ตร.เครียดจ่อยิงลูกเมียสาหัส-ลั่นไกฆ่าตัวดับ

นายดาบตำรวจโรงพักเมืองชุมพรปืนดุ

เครียดลูกชายคนเดียวไม่ใส่ใจเรียนหนังสือ เอาแต่เที่ยวเตร่ ผลการเรียนตกต่ำ จนโรงเรียนเรียกไปพบหลายต่อหลายครั้งเพื่อตักเตือนเรื่องความประพฤติ ล่าสุดถึงขั้นทะเลาะวิวาทกัน ฝ่ายแม่ให้ท้ายลูกชายก่อนจะพาหนีออกไปจากแฟลตเกือบ 1 สัปดาห์ เมื่อกลับมาฝ่ายพ่อจึงหลบออกไปจากบ้าน ก่อนจะกลับมาในรุ่งเช้า โทรศัพท์เข้ามือถือเมียออกอุบายว่าไฟไหม้ เมีย-ลูกชายวิ่งหนีออกมาจากห้อง เจอนายดาบจ่อปืนรออยู่แล้ว พร้อมยิงใส่คนละ 2 นัดสาหัส ก่อนจะลั่นไกฆ่าตัวหนีความผิด

เมื่อเวลา 05.10 น. วันที่ 4 ต.ค.

พ.ต.ต.สุรินทร์ ชุมวรฐายี สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองชุมพร รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายที่ลานจอดรถหน้าแฟลตตำรวจ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และนำกำลังตำรวจรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพบศพ ด.ต.สุฤทธิ์ พรหมเพชร อายุ 40 ปี ตำรวจสังกัดสภ.อ.เมืองชุมพร มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าที่ขมับขวา 1 นัด กระสุนตุงขมับซ้ายเสียชีวิตคาที่ พบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.ของผู้ตายตกอยู่ใกล้ศพ ถูกยิงไปแล้ว 5 นัด

นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย ถูกนำส่งร.พ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์

ทราบชื่อ นางพัชรินทร์ พรหมเพชร อายุ 36 ปี ภรรยาของผู้ตาย ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าต้นขาขวาและต้นแขนซ้าย 2 นัด และนายอลงกรณ์ พรหมเพชร อายุ 16 ปี ลูกชายของผู้ตายและผู้บาดเจ็บ ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ท้อง 1 นัด และหน้าอกซ้าย 1 นัด อาการสาหัส แพทย์นำเข้าห้องไอซียู เร่งผ่าตัดช่วยชีวิต อาการเป็นตายเท่ากัน

จากการสอบสวนทราบว่า

ก่อนเกิดเหตุด.ต.สุฤทธิ์ มีปัญหากับภรรยาและลูกชาย เนื่องจากนายอลงกรณ์เป็นนักเรียนอยู่ชั้นม.5 โรงเรียนศรียาภัย อ.เมือง จ.ชุมพร มีพฤติกรรมชอบเที่ยวเตร่ ไม่สนใจการเรียน ทำให้ผลการเรียนที่ออกมาไม่ดี สอบไม่ผ่านหลายวิชา โรงเรียนต้องเรียกผู้ปกครองไปพบและว่ากล่าวตักเตือนด.ต.สุฤทธิ์อยู่เป็นประจำ โดยก่อนหน้าเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ ด.ต.สุฤทธิ์ดุด่าลูกชายจนเกิดปากเสียงทะเลาะกับนางพัชรินทร์อย่างรุนแรง เนื่องจากผู้ตายเห็นว่านางพัชรินทร์ตามใจลูกมากเกินไป ทำให้ลูกชายเที่ยวเตร่ไม่สนใจการเรียน หลังจากมีปากเสียงกันนางพัชรินทร์จึงพาลูกชายหนีออกจากบ้านพักแฟลตตำรวจ ไปอาศัยอยู่บ้านญาตินานเกือบ 1 สัปดาห์

ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 3 ต.ค. นางพัชรินทร์นำตัวลูกชายกลับเข้าบ้านพักแฟลตตำรวจ

ทำให้ด.ต.สุฤทธิ์ไม่พอใจ และออกไปจากแฟลตตั้งแต่เย็นวันเดียวกัน ก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้ามืดวันที่ 4 ต.ค. ด.ต.สุฤทธิ์ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่ลานจอดรถหน้าแฟลต และโทรศัพท์เข้าไปที่โทรศัพท์มือถือของนางพัชรินทร์ซึ่งนอนอยู่ในห้องพักชั้นล่างกับลูกชาย โดยบอกว่าให้หนีออกมาด้านนอก เนื่องจากเกิดไฟไหม้ ทำให้นางพัชรินทร์ตกใจรีบปลุกลูกชายให้ตื่น แล้วพากันเปิดประตูวิ่งออกมา ทันใดนั้นด.ต.สุฤทธิ์ยืนถือปืนจ่อรออยู่แล้ว เหนี่ยวไกยิงใส่นางพัชรินทร์ 2 นัด และหันปากกระบอกยิงใส่ลูกชายอีก 2 นัด จนล้มฟุบจมกองเลือด จากนั้นใช้อาวุธปืนจ่อยิงขมับตัวเองฆ่าตัวตายดังกล่าว