พบแล้วรองผอ. ศพทิ้งริมปิง

พบแล้วรองผอ.ร.ร.ทาขุมเงิน แม่ทา ลำพูน เป็นศพถูกแทงพรุนขึ้นอืดอยู่ริมแม่น้ำปิงเขตเมืองเชียงใหม่ ญาติมาดูยืนยันเป็นศพรองผอ.ที่หายตัวไปตั้งแต่28ก.ย.ที่ผ่านมาจริง ตร.ตรวจสอบเชื่อว่าถูกฆ่าจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งอำพราง เช็กเอทีเอ็มถูกกด4ครั้งภายใน5นาทีที่สันทรายไปเกือบ8หมื่นบาท เหลือติดบัญชีแค่200บาท ตร.ตามไปคุมตัวอดีตครูหนุ่มคู่ขามาสอบสวนแต่ยังให้การปฏิเสธ

จากกรณีนายบุญรัตน์ ณะพรหม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/3 หมู่ 1 ต.ทาขุนเงิน อ.แม่ทา จ.ลำพูน รองผอ.โรงเรียนทาขุมเงินวิทยาคาร อ.แม่ทา จ.ลำพูน ซึ่งเป็นชายลักษณะตุ้งติ้ง หายตัวไป

พร้อมรถเก๋งโตโยต้า โคโรลล่า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ก 6705 ลำพูน ญาติแจ้งความกับสภ.ต.ทากาศ อ.แม่ทา จ.ลำพูน เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา เพราะคาดว่าน่าจะถูกคนร้ายอุ้มตัวไป ต่อมาตำรวจสภ.ต.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ พบรถเก๋งของนายบุญรัตน์จอดทิ้งริมถนนในโครงการบิซิเนสพาร์ค หลังห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบภายในรถพบคราบเลือด ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 2 ต.ค.

พ.ต.ท.อิทธิรัตช์ แสนปัญญา พนักงานสอบสวนสภ.ต.แม่ปิง รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบศพชายในป่ารกริมแม่น้ำปิง บ้านร้องขี้ควาย หมู่ 3 ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.อ.มนตรี สัมบุณณานนท์ รองผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.กฤษณพล ยี่สาคร ผกก.สภ.ต.แม่ปิง เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวน(ศสส.) ภาค 5 ชุดสืบสวนบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และพ.ญ.กานดา วิชัยรัตน์ หัวหน้าแผนกนิติเวช ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่

ที่พบศพอยู่ในพงหญ้าริมแม่น้ำปิง ซึ่งเป็นพื้นที่ลาดชันห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 40 เมตร

พบศพชายลักษณะขึ้นอืด มีหนอนชอนไชทั้งตัว ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว สภาพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดคอปกสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ คาดเข็มขัดหัวเหล็กสีทอง มีสายรัดสีเหลืองที่ข้อมือซ้าย และโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง ตรวจสภาพศพพบว่าถูกแทงเป็นแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ 1 แผล ใบหน้า 1 แผล กลางอก 2 แผล ท้อง 1 แผล สีข้างขวา 1 แผล และแขนขวา 1 แผล คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน ใกล้กับศพเจ้าหน้าที่พบแว่นตาและเชือกไนลอนยาวประมาณ 1 เมตรตกอยู่ และยังพบร่องรอยล้อรถยนต์ขับแล่นเข้ามาทางด้านบนใกล้กับจุดเกิดเหตุ คาดคนร้ายน่าจะสังหารผู้ตายจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้ง

จึงวิ่งไปแจ้งกำนันต.สันผีเสื้อ ก่อนแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ และระหว่างที่แพทย์ชันสูตรพลิกศพอยู่นั้นมีญาติของนายบุญรัตน์เดินทางมาดูศพและยืนยันว่าศพดังกล่าวคือนายบุญรัตน์ เจ้าหน้าที่จึงส่งศพไปพิสูจน์อย่างละเอียดที่ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่

