โวยการไฟฟ้าไม่ตัดไฟ หนุ่มเข้าไปช่วยเพื่อนบ้านขนของหนีน้ำ ถูก ไฟชอร์ตดับ สลด
นางศิลากร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ โดยเฉพาะชุมนที่ตนเองอาศัยอยู่ ลูกชายจึงไปช่วยเพื่อนบ้านขนของหนีน้ำท่วม โดยขณะช่วยเพื่อนบ้านขนขออยู่นั้น ปรากฏว่าถูกไฟชอร์ตจมน้ำเสียชีวิต โดยไม่รู้ว่าทำไมหน่วยงานภาครัฐจึงไม่ตัดกระแสไฟฟ้า
"เมื่อลูกชายถูกไฟชอร์ตจมน้ำ ญาติจึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้แจ้งการไฟฟ้าตัดไฟ ครั้นพอไฟฟ้าถูกตัด แม่จึงรีบเข้าไปบ้านที่เกิดเหตุ เพื่องมหาร่างลูกชายที่จมลงไปในน้ำ ก่อนที่เท้าก็สะดุดร่างลูก นอนอยู่ใกล้เสาไฟฟ้า จึงรีบนำร่างขึ้นมา ส่งโรงพยาบาล แต่ส่งที่รพ.บ้านไผ่ ไม่ได้เพราะน้ำท่วม จึงนำส่งที่รพ.โนนศิลา และส่งต่อไปยังรพ.พล แต่ลูกชายเสียชีวิตแล้ว ซึ่งเมื่อลูกชายเสียชีวิต วันนี้ครอบครัวรอให้ระดับน้ำลดลง จึงจะติดต่อรับศพลูกชายออกจากรพ.มาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน" นางศิลากร กล่าว
นางศิลากร กล่าวต่อว่า ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัว เพราะคิดว่าเมื่อมีน้ำท่วมในพื้นที่ใด ไม่ว่าจะมากหรือน้อย การไฟฟ้าก็จะตัดไฟ แต่ครั้งนี้การไฟฟ้าไม่ได้ตัดไฟในทันที กลับมาตัดในช่วงที่เกิดเหตุแล้ว จึงอยากให้เป็นอุธาหรณ์ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะมีความพร้อมมากกว่านี้ และลูกชายไม่ควรจะเสียชีวิตเช่นนี้ เพราะกำลังเป็นคนมีอนาคต อยู่ระหว่างการฝึกงานที่สำนักงานที่ดิน อ.บ้านไผ่ มีร่างกายแข็งแรง ว่ายน้ำเป็น ไม่น่ามาตาย เพราะไฟฟ้าชอร์ตเช่นนี้
ขณะที่นางใจสวรรค์ เสามะลี อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านจุดเกิดเหตุ บอกว่า เมื่อวานที่ผ่านมา บ้านตนถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร ผู้ตายพร้อมด้วยลูกชายของตนจึงมาช่วยกันขนเอาสิ่งของในบ้านออกไป ขณะที่ผู้ตายกำลังช่วยขนของอยุ่นั้น และเดินออกมาที่ประตูหน้าบ้านติดกับเสาไฟฟ้า ที่มีหม้อแปลงอยู่หลายอัน โดยหม้อแปลงทุกอันถูกน้ำท่วมหมด ก็ถูกไฟชอร์ตจมน้ำ
"ขณะเกิดเหตุลูกชายไม่กล้าเข้าช่วย เพราะว่ามีกระแสไฟในน้ำ จึงโทรศัพท์แจ้งญาติพี่น้องที่อยู่ภายนอก ให้แจ้งการไฟฟ้าตัดไฟในชุมชนดังกล่าว เมื่อตัดกระแสไฟแล้ว ญาติพาน้องจึงเข้าไปช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าน้องเสียชีวิตแล้ว ซึ่งทั้งหมดน่าจะเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ไม่ตัดไฟตั้งแต่แรก จึงเกิดเหตุร้ายขึ้น" นางใจสวรรค์ กล่าว