แม่ร่ำไห้ ลูกโดนคู่อริยิงสวนดับ เผยลูกเปิดศึกต่างสถาบัน ครั้งแรกและสุดท้าย
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม แม่ร่ำไห้ ลูกโดนคู่อริยิงสวนดับ เผยลูกเปิดศึกต่างสถาบัน ครั้งแรกและสุดท้าย
กรณีที่ เด็กช่าง วิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งได้ก่อเหตุยิงคู่อริบริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 2 ใกล้ร.พ.เกษมราษฎร์บางแค เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน โดยคนที่ยิงอ้างว่าโดนกลุ่มผู้เสียชีวิตมาดักทำร้ายจึงยิงขู่ทำให้เกิดเหตุดังกล่าว
ต่อมานางสุดใจ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี มารดา นายต้น อายุ 17 ปี ผู้ยิงเสียชีวิต เดินทางมาดูศพลูกชาย พร้อมเล่าให้ฟังด้วยความโศกเศร้าว่า นายต้น เพิ่งถูกเชิญให้ออกจากโรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่ง เนื่องจากเกรดไม่ถึง จึงออกมาอยู่บ้านเฉยๆ แต่ก็มีเพื่อนๆ นักเรียนอาชีวะหลายสถาบัน มาหาที่บ้านย่านสวนผักทุกวัน
ตนเคยเตือนให้ระวังตัวเพราะกลัวจะไปมีเรื่องมีราว แต่สุดท้ายก็ห้ามไม่ได้ ที่ผ่านมาลูกเป็นคนขี้ขลาดไม่เคยมีประวัติทะเลาะวิวาทกับใครมาก่อน ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของชีวิตลูกชาย
ตนยอมรับว่าตกใจและเสียใจมาก แต่ไม่รู้จะโทษใคร ต้องโทษตัวเองที่ตักเตือนลูกไม่ได้ ขอให้วัยรุ่นทุกคนเอาเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์และต้องเชื่อฟังพ่อแม่ เพราะเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วไม่มีใครเสียใจเท่าพ่อแม่ผู้ปกครองอย่างแน่นอน ส่วนศพลูกชายนั้นจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดย่านอ.บางกรวย จ.นนทบุรี เนื่องจากญาติๆ พักอยู่แถวนั้น ซึ่งจะตั้งสวดกี่วันขอปรึกษากันในครอบครัวอีกที
ต่อมานางสุดใจ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี มารดา นายต้น อายุ 17 ปี ผู้ยิงเสียชีวิต เดินทางมาดูศพลูกชาย พร้อมเล่าให้ฟังด้วยความโศกเศร้าว่า นายต้น เพิ่งถูกเชิญให้ออกจากโรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่ง เนื่องจากเกรดไม่ถึง จึงออกมาอยู่บ้านเฉยๆ แต่ก็มีเพื่อนๆ นักเรียนอาชีวะหลายสถาบัน มาหาที่บ้านย่านสวนผักทุกวัน
ตนเคยเตือนให้ระวังตัวเพราะกลัวจะไปมีเรื่องมีราว แต่สุดท้ายก็ห้ามไม่ได้ ที่ผ่านมาลูกเป็นคนขี้ขลาดไม่เคยมีประวัติทะเลาะวิวาทกับใครมาก่อน ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของชีวิตลูกชาย
ตนยอมรับว่าตกใจและเสียใจมาก แต่ไม่รู้จะโทษใคร ต้องโทษตัวเองที่ตักเตือนลูกไม่ได้ ขอให้วัยรุ่นทุกคนเอาเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์และต้องเชื่อฟังพ่อแม่ เพราะเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วไม่มีใครเสียใจเท่าพ่อแม่ผู้ปกครองอย่างแน่นอน ส่วนศพลูกชายนั้นจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดย่านอ.บางกรวย จ.นนทบุรี เนื่องจากญาติๆ พักอยู่แถวนั้น ซึ่งจะตั้งสวดกี่วันขอปรึกษากันในครอบครัวอีกที
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันจับกุมตัว นายใหญ่(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นายโต(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี และนายน้อย(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ทั้ง 3 คนเป็นนักศึกษาชั้น ปวช.ปี 1แผนกช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่งในกรุงเทพพร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 ปลอก โดยจับกุมตัวได้หลังก่อเหตุยิงนักเรียนอาชีวะคู่อริเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณแยกไฟแดง ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ก่อนตัดเข้าถนนเพชรเกษม แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.
