เปิดภาพสุดท้าย! นศ.เทคนิคฉลองฝึกงานวันสุดท้าย ก่อนดับ13ศพ เพื่อนเผยสลด
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ผจ5322 ระยอง สภาพพลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้าพังยับเยินอยู่ริมถนน ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตกระจายเกลื่อนถนน 13 ราย และมีผู้บาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายในรถ 5 ราย คือ นายนิตยา สุขจันทร์ อายุ 27 ปี คนขับ, นายนิพนธ์ สัชชานนท์ อายุ 25 ปี, น.ส.ยุพิน กรินกระโทก อายุ 22 ปี, นายรณรชัย สุขจันทร อายุ 21 ปี และ นายพุฒธพงษ์ รื่นรมย์ อายุ 21 ปี เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9
จากการสอบถามเพื่อนของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษที่ถูกส่งมาฝึกงานที่อู่ซ่อมรถประกันกลาง ชื่ออู่ ภัทร บอดี้ เซอร์วิส ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยกิ่งแก้ว 22/2 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และในวันนี้เป็นการฝึกงานวันสุดท้ายของนักศึกษาทั้งหมด ทางอู่จึงได้จัดงานเลี้ยงส่งให้กับนักศึกษาที่มาฝึกงานกันที่อู่ดังกล่าว
เพื่อนผู้บาดเจ็บ เปิดเผยต่อว่า โดยตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงช่วงหัวค่ำ ทุกคนต่างดื่มเหล้าดื่มเบียร์กันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งในช่วงดึกผู้ตายและผู้บาดเจ็บได้ชักชวนกันไปดูคอนเสิร์ตหมอลำซิ่ง ที่แสดงอยู่ภายในซอยกิ่งแก้ว 2 ระหว่างนั้นได้มีการพูดคุยกันผ่านไลน์ และก่อนที่กลุ่มผู้ตายจะเดินทางกลับยังได้มีการถ่ายรูปนั่งและยืนกันอยู่ที่ท้ายรถกระบะคันดังกล่าวส่งมาให้เพื่อน ๆ ดู และพิมพ์ข้อความว่า "กำลังกลับห้องพัก" ก่อนมาทราบว่ารถกระบะมาพลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เป็นโชเฟอร์แท็กซี่คันหนึ่งขอสงวนนาม กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นรถกระบะของผู้ตายขับออกมาจากซอยกิ่งแก้ว 2 ด้วยความเร็ว จนออกมาถนนกิ่งแก้วได้มาพบรถกระบะอีกคันหนึ่งที่แต่งซิ่ง ทั้งสองจึงได้ขับแข่งกันมาด้วยความเร็ว จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุรถผู้ตายขับมาทางด้านเลนขวา
"จู่ ๆ รถกระบะได้หักเข้ามาทางด้านเลนกลางอย่างกะทันหัน จึงทำให้รถเสียหลักพุ่งขึ้นไปปีนฟุตบาทข้างทาง ก่อนชนรั้วบ้านจนได้รับความเสียหาย ทำให้รถหมุนหลายตลบออกมาฟาดกับแท่งปูนแบริเออร์ที่กั้นอยู่เกาะกลางถนน จนล้มและชนเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างทางจนเสาไฟฟ้าขาดไป 2 ต้น ทำให้ผู้ตายกระเด็นหลุดจากรถไปคนละทิศละทางนอนเสียชีวิตเกลื่อนถนน ก่อนที่รถจะพลิกคว่ำทำให้คนที่นั่งอยู่ในตัวรถบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว" โชเฟอร์แท็กซี่ กล่าว
เบื้องต้นเจ้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุเพื่อเป็นแนวทางในการสอบสวนคนขับรถกระบะดังกล่าว ซึ่งต้องรอให้รักษาตัวจนอาการดีขึ้นก่อนถึงจะมาสอบปากคำได้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป