไปหลังจากที่สามีต้องตกเป็นจำเลยในคดี

โดยภรรยาของจำเลยที่ 1 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้เข้าร่วมฟังคำพิจารณาคดีของสามี ที่ศาลจังหวัดยะลา โดยในขณะนั้นตนเองรู้สึกดีใจที่ผู้พิพากษาได้อ่านคำพิจารณาคดีและยกฟ้อง แต่หลังจากนั้นผู้พิพากษาได้หันหน้าไปทำความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ แล้วท่านหันหน้ามาแล้วก็ใช้อาวุธปืนจ่อที่หน้าอกตัวเอง ตนเห็นเช่นนั้นก็ตกใจและหลับตาลงในทันที เพราะไม่กล้าที่จะมอง จากนั้นก็ได้ยินเสียงอาวุธปืนดังขึ้น ก่อนที่ร่างของผู้พิพากษาจะล้มลง แล้วทางเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ในขณะนั้น ได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที

ทั้งนี้ ตนเองรู้สึกขอบคุณ ผู้พิพากษาที่ได้พิจารณาคดียกฟ้องไม่ให้สามีตนเองมีความผิด ซึ่งตนเองก็เชื่อและยืนยันมาโดยเสมอว่าสามีของตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ตามที่เป็นข่าว ก่อนที่สามีจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวนั้น ตนเองและสามีได้ไปทำสวน แล้วมีเจ้าหน้าที่จากทางอำเภอมาหาที่บ้าน แต่ในขณะนั้นตนเองและสามีไม่อยู่ เมื่อกลับมาถึงบ้านคนที่บ้านก็บอกว่ามีเจ้าหน้าที่มาหา ทางสามีจึงได้เดินทางไปหาผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นจึงได้พากันไปพบเจ้าหน้าที่ ที่อำเภอบันนังสตา จนถูกทางเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว และนำตัวกลับมาตรวจค้นที่บ้าน ก็ไม่พบอะไร

ทางเจ้าหน้าที่จึงบอกกว่า ขอเชิญตัวไปซักถามเพิ่มเติม ซึ่งสามีก็ได้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์ซักถาม ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อครบ 7 วัน ก็ถูกส่งตัวไปควบคุมต่อที่ศูนย์ซักถามภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้วที่สามีถูกควบคุมตัวและตกเป็นจำเลยในคดีดังกล่าว

อย่างไรก็ตามตนเองและทางครอบครัวก็จะพยายามต่อสู้ โดยจะไปปรึกษากับทนายความเพื่อหาหนทางช่วยเหลือ หากศาลให้ประกันตัวก็จะยื่นขอประกันตัว เพื่อให้สามีได้กลับมาอยู่กับครอบครัว

สำหรับเรื่องผู้พิพากษายิงตัวเอง ในสังคมออนไลน์มีการส่งต่อข้อคิดเห็นเรื่องดังกล่าวมากมาย อาทิ ผู้พิพากษาพกปืนขึ้นบัลลังก์ ปกติแล้วจะห้ามพกพาอาวุธทุกชนิดเข้าไปในบริเวณศาล เว้นแต่เจ้าพนักงานที่มีอำนาจหน้าที่ การที่ผู้พิพากษาพกพาอาวุธปืนขึ้นอ่านคำพิพากษา แล้วใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในห้องพิจารณาคดี ควรจะต้องมีความกดดันอย่างสูง คดีที่อ่านคำพิพากษาเป็นเพียงความผิดเกี่ยวกับร่างกายธรรมดา ไม่ใช่คดีก่อการร้าย ผู้ต้องหาก็เป็นชาวบ้านทั่วไป ไม่ใช่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