พ.ต.อ.อรรถวุฒิ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 15.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.หลักสอง กำลังอำนวยการจราจรอยู่ที่ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ก่อนตัดเข้าถนนเพชรเกษม
ใกล้ ร.พ.เกษมราษฎร์บางแค ในขณะนั้นได้เกิดเหตุนักเรียนตีกันบนรถประจำทางสาย 123 ซึ่งกำลังแล่นผ่านป้อมควบคุมสัญญาณจราจรบริเวณนั้น และมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนที่เด็กนักเรียน 2 ฝ่าย จะพากันวิ่งแตกกระเจิงหลบหนีไปคนละทิศละทาง
โดยมีเจ้าหน้าที่เห็น นายใหญ่ นายโต และนายน้อย วิ่งลงจากรถประจำทางคันที่เกิดเหตุ โบกรถแท็กซี่หลบหนีไปทางถนนเพชรเกษม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้ง 3 ราย เอาไว้ได้ โดยพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 ปลอก เหน็บอยู่ที่เอว นายใหญ่จึงเชิญตัวทั้ง 3 ราย พร้อมของกลางมาทำการสอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพ ที่ สน.หลักสอง
พ.ต.อ.อรรถวุฒิ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกกระสุนปืนเข้าที่อกข้างขวา 1 ราย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำตัวส่ง รพ.เกษมราษฎร์บางแค แล้ว แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบถายหลังว่าชื่อนายพลวัฒน์ ไชยชาติ อายุ 17 ปี เบื้องต้นทราบว่าเป็นนักศึกษาก่อสร้างดุสิต ขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อญาติพี่น้องมาดูศพที่โรงพยาบาล ก่อนนำร่างส่งสถาบันนิติเวช ร.พ.ศิริราช ทำการผ่าหาสาเหตุการตาย และรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
พ.ต.อ.อรรถวุฒิ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 15.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.หลักสอง กำลังอำนวยการจราจรอยู่ที่ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ก่อนตัดเข้าถนนเพชรเกษม
ใกล้ ร.พ.เกษมราษฎร์บางแค ในขณะนั้นได้เกิดเหตุนักเรียนตีกันบนรถประจำทางสาย 123 ซึ่งกำลังแล่นผ่านป้อมควบคุมสัญญาณจราจรบริเวณนั้น และมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนที่เด็กนักเรียน 2 ฝ่าย จะพากันวิ่งแตกกระเจิงหลบหนีไปคนละทิศละทาง
โดยมีเจ้าหน้าที่เห็น นายใหญ่ นายโต และนายน้อย วิ่งลงจากรถประจำทางคันที่เกิดเหตุ โบกรถแท็กซี่หลบหนีไปทางถนนเพชรเกษม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้ง 3 ราย เอาไว้ได้ โดยพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 ปลอก เหน็บอยู่ที่เอว นายใหญ่จึงเชิญตัวทั้ง 3 ราย พร้อมของกลางมาทำการสอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพ ที่ สน.หลักสอง
พ.ต.อ.อรรถวุฒิ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกกระสุนปืนเข้าที่อกข้างขวา 1 ราย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำตัวส่ง รพ.เกษมราษฎร์บางแค แล้ว แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบถายหลังว่าชื่อนายพลวัฒน์ ไชยชาติ อายุ 17 ปี เบื้องต้นทราบว่าเป็นนักศึกษาก่อสร้างดุสิต ขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อญาติพี่น้องมาดูศพที่โรงพยาบาล ก่อนนำร่างส่งสถาบันนิติเวช ร.พ.ศิริราช ทำการผ่าหาสาเหตุการตาย และรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
จากการสอบสวน นายใหญ่ยอมรับสารภาพว่า ตนนายโตและนายน้อยเป็นนักศึกษา แผนกช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ย่านถนนสวนผัก-ตลิ่งชัน ก่อนเกิดเหตุเพิ่งเลิกเรียนได้นั่งรถประจำทางจากหน้าสถาบันกำลังมุ่งหน้ากลับบ้านย่านกระทุ่มแบน ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถ จู่ๆ กลุ่มเด็กนักเรียนคู่อริทราบว่าเป็นเด็กช่างก่อสร้างดุสิต ประมาณ 10 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 5 คัน พากันขี่รถมาจอดเทียบขณะติดไฟแดงตรงแยกพุทธมณฑลสาย 2 ตัดถนนเพชรเกษม จากนั้นคู่อริได้พยายามวิ่งขึ้นมาบนรถมีทั้งมีดและอาวุธปืน ตนจึงตัดสินใจชักปืนออกมายิงขู่ไป 1 นัด ไม่คิดว่ากระสุนจะถูกคู่กรณี
นายใหญ่ให้การต่อว่า สาเหตุที่ตนต้องพกอาวุธปืนไปเรียนหนังสือด้วยนั้น เนื่องจากต้องเอามาไว้ป้องกันตัว เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ ตนเพิ่งถูกเด็กช่างคู่อริไม่ทราบสถาบันไล่ยิงมากระสุนถากแขนจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดย่านถนนกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งตนยอมรับผิดกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่สำคัญเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ตนต้องทำเพื่อป้องกันตัว ไม่เช่นนั้นตนและเพื่อนอาจเสียชีวิตเสียเอง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควร แก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย โดยจะเชิญผู้ปกครอง ครูอาจารย์ และเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ มาร่วมสอบปากคำด้วย ก่อนคุมตัวฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในวันที่ 22 พ.ค.ต่อไป
นายใหญ่ให้การต่อว่า สาเหตุที่ตนต้องพกอาวุธปืนไปเรียนหนังสือด้วยนั้น เนื่องจากต้องเอามาไว้ป้องกันตัว เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ ตนเพิ่งถูกเด็กช่างคู่อริไม่ทราบสถาบันไล่ยิงมากระสุนถากแขนจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดย่านถนนกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งตนยอมรับผิดกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่สำคัญเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ตนต้องทำเพื่อป้องกันตัว ไม่เช่นนั้นตนและเพื่อนอาจเสียชีวิตเสียเอง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควร แก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย โดยจะเชิญผู้ปกครอง ครูอาจารย์ และเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ มาร่วมสอบปากคำด้วย ก่อนคุมตัวฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในวันที่ 22 พ.ค.ต่อไป
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น