สาวช็อก พ่อราดน้ำมัน เผาน้องชาย ไฟไหม้ร่างคาเตียง-เสียงร้องเจ็บปวด ตร.คุมตัวสอบ

วันที่ 23 มิ.ย. ช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า ร.ต.อ.ไมตรี มะลิลา รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุชายได้รับบาดเจ็บจากการถูกราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผา ภายในคอนโด ย่านหลักสี่ ซ.แจ้งวัฒนะ 6 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งเหตุ จึงรุดตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดที่พักอาศัย สูง 9 ชั้น ภายในห้องพักเลขที่ 221/189-199 ชั้น 8 มีกลิ่นน้ำมันคลุ้งไปทั่วห้อง และยังพบนายปริญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้ป่วยโรคไตช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ นอนร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่บนที่นอน ตามขาและลำตัวมีบาดแผลถูกไฟไหม้จนหนังกำพร้าถลอกจนเห็นเนื้อสีขาว เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเป็นการด่วน

จากการตรวจสอบภายในห้องยังพบผ้าห่มลายเสือดาวเปียกชุ่มด้วยน้ำมัน และมีร่องรอยถูกไฟไหม้ และขวดน้ำพลาสติกภายในมีน้ำมันเบนซิน อยู่เกือบเต็มขวด วางอยู่บนที่นอนด้วย ข้างที่นอน พบเทียนไข สีขาวตกอยู่ 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายอนุรักษ์ อายุ 64 ปี ผู้ก่อเหตุและเป็นพ่อของผู้บาดเจ็บ ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง โดยจับกุมตัวได้ใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สน.ทุ่งสองห้อง

น.ส.หวาน (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 40 ปี พี่สาวของผู้บาดเจ็บ ให้การว่า ตนพักอาศัยอยู่ที่คอนโด รวม 4 คน คือ พ่อ แม่ ตน และ น้องชาย ซึ่งป่วยเป็นโรคไตและตับ ต้องนอนพักรักษาตัว กระทั่งกลับบ้านมาในช่วง 22.00 น. ก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้ออกมาจากห้องพัก เมื่อเปิดประตูเข้าไปเห็นมีกลุ่มควันออกมาจากห้องนอนของตน จึงรีบเข้าไปดู เห็นพ่อของตนเดินสวนออกมาในสภาพมึนเมา และแม่ของตนกำลังใช้มือดับไฟที่ไหม้ร่างน้องชายบนเตียงนอน

รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ ก่อนตั้งสติไปนำผ้าชุบน้ำมาคลุมตัวน้องชายไว้เพื่อดับไฟ ก่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งผู้ก่อเหตุคาดว่าจะเป็นพ่อของตน ที่ชอบดื่มสุราเป็นประจำ ซึ่งเมื่อมีอาการมึนเมาก็จะทำร้ายร่างกายแม่ และมักมีอาการเหม่อลอย พูดคนเดียว แต่ในวันนี้ก็ไม่ทราบว่าสาเหตุที่ลงมือจุดไฟเผาน้องชายเกิดจากเรื่องอะไร และไม่ทราบว่าไปหาซื้อน้ำมันมาจากที่ไหน

เบื้องต้นตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอ นายอนุรักษ์ สร่างจากอาการเมาสุรา จึงจะสอบปากคำได้ และต้องสอบปากคำพยานแวดล้อม เพื่อหาสาเหตุการก่อเหตุ ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป