นานาประเทศกดดันพม่าอย่างหนัก
หลังดื้อแพ่งยิงพระ-ประชาชนเป็นวันที่สามตายเพิ่มอีก 4 ด้าน "มะกัน" ประกาศอายัดทรัพย์ 14 ผู้นำทหาร สั่งห้ามบริษัทในสหรัฐดำเนินธุรกิจร่วมกับผู้นำพม่า ลือครอบครัว "ตัน ฉ่วย" หนีเข้าลาว ขณะที่ "สุรยุทธ์" ประกาศกลางเวทีสมัชชาสหประชาชาติไม่ยอมรับพม่าใช้ความรุนแรง
เหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศพม่าลุกลามออกไปในวงกว้าง หลังรัฐบาลทหารพม่าใช้กำลังทหารออกปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงที่เป็นพระสงฆ์ และประชาชนด้วยวิธีการที่ป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรม ล่าสุดนานาประเทศได้ออกมาประณามและกดดันรัฐบาลทหารพม่าอย่างหนัก เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมเกินกว่าคนทั่วโลกจะรับได้
พม่ายังยิงปืนสลายตายอีก 4
เมื่อวันที่ 28 กันยายน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุการณ์ประท้วงนองเลือดในพม่าที่ดำเนินมาเป็นวันที่ 11 ว่า แม้รัฐบาลทหารพม่าจะใช้วิธีรุนแรงปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างหนัก แต่จนถึงขณะนี้ผู้ประท้วงนับหมื่นคนยังออกมาเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลทหาร โดยกลุ่มผู้ประท้วงร้องตะโกนคำขวัญ และปรบมือขณะเดินขบวนไปยังเจดีย์สุเหล่ ซึ่งเป็นจุดที่ทหารใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมในวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา แต่การประท้วงดังกล่าวถูกขัดขวางจากทหารที่มาตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ทหารยิงปืนสลายผู้ประท้วงอีก ทำให้ผู้ชุมนุมหลบหนีเอาชีวิตรอดท่ามกลางความสับสนอลหม่าน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้เป็น 13 คนแล้ว
ด้านวิทยุเสียงประชาธิปไตยของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพม่า ที่กรุงออสโล ในนอร์เวย์ รายงานว่า ทหารได้บุกวัดเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 แห่ง ในนครย่างกุ้ง เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา แต่ยังไม่อาจระบุจำนวนพระที่ถูกทหารควบคุมตัวไว้ทั้งหมด โดยกล่าวเพียงว่ามีการดัดแปลงโรงเรียนใกล้คุกอินเส่งให้เป็นศูนย์ควบคุมพระสงฆ์อย่างน้อย 300 รูป เป็นการชั่วคราว ซึ่งทหารได้สั่งให้พระสงฆ์เปลื้องจีวรออก แต่ถูกปฏิเสธ