บุกจับคากุฏิหลวงพีทั้งขายทั้งเสพ มีอดีตนักโทษพ้นคุก เป็นตัวกลางจัดหาของ
นายปรีชา กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.ท่าค้อ ขณะออกประชุมตามแนวชายแดน ว่า มีพระรูปหนึ่งที่วัดดังกล่าว มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาจเป็นเอเย่นต์ด้วย จึงนำกำลังไปตรวจสอบและขออนุญาตเจ้าอาวาส ตรวจปัสสาวะพระและเณรลูกวัด 4-5 รูป เจ้าหน้าที่พบว่า พระอภิเดช มีปัสสาวะสีม่วง จึงคุมตัวไปให้เจ้าอาวาสสึก
นายปรีชา กล่าวต่อว่า จากนั้นจึงคุมตัวนายอภิเดช ไปตรวจค้นบนกุฏิชั้น 2 ห้อง3 ในเต็นท์ผ้าใบสีน้ำเงิน พบยาบ้านอีก 1,815 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกสีน้ำเงินแบบหูรูด 9 ถุง ซุกในกระป๋องพลาสติกสีเงิน 2 ใบ ตรวจค้นในห้องน้ำรวมบนชั้น 2 พบยาบ้า 1 เม็ดครึ่ง และอุปกรณ์การเสพ ซุกอยู่บนขื่อห้องน้ำ จึงคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.เมืองนครพนม
จากการสอบสวน นายอภิเดช ให้การรับสารภาพว่า บวชเป็นเณรอุทิศให้ยาย และบวชเป็นพระมานานได้ 2 ปี โดยเสพวันละครึ่งเม็ดมานานกว่า 1 ปีแล้ว ยอมรับว่ายาบ้าและอุปกรณ์การเสพเป็นของตนเองจริง ส่วนยาบ้าจำนวนดังกล่าว ได้ติดต่อขอเบอร์โทรศัพท์จากผู้ต้องขังในเรือนจำคนหนึ่งหลังพ้นคุก ซึ่งอดีตผู้ต้องขังคนดังกล่าว ได้ให้โทรศัพท์ติดต่อจากชายชาว สปป.ลาวคนหนึ่ง ให้นำยาบ้ามาส่งที่วัด ในราคาเม็ดละ 100 บาท ก่อนนำมาขายต่อให้วัยรุ่นและนักเสพในหมู่บ้าน กระทั่งถูกจับกุมในที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมคุมตัวไว้ขยายผลเครือข่ายที่เหลือและส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป