ลอบวางบึ้มทบ.ส่งท้ายบิ๊กบัง ตู้โทรริมรั้ว-ตร.เก็บกู้มือแหลก

ไอ้โม่งลอบวางระเบิดตู้โทรศัพท์ริมรั้วโรงเรียนแผนที่ทหาร ตำรวจชุดเก็บกู้เจ็บ 2 ราย มือขวาขาด-ไฟลวก สันนิษฐานพวกป่วนเมือง เตรียมล่าชายผมสั้นสวมกางเกงลายพราง "พล.อ.สนธิ" เชื่อเหตุระเบิดไม่เกี่ยวการเมือง แม่ทัพภาค 1 ส่งทหารนอกเครื่องแบบกระจายกำลังคุมจุดเสี่ยง ตร.เผยระเบิดชนิดเดียวกับบึ้มห้างเมเจอร์ รัชโยธิน
 

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 30 กันยายน

ตำรวจ สน.นางเลิ้ง รับแจ้งเหตุมีวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ในตู้โทรศัพท์สาธารณะ ริมรั้วโรงเรียนแผนที่ทหาร ถนนราชดำเนินนอก แขวงวัดโสมมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด รุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก รวมทั้งนายตำรวจและนายทหารชั้นผู้ใหญ่
 

 ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้กันประชาชนออกนอกพื้นที่

จากนั้น ส.ต.ท.พิชยาธร สุนทรชื่น และ ด.ต.จีระเดช อัฐพงศ์ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ก็เดินเข้าไปตรวจสอบ พบกล่องกระดาษบรรจุขวดพลาสติกขนาด 5 ลิตร มีน้ำมันและเศษยางในรถจักรยานยนต์ผสมอยู่ในขวด นอกจากนั้นด้านบนและด้านล่างของกล่องยังอัดกระดาษจนแน่น แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่นั้น กล่องดังกล่าวก็เกิดระเบิดขึ้น ทำให้ ส.ต.ท.พิชยาธร ได้รับบาดเจ็บโดนไฟลวกที่แขน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว ส่วน ด.ต.จีระเดช ได้รับบาดเจ็บที่มือขวา ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กมากั้นปิดเส้นทางรอบบริเวณเพื่อกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในจุดเกิดเหตุ พร้อมกันนั้นยังปิดการจราจร 2 ช่องทาง ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนจำนวนมากเดินทางมาชมการชกมวยที่สนามมวยเวทีราชดำเนิน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสถานที่เกิดเหตุ

 ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเศษถังพลาสติกที่ยังมีน้ำมันและเศษยางในรถจักรยานยนต์เหลือติดก้นขวด รวมทั้งรอบบริเวณมีเศษถังพลาสติกและเศษกระดาษกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ส่วนตู้โทรศัพท์สาธารณะและพื้นทางเท้าได้รับความเสียหาย

สงสัยชายผมสั้น-กางเกงลายพราง

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชายยืนโทรศัพท์อยู่ในตู้โทรศัพท์สาธาณะ ซึ่งตั้งอยู่ปากซอยที่กั้นระหว่างโรงเรียนแผนที่ทหารกับกองบัญชาการกองทัพบก โดยคนร้ายสวมเสื้อยืดสีฟ้า นุ่งกางเกงลายพราง ตัดผมรองทรงสั้น หลังจากนั้นก็เดินออกไป ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจะเดินทางมาตรวจสอบ ซึ่งระหว่างเก็บกู้ประมาณ 10 นาทีก็เกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ 2 นายได้รับบาดเจ็บ

"สนธิ"บอกไม่เกี่ยวการเมือง

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานเบื้องต้นจาก พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 1 (ผอ.รมน.ภาค 1) ว่า ประเด็นแรกน่าจะเป็นการเผาขยะ ประเด็นที่สอง คล้ายกับว่ามีการก่อความไม่สงบบ้างเล็กน้อย หรือก่อกวน ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ก่อนว่าเป็นระเบิดชนิดใด

เมื่อถามว่า เป็นการวางระเบิดเพื่อก่อกวนทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า

ไม่น่าจะใช่ ไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างนี้เพราะอย่างอื่นมีอีกเยอะ รวมถึงไม่น่าจะไปวางในบริเวณดังกล่าวเพราะไม่สมเหตุสมผล ซึ่งกองทัพบกก็เงียบมาตั้งนาน ไม่น่าจะมีอะไร  "ไม่น่าใช่การก่อกวน น่าจะเป็นเรื่องของการวางทิ้งไว้ แต่ต้องดูก่อนว่าต้นเหตุคืออะไร สาเหตุจริงๆ เกิดจากอะไร อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ดูแลด้านความมั่นคงก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ทั้ง กอ.รมน.และเจ้าหน้าที่จากหลายๆ ฝ่าย ร่วมมือกัน" พล.อ.สนธิ กล่าว 

ด้าน พล.ท.ประยุทธ์ กล่าวว่า

คาดเป็นฝีมือของผู้ที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ขณะนี้ทุกจุดที่สำคัญได้ส่งกำลังนอกเครื่องแบบเฝ้าดูอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่อยากสรุป ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ข่าวสืบสวนต่อไป และขอร้องประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะได้เพิ่มเจ้าหน้าที่แล้ว

หมอตัดนิ้วตำรวจเหยื่อบึ้ม

ต่อมาเวลา 23.10 น. เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้มาเก็บกู้และเก็บชิ้นส่วนระเบิดอย่างละเอียดทุกจุด เพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายเดินทางมาตรวจสอบในครั้งนี้
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้เศษวัตถุระเบิดอยู่นั้น พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้พยายามหลบหน้าผู้สื่อข่าว โดยเดินหลบไปทางด้านหลังที่เกิดเหตุแล้วหายไปทางอีกฝั่งของถนน ซึ่งมีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเท่านั้น โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งแนวทางการสืบสวนสอบสวนว่าจะดำเนินการอย่างไร สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ในส่วนของ ด.ต.จีระเดช รักษาตัวอยู่ภายในห้องไอซียู ตึกศัลกรรม ชั้น 5 โรงพยาบาลวิชิรพยาบาล ซึ่งแพทย์ได้ผ่าตัดนิ้วมือข้างขวาที่โดนระเบิด 4 นิ้ว เนื่องจากกระดูกแตกละเอียด นอกจากนี้ ยังมีบาดแผลที่หน้าอกและหน้าท้องด้วย

บช.น.ตั้งทีมสอบ-สืบสางคดี

พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานสืบสวน ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการสืบสวน กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ในวันที่ 1 ตุลาคม จะเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาหารือที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อวางแนวทางการสืบสวนสอบสวน
 
ด้าน พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ในฐานะเจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า

ระเบิดชนิดแรงดันต่ำ ปกติไม่ทำให้เกิดอันตราย แต่เนื่องจากตำรวจที่บาดเจ็บเข้าไปเก็บกู้ในระยะใกล้จึงเกิดความผิดพลาด โดยมือไปอยู่บนระเบิดขณะหยิบยกเคลื่อนย้าย ทำให้ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วมือ ซึ่งแรงระเบิดไม่ส่งผลให้ทรัพย์สินใกล้เคียงได้รับความเสียหาย
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า การวางระเบิดครั้งนี้เป็นการข่มขู่ หรือสร้างสถานการณ์หรือไม่ พล.ต.ต.มานิต กล่าวว่า

เบื้องต้นไม่สามารถชี้ชัดได้ แต่มีการตั้งประเด็นหลายด้าน ต้องมองมุมกว้างก่อน ไม่ได้เจาะจงประเด็นใดประเด็นหนึ่ง อาจจะเป็นการสร้างสถานการณ์ต่างๆ หรือเป็นการกระทำเพื่อข่มขู่ เป็นไปได้ทั้งนั้น ต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง ขณะนี้จากการตรวจสอบโดยรอบที่เกิดเหตุพบว่า พื้นที่โดยรอบมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดหลายแห่ง แต่ในที่เกิดเหตุเป็นมุมอับ ซึ่งจะตรวจดูว่ากล้องวงจรปิดตัวใดสามารถบันทึกภาพไว้ได้บ้าง
 
เมื่อถามว่า มีพยานระบุว่าก่อนระเบิดมีชายต้องสงสัยมายืนโทรศัพท์ แล้วอีกประมาณ 10 นาทีก็เกิดระเบิดขึ้น ซึ่งจะมีการเรียกพยานมาสอบปากคำ และเชื่อว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนร้ายหรือไม่ พล.ต.ต.มานิต กล่าวว่า

ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน ต้องตรวจสอบ รวมทั้งเรียกพยานมาสอบสวนทั้งหมด เพราะคนที่ยืนคุยโทรศัพพ์เขาอาจเป็นเพียงคนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุก็เป็นได้ หรืออาจเป็นผู้ต้องสงสัยก็เป็นไปได้เช่นกัน ตอนนี้พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้เรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์ ทั้งตำรวจและทหารที่เข้าเวรมาสอบปากคำทั้งหมด รวมถึงประชาชนที่เดินทางมาชมการชกมวยที่เวทีมวยราชดำเนินด้วย
 
ผบก.น.1 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ บช.น.ได้ตั้งทีมสอบสวนสืบสวนคลี่คลายคดีนี้

โดยมีชุดสืบสวน สน.นางเลิ้ง ชุดสืบสวนศูนย์สืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศส.บช.น.) และชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล 1 (กก.สส.บก.น.1) เบื้องต้นได้มีการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว โดยจะมีการประชุมหารือวางแนวทางอีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม ขณะเดียวกัน จะต้องปิดล้อมจุดเกิดเหตุไว้ก่อน พร้อมประกาศเป็นพื้นที่อันตราย และเพิ่มความเข้มของตำรวจในการตรวจตราพื้นที่มากขึ้น
 

ระเบิดชนิดเดียวกับบึ้มเมเจอร์ฯ

ส่วน พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า จากการตรวจสอบระเบิดที่เกิดขึ้น เป็นลักษณะการตั้งเวลาโดยใช้นาฬิกาจุดปะทุด้วยความร้อน ซึ่งข้างนาฬิกาจะมีดินระเบิดบรรจุอยู่ในแกลลอนขนาด 5 ลิตร และน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อนาฬิกาที่ตั้งเวลาไว้ทำงาน ความร้อนก็จะเกิดขึ้นไปติดกับน้ำมัน ก่อนที่จะจุดปะทุระเบิดกับดินปืนที่บรรจุอยู่ในแกลลอน ทำให้ระเบิดขึ้น อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากการวางระเบิดครั้งนี้คนร้ายได้ใช้ดินปืนจำนวนมาก ทำให้แรงอัดมีอานุภาพมากขึ้น ซึ่งลักษณะระเบิดเหมือนกับที่วางไว้ในตู้โทรศัพท์สาธารณะ หน้าเมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์ รัชโยธิน แต่ครั้งนี้มีดินระเบิดมาก จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บขณะเข้าวจสอบ