พ.ต.อ.กฤษณพลเปิดเผยอีกว่า จากการสอบปากคำญาติผู้ตายยืนยันว่าเป็นศพนายบุญรัตน์

โดยญาติจำโทรศัพท์มือถือและแว่นตารวมทั้งสายรัดข้อมือสีเหลืองที่ผู้ตายใช้และสวมใส่เป็นประจำ จากการสืบสวนทราบว่าผู้ตายออกจากจ.ลำพูนหลังไปร่วมพิธีศพเพื่อนครูคนหนึ่ง โดยบอกกับญาติว่าจะไปพบนายสุขทวี สุขสวัสดิ์ อายุ 30 ปี อดีตครูโรงเรียนทาขุมเงิน ปัจจุบันเป็นไกด์ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีความสนิทสนมลึกซึ้งกับผู้ตาย โดยนัดพบกันที่จ.เชียงใหม่

รายงานข่าวจากพนักงานสอบสวนแจ้งว่า นายบุญรัตน์กับนายสุขทวีนัดพบกันที่ร้านหมูกระทะแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่

ก่อนนายบุญรัตน์จะหายตัวไป ต่อมานายสุขทวีโทรศัพท์มาแจ้งตำรวจว่าผู้ตายนัดกับวัยรุ่น 2 คน ซึ่งอ้างตัวเป็นนักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจ.เชียงใหม่ โดยวัยรุ่นทั้งสองขัดสนเรื่องค่าเทอมเพราะพ่อถูกยิงตาย ชีวิตลำบาก ผู้ตายเกิดความสงสารอยากช่วยเหลือจึงให้นายสุขทวีนัดมาเจอกัน จากนั้นนายสุขทวีก็อ้างว่าไม่ทราบอะไรอีก อย่างไรก็ตามหลังได้รับแจ้งจากนายสุขทวีแล้วตำรวจตรวจสอบไปยังมหาวิทยาลัยที่นายสุขทวีอ้าง ปรากฏว่าไม่มีชื่อนักศึกษาทั้ง 2 คนเรียนอยู่แต่อย่างใด

จากการสืบสวนยังพบว่า นายสุขทวีเป็นหนี้ผู้ตายอยู่หลายแสนบาท

และผู้ตายเมื่อมาเชียงใหม่ก็จะมาหานายสุขทวีและพากันไปเที่ยวสถานบันเทิงเป็นประจำ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายใช้เด็กวัยรุ่นเป็นตัวล่อผู้ตายให้มาพบ โดยอาศัยที่ผู้ตายเป็นคนใจอ่อนสงสารคน จากนั้นคนร้ายที่เชื่อว่ามีไม่ต่ำกว่า 3 คนลวงผู้ตายไปเพื่อปล้นทรัพย์สิน โดยก่อนหน้านั้นผู้ตายไหวตัวทันปลดนาฬิกาและแหวนทองคำซุกซ่อนไว้เบาะหลัง เมื่อผู้ตายไม่มีทรัพย์สินให้ กลุ่มวัยรุ่นจึงใช้มีดแทงจนตายและนำเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดเงินเพราะหนึ่งในคนร้ายทราบรหัสดีอยู่แล้ว แล้วนำศพใส่รถไปทิ้งริมฝั่งแม่น้ำปิง ก่อนถอดป้ายทะเบียนออก แล้วขับไปจอดทิ้งไว้หลังห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์เพื่ออำพรางคดี

นอกจากนี้จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า

ช่วงเวลา 20.00 น.วันที่ 28 ก.ย.มีการเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย สาขาตลาดรวมโชค อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 4 ครั้งภายใน 5 นาที โดย 3 ครั้งแรกกดเงินมาครั้งละ 20,000 บาท ครั้งสุดท้ายกด 18,000 บาท รวมเป็นเงิน 78,000 บาท เหลือยอดในบัญชีเพียง 200 บาท โดยตู้เอทีเอ็มดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ล่าสุดพ.ต.ท.ธนวัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รองผกก.ศสส.ภาค 5 นำกำลังไปควบคุมตัวนายสุขทวีไว้แล้ว และนำตัวมาสอบสวนที่สภ.ต.แม่ปิงในฐานะผู้ต้องสงสัย แต่เบื้องต้นนายสุขทวียังให้การปฏิเสธ