รวบชายอ้างใช้นามสกุลนายกฯ ลวงขายนาฬิกา100ราย
โดยมีพฤติกรรมใช้โปร์ไฟล์เฟซบุ๊กที่มีรูปผู้หญิงให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครือญาติและหลงโอนเงิน แต่สุดท้ายไม่ส่งสินค้าให้ทำให้มีประชาชน กว่า 100 คน หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ มีมูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท
โดยโฆษก บก.ปอท. กล่าวว่า จากการสอบถามนายนัท ให้การว่า เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาจริง และให้การรับสารภาพว่า เนื่องจากต้องการเงินไปเล่นการพนัน และสาเหตุที่ใช้นามสกุลของนายกรัฐมนตรีเพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งได้ทำมาตั้งแต่ปี 2560 มีผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจแล้ว 7 คน ที่ซื้อนาฬิกาข้อมือ เรือนละ 2,000-3,000 บาท ก่อนส่งเงินให้กับบัญชีผู้ต้องหา แล้วไม่ได้รับสินค้า หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงแจ้ง 2 ข้อหาให้ทราบว่า เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) โดยทุจริต หลอกลวง เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายกับประชาชน และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 ฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ด้วยการโฆษณา มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงดีอีได้ร่วมกับตำรวจ เร่งติดตามผู้กระทำผิดในระบบที่มีการสื่อสารออนไลน์แบบผิดกฎหมายมาลงโทษโดยเร็ว ส่วนกรณีเรื่องเร่งด่วนก็จะมีการปิดกั้นการกระทำความผิด พร้อมเร่งติดตามสืบสวนสอบสวนผู้กระทำผิดมาลงโทษอย่างโดยเร็ว ส่วนกรณีประชาชนที่มีการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ ควรตรวจสอบช่องทางการติดต่อ เลขบัญชี และชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจโอนเงิน เพื่อป้องกันแก๊งมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามากระทำผิด