พม่าไม่สบอารมณ์นายจ้าง ปังตอฟันหัว ดับคาห้องนอน
พม่าไม่สบอารมณ์นายจ้าง ปังตอฟันหัวดับคาห้องนอน
ลูกจ้างพม่าไม่สบอารมณ์นายจ้างใหม่เข้ามาบริหารงานร้านอาหารต่อ ภายหลังตั้งวงกินเหล้า ก่อนคุยเคลียร์แต่ตกลงกันไม่ได้ คว้ามีดปังตอฟันหัวนายจ้างใหม่ดับสยองคาห้องนอน
พฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2562 เวลา 16.21 น.
เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ร.ต.ท.พัรพล รัตนมุณี รองสว.(สอบสวน) สน.วังทองหลาง รับแจ้งเหตุฆาตกรรมภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งในซอยรามคำแหง 39 ถนนศรีวรา แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.เชาวฤทธิ์ เงินฉลาด รองผกก.(สอบสวน) สน.วังทองหลาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ติดริมถนน ชั้นล่างเปิดเป็นร้านอาหารส่วนชั้นบนเป็นห้องพักของพนักงานร้าน ภายในห้องนอนช้้นบนพบศพ นายเฉิน ยี่ ไห่ อายุ 51 ปี ถูกของมีคมฟันบริเวณลำคอเป็นแผลขนาดใหญ่ 1 แผล ที่หน้าผาก 1 แผล ศีรษะ 1 แผล กระดูกข้อเท้าขวาหัก และมือขวาถูกฟันจนเละ นอนเสียชีวิตจมกองเลือดที่เริ่มแข็งตัวอยู่บนพื้นห้อง จากการตรวจสอบสภาพห้องข้าวของกระจัดกระจาย เศษขวดสุราแตกหลายขวด และมีคราบเลือดทั่วห้อง พบมีดปังตอเลอะคราบเลือดวางอยู่บนฟูกที่นอน และท่อนเหล็ก 1 ท่อน ส่วนทรัพย์สินพบเงินสด 19,000 บาท จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายวิโรจน์ เจ้าของร้านให้การว่าในร้านมีพนักงาน 7 คน ชาย 4 คน หญิง 3 คน เป็นต่างด้าวทั้งหมด วันนี้ก่อนเปิดร้านมีพนักงานหญิงโทรมาบอกตนว่า "เมื่อคืนกินพนักงานคนอื่นๆ ตั้งวงกินเหล้าแล้วมีเรื่องกัน ตนต้องไปหาพี่สาวก่อน" ตนรู้สึกแปลกใจจึงให้คนเข้าไปดูที่ร้านก็ไม่พบใครเลยจึงขึ้นไปดูชั้นบนก็พบว่านายเฉิน เสียชีวิตแล้วด้านญาติผู้ตายกล่าวว่านายเฉิน เป็นเพื่อนกับนายวิโรจน์ นายเฉิน เดินทางมาที่ร้านตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. เพื่อมาดูร้านเตรียมจะบริหารต่อจากนายวิโรจน์ ในวันที่ 1 ก.ย. นี้ โดยลูกชายให้เงินมา 300,000 บาท ระหว่างนี้นายเฉิน จึงพักอาศัยอยู่ที่ร้านกับพนักงานคนอื่นๆ โดยที่ทางญาติก็ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกันหรือไม่
เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสอบสวนเจ้าของร้าน และญาติของผู้ตายอย่างละเอียด จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดหน้าร้านพบว่าเวลา 03.00 น. พนักงานทั้ง 7 คน ขึ้นรถแท็กซี่ออกจากร้านไป อย่างไรก็ตามขณะนี้สามารถคุมตัวพนักงานบางส่วนมาสอบสวนได้แล้ว.