ประเทศไทยเมืองพุทธแต่คนดุติดอันดับโลก
ในระยะหลังนี้มีข่าวการยิงกัน ฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งเคยมีการสำรวจสถิติว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธมีอัตราเฉลี่ยผู้คนนับถือศาสนาพุทธมากที่สุดในโลก สอนให้คนดีมีเมตตาละเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แต่กลับมีอัตราฆ่ากันและอาชญากรรมอื่นๆติดอันดับโลก
จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยทบทวนเข้มงวดหรืองดการออกใบอนุญาตซื้อปืนหรือพกปืนซึ่งที่ผ่านมาเจ้าของปืนใช้คำว่ามีไว้ป้องกันตัว
ในขณะเดียวกันประชาชนจะต้องได้รับการคุ้มครองและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากตำรวจและอย่ามาแก้ตัวว่ากำลังตำรวจ-อาวุธ เครื่องมือมีไม่พอ แต่กำลังตำรวจขาดแคลนเพราะถูกใช้ทำหน้าที่อื่น
บรรดานักการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลบารมีต้องไม่นำกำลังตำรวจไปใช้ส่วนตัว เช่น มีรถนำขบวน เป็นผู้ติดตาม หรือคนรักษาความปลอดภัยประจำตัว แล้วปล่อยให้ชาวบ้านตาดำๆ ต้องเผชิญโจรผู้ร้าย อาชญากรรม ฯลฯ แบบตัวใครตัวมัน ถึงเวลาที่ประชาชนคนไทยจะต้องอยู่ได้อย่างมีความสุข ความปลอดภัย อย่าให้คนร้ายมีอาวุธปืน-อาวุธสงครามปล้น ฆ่า แต่ประชาชนคนบริสุทธ์มีแต่มือเปล่าแล้วไปพึ่งพาใครไม่ได้หรือเป็นกรรมที่เกิดมาเป็นคนไทย
อ๊อด เทอร์โบ---
- อยุธยาโมเดล- ป้องกันนักเรียนตีกันผมเป็นตำรวจอยุธยาครับ ขอให้คุณ อ๊อด เทอร์โบ ได้ทราบถึงโครงการที่เราจัดขึ้นเพื่อป้องกันเด็กอาชีวะตีกันโดยเปิดโครงการไปแล้วและได้รับการสนับสนุนจากผู้ว่าฯ อยุธยา สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ มาเป็นประธาน พร้อมด้วยครู อาจารย์มาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
ที่ผ่านมาเด็กๆ สถาบันหลายๆ แห่งจะมีปัญหาตีกันเหมือนกับในกทม. หรือหลายๆ จังหวัด ซึ่งผู้การอยุธยา พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ได้ทำโครงการนี้มา โดยมีแนวคิดและข้อมูลที่แจ้งมาดังนี้
ตำรวจอยุธยานำนักศึกษาอาชีวะ 4 สถาบันของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คือ วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา วิทยาลัยเทคโนโลยีพระนครศรีอยุธยาและวิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการอยุธยา เข้าร่วมโครงการ สุภาพบุรุษอาชีวะ "เรียนช่างคนละที่ แต่เลือดสีเดียวกัน" 100 คน ไปเข้าค่ายสัมมนาที่ค่ายหัตถวุฒิ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อยุติปัญหาทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบันของนักศึกษาทั้ง 4 สถาบันและเป็นการหล่อหลอมใจ สร้างความรักความสามัคคีของนักศึกษาให้เกิดความสมานฉันท์ยิ่งขึ้น อันเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสถาบันที่เรียน ผมเองก็มีลูกชายเรียนอยู่เทคนิคอยุธยาและมีความห่วงใยว่าจะได้รับอันตรายหรือเจอลูกหลง เพราะลูกผมเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน พอมีโครงการนี้จึงอุ่นใจและเรียนมาเพื่อทราบว่า เด็กอาชีวะส่วนใหญ่เป็นเด็กดี ไม่ใช่พวกนักเรียนเกเร-นักเรียนนักเลงดังที่แบบสังคมคนไทยบางคนมองในด้านลบ ต่อไปพอเรียนจบเด็กอาชีวะเหล่านี้จะเป็นพลังผลักดันสร้างชาติให้เจริญรุ่งเรือง ขอให้ช่วยกันสนับสนุนด้วยดาบสมชาย (ท่าเรือ)
บรรดาครู อาจารย์ รุ่นพี่ พ่อแม่ ผู้ปกครอง จะต้องรับผิดชอบด้วย
อ๊อด เทอร์โบ