เปิด จม.น้องชายแดน ลั่นทรมานเหมือนตกนรก พ่อ-แม่ปล่อยโฮไม่มีวันยกโทษให้ครูพี่ณัฐ

พ่อแม่โฮ! ลั่นไม่มีวันยกโทษให้ "ครูพี่ณัฐ" ซัดพฤติกรรมโหดผิดมนุษย์ พอได้อ่านจดหมายฉบับสุดท้าย "น้องชายแดน" น้ำตาไหลพราก เขียนบรรยายพรรณาความลำบากทุกข์ยากตอนอยู่ในโรงเรียนเหมือนตกนรก...

พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี สั่งเรียกประชุมคลี่คลายคดีทำร้าย"น้องชายแดน"อายุ 14 ปี โดยวันนี้ได้มีการวางแนวทางการสืบสวนหลังรายงานความคืบหน้าให้ นายอรรถพร สิงหวิชัย ผวจ.นครสวรรค์ และพล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ ได้รับทราบในเบื้องต้น

 ต่อมาตำรวจได้นำตัว 3 เด็กชาย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมเรียนกวดวิชากับน้องชายแดน พร้อมด้วยผู้ปกครอง เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะเร่งสรุปสำนวนให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดเวลา
ฝากขังผัดแรก ส่วนจะมีผู้ปกครองรายใดแจ้งความเพิ่มเติมหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของพ่อแม่ เพราะเกรงว่าจะกระทบกระเทือนจิตใจเด็ก และต้องใช้หลักฐานอื่นๆ มาประกอบ อาทิ ใบรับรองแพทย์ 

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำตัว นายพิษณุ ทรัพย์สิน กับ นางสุวรรณา ทรัพย์สิน ไปตรวจดีเอ็นเอที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อนำไปเทียบเคียงกับดีเอ็นเอของน้องชายแดน ที่พบจากบ้านพักและไม้เบสบอลของผู้ต้องหา

ด้าน นางสุวรรรณา กล่าวว่า ยิ่งทราบรายละเอียด ก็ยิ่งเสียใจมากที่ลูกมาเรียนที่นี่ ยิ่งเจ็บปวดแทนลูกที่โดนกระทำแบบนี้ พฤติกรรมของครูณัฐผิดมนุษย์จริง ๆ สงสารลูกมากจะไม่ขอรับการขอโทษใดๆ จากผู้ต้องหาโดยเด็ดขาด กรุณาอย่ามาเลย ไม่ยกโทษให้ 

อย่ามาจองเวรจองกรรมกันอีกเลย ขอตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากพฤติกรรมโหดร้ายมาก หากพ้นผิดออกมาลอยนวลในสังคม จะมีเด็ก-เยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ ต้องมาสังเวยชีวิตรับบาดเจ็บเหมือนลูกตน

"เดิมไม่ต้องการให้ลูกมาเรียนที่นี่แต่ด้วยความตั้งใจของลูกจึงวางแผนให้ลูกลาออกมาเรียนระดับมัธยมต้นจาก กศน.ก่อนโดยจะจบมัธยมต้นในเทอมหน้านี้ จากนั้นจะสมัครเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 อีก 1 ปี จากนั้นจะไปสมัครสอบเตรียมทหาร

โดยที่ผ่านลูกได้มาหาข้อมูลสมัครเรียนโรงเรียนกวดวิชาเอง จากข้อมูลทางอินเตอร์เนตมาเจอบ้านครูพี่ณัฐ เห็นรูป เห็นโปรไฟ พูดคุยทางเชต ลูกชายปลื้ม ศรัทธามากจึงมั่นใจว่าครูพี่ณัฐจะสามารถติวจนสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้จึงสมัครมาเรียนทั้งที่ตนไม่เต็มใจแต่เพื่ออนาคตลูกจึงยอมให้มาเรียนโดยทางสถาบันกวดวิชาเป็นคนวางแผนการเรียนให้ทั้งหมด"แม่กล่าว

และว่า ส่วนค่าใช้จ่ายในการศึกษาในปีแรกเข้าต้องเสียเงิน 210,000 บาท ปีที่สองเสีย 250,000 บาท ไม่รวมค่าที่พักอาหาร ในปีที่สอง ที่ผ่านมาช่วงแรกให้ผู้ปกครองเข้าพบได้ตามตกลงกันไว้สัปดาห์ละ 1ครั้ง พาลูกไปนอนบ้านได้ 1 วัน ต่อมาครูณัฐเริ่มอ้างว่าลูกต้องเก็บตัวไม่สามารถพบได้ต้องอ่านหนังสือ เริ่มห่างติดต่อลูกไม่ได้ต้องนัดพบลูกล่วงหน้ากำหนดวันมาพบได้มาทราบอีกครั้งก็ได้รับโทรศัพท์จากครูณัฐว่าลูกหัวแตก แต่ว่าลูกแขนหักและที่ผ่านมาสังเกตว่าลูกซึมเศร้าตลอด" นางสุวรรรณากล่าว

นอกจากนี้หลังเสียชีวิต ผู้ปกครองได้เข้าไปเก็บของจนเจอเข้ากับจดหมายของน้องชายแดน ที่เขียนบันทึกไว้เตรียมส่งให้แม่ ซึ่งพอได้อ่านถึงกับร้องให้โฮโดยใจความบอกว่าลูกมาอยู่ที่สถาบันเหมือนตกนรก ต้องถูกซ่อมตลอดเวลา ถูกทรมานสาหัส ต้องการกลับบ้านก็กลับไม่ได้ อยู่ในสถาบันแห่งนี้เหมือนอยู่ในนรก ซ้อมตลอดเวลา และมีข้อความหยาบคายหลายคำ

 ขณะที่ นายพิษณุ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้เสียใจมากที่ลูกชายคนเดียวจากไป ครอบครัวเหลือกันเพียงสองคนเท่านั้น ไม่สามารถมีบุตรได้ ตอนนี้ทำให้เพียงนั่งดูรูปภาพของลูกเท่านั้น อยากให้ครอบครัวของคนร้ายได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมาย อย่าออกมาสร้างความเดือดร้อนแก่สังคมอีกเลย