ฉาวอีกข่มขืนแหม่มสาวนอร์เวย์ ที่เกาะพงัน!

      เมื่อวันที่ 13 พ.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้าย ได้ก่อเหตุข่มขืนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหญิงจำนวน 1 ราย ภายหลังได้หลบหนีไป ในเขตพื้นที่ สภ.เกาะพะงัน ว่า ได้รับรายงาน จาก สภ.เกาะพะงัน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ว่าเกิดเหตุ หญิงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถูกข่มขืน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 พ.ค.

โดยเหตุดังกล่าว นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นหญิงจำนวน 1 ราย สัญชาตินอร์เวย์ อายุ 26 ปี ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายเป็นชายจำนวน 1 ราย โดยให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้เดินทางไปท่องเที่ยว และได้พักแรมแรมที่รีสอร์ท แห่งหนึ่งในเกาะพะงัน ต่อมาวันที่ 11 พ.ค. 2562 เวลาประมาณ 23.00 น. ตนได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่งาน ฮาฟมูล ปาร์ตี้ หมู่ 3 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี จนกระทั่งตนได้กลับมาที่พัก พบว่ากระเป๋าเงินของตนที่พกติดตัวนั้นได้หายไป จึงได้เดินไปตามถนนย้อนกลับไปยังบริเวณงาน ไปเพื่อออกตามหา

โดยระหว่างทาง ตนได้พบกับคนร้าย เป็นชายจำนวน 1 ราย ขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ หมายเลขทะเบียน ได้ขับรถพาตน เพื่อออกตามหากระเป๋าเงิน จนกระทั่งมาถึงยังบริเวณถนนลูกรัง ซอยตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เกาะพะงัน หมู่ 1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งตนได้สังเกตว่าคนร้ายน่าจะขับรถออกนอกเส้นทาง จึงบอกให้หยุดรถ แต่ชายคนร้ายไม่ยอมหยุด จึงได้กระโดดลงจากรถ จากนั้นคนร้ายจึงได้ใช้กำลังทำร้ายและได้ทำการข่มขืนตน จากนั้นคนร้ายจึงได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ภายหลังรับแจ้งเหตุ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ตามกฎหมาย รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง และทำการถ่ายภาพ วาดแผนที่เกิดเหตุโดยสังเขป รวมถึง ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังลงพื้นที่หาเบาะแส ข้อมูลของคนร้าย และเร่งรัดตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รวมถึงได้แจ้งสถานเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ ประจำประเทศไทย ให้ทราบถึงพฤติการณ์กรณีที่ชาวต่างชาติตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา รวมถึงรวบรวมรายละเอียดและพฤติการณ์ของผู้เสียหาย ให้กับทางกองบังคับการกองการต่างประเทศ รวมถึง ที่ทำการของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และ ตำรวจท่องเที่ยว ในพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้อยู่ระหว่าง สืบสวนสอบสวน โดยพนักงานสอบสวน สอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก ทั้งนี้ยังคงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว พร้อมกันนี้ได้กำชับผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ ให้กำหนดมาตรการป้องกันเหตุ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก โดยหากเกิดเหตุต้องติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้โดยเร็ว ทั้งนี้พนักงานสอบสวนต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับผู้ที่ก่อเหตุเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน

คืบหน้าล่าสุดวันที่ 13 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ได้พาผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ ร.พ.เกาะพะงัน ส่วนชุดสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สุราษฎร์ธานี ตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะสมุย และทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยมณฑลทหารบกที่ 45 พื้นที่เกาะพะงัน ได้ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และออกสืบสวนหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดพบบุคคลต้องสงสัยนุ่งกางเกงขาสั้น ใส่เสื้อคอกลม สวมหมวกแก๊ป และใส่รองเท้าแตะ จอดรถจยย.คุยกับนักท่องเที่ยวสาวและเพื่อนชายขณะเดินตามหากระเป๋าเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เชิญตัวชายไทยต้องสงสัยรายหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายคนในภาพมาสอบสวนปากคำยัง สภ.เกาะพงัน พร้อมยึดรถจยย.ไว้ตรวจสอบ และเก็บหลักฐานดีเอ็นเอจากชายต้องสงสัยดังกล่าว

พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้เดินทงลงพื้นที่เกาะพงันเพื่อตรวจที่เกิดเหตุและกำชับการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนให้มีความรัดกุมรอบคอบ โดยตรวจสอบหลักฐานและกล้องวงจรปิดตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ตอนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุเพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัย ส่วนรายละเอียดของคนร้ายขอปิดไว้ก่อน ขอให้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเกาะสมุย

ล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวชายต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นก่อเหตุรายนี้ได้แล้ว มีชื่อเล่นว่า "มอส" เป็นชาว อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช พบเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำเกาะสมุยในคดียาเสพติด เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา และผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้มาสมัครเป็นช่างซ่อมรถของซ่อมแห่งหนึ่งในเกาะพะงัน และรถจยย.คันที่ใช้ก่อเหตุก็เป็นของนายตำรวจประจำ สภ.เกาะพะงัน ที่มาฝากซ่อมไว้ที่ร้านดังกล่าว