แพทย์ชี้ ดช.5เดือนเลือดคั่งในสมอง ถูกเขย่าอย่างแรง ตร.สอบพี่เลี้ยง

ที่ รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน ผบก.จว.จันทบุรี , พ.ต.อ.คมน์สรณ์ มาบำรุง ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี

เดินทางมาเยี่ยมอาการ ‘น้องสมาร์ท' หนูน้อยวัย 5 เดือน บุตรชายของ น.ส.แอน (นามสมมติ) อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.จันทบุรี ที่เกิดอาการเลือดคั่งในสมอง โดยไม่ทราบสาเหตุ หลังนำไปฝากจ้างเลี้ยง

โดยมี นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี นำเข้าเยี่ยมอาการที่นอนรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU เด็ก ชั้น 5 อาคารสัตมินทรราชินีภักดี ก่อนที่นางปวีณาพร้อมคณะ จะเข้าร่วมประชุมกับ นพ.เกรียงศักดิ์ และแพทย์ที่ให้การรักษา

ต่อมานพ.เกรียงศักดิ์ แถลงอาการน้องสมาร์ท ว่า แพทย์ตรวจพบเลือดบริเวณรอบๆสมองและด้านในสมอง มีทั้งเลือดเก่าและเลือดใหม่ โดยเลือดเก่าที่ตรวจพบ เกิดจากสาเหตุเดียวกัน ซึ่งเกิดก่อนหน้าที่จะถูกส่งตัวมารักษา ประมาณ 7 วันส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดเลือดคั่งในสมอง ไม่พบบาดแผลภายนอก คาดว่าเกิดจาก การถูกเขย่าตัวอย่างรุนแรง ในช่องกระโหลกศรีษะของเด็ก หรือถูกกระทบกระเทือนในพื้นที่นุ่ม อย่างหมอน หรือที่นอน

ล่าสุดขณะนี้เด็กมีอาการดีขึ้นมาก ไม่พบอาการชักคออ่อนและตาลอย ขณะที่ผลข้างเคียงที่อาจเกิดกับจอประสาทตา จากการตรวจรักษาพบว่าไม่มีความรุนแรงถึงขนาดทำให้ตาบอด แต่อาจจะมีอาการพล่ามัว หรืออาจจะไม่มีผลกระทบเลย ทั้งนี้ต้องขึ้นกับรักษา

ในส่วนต้นตอสาเหตุที่เด็กมีอาการเลือดคั่งในสมองจะเกิดจากการถูกทำร้ายหรือไม่นั้น ต้องพึ่งการทำงานของทางตำรวจที่จะสืบสวนขยายผลทางด้าน พ.ต.อ.คมน์สรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการ รวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะผลการตรวจวินิจฉัยของแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำมาประกอบกับ ผลการสอบปากคำ ผู้ปกครองและพี่เลี้ยง

โดยขณะนี้ได้เชิญตัวทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนในเบื้องต้นแล้ว หลังจากนี้จะได้เชิญตัวฝ่ายพี่เลี้ยงมาสอบสวนเพิ่มเติม ในจุดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ผลการตรวจรักษาของแพทย์ เพื่อให้การทำคดีเกิดความรัดกุมรอบคอบ

ทางด้านน.ส.แอนแม่ของน้องสมาร์ทเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อาการของลูกชายตอนนี้ดีขึ้นมาก โดยทางแพทย์อนุญาตให้รับกลับมารักษาตัวที่บ้านได้ แต่ยังคงต้องมารับการรักษา ตามใบสั่งนัดของแพทย์ โดยพรุ่งนี้ขอรับตัวและนำไปฝากน้องสาวให้ช่วยเลี้ยง

ส่วนที่มีข่าวว่า พี่เลี้ยงได้ติดต่อเคลียร์ปัญหายืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยหลังจากที่พาน้องมารักษา พี่เลี้ยงแวะมาเยี่ยมอาการ 2 ครั้ง มีการพูดคุยสอบถามเรื่องอาการเด็ก ส่วนครั้งที่ 3 จนถึงวันนี้ ไม่ได้พูดคุยกัน ส่วนในเรื่องคดี ให้เป็นไปตามกระบวนกฎหมาย ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

 

เครดิตแหล่งข้อมูล : ข่าวสด