ด้านหน้ามุดเข้าไปอยู่ใต้ท้องด้างหางลากจนเกือบมิดคัน สภาพรถกระบะพังยับเยิน ภายในซากรถกระบะคันดังกล่าวได้พบศพ นายสุรเดช จินาวงศ์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 / 1 ซอยพระรามเก้า 41 (ซอย 12 เสรี 2 ) แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท 4 พีเทคโนโลยี จำกัด ที่ตั่งอยู่ถนนราชปรารภ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม. และเป็นที่ปรึกษาบริษัท เคเอสบี เทคโนโลยี จำกัด ที่ตั้งอยู่พื้นที่ตำบลแพรกษาใหม่ จังหวัดสมุทรปราการ
สภาพถูกอัดก๊อฟปี่เสียชีวิตอยู่กับเบาะนั่งด้านคนขับ
หน้าผากมีบาดแผลเปิดขนาดใหญ่ แขนและขาทั้งสองข้างรวมทั้งลำคอหัก เสียชีวิตอยู่ภายในรถ ตรวจสอบภายในตัวผู้ตาย พบกระเป๋าสตางค์ ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างขวามีเงินสดอยู่จำนวน 5 หมื่นบาทเศษ ส่วนผู้ขับขี่รถพวงคันดังกล่าว ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนนายบุญเสริม สายฟังงาม อายุ 43 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 6 ต.ทนงมุด อ.กาบเช็ง จ.สุรินทร์ โชว์เฟอร์รถพวงคันดังกล่าว ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถพวงคันดังกล่าวเดินทางไปรับเครื่องปรับอากาศทำความเย็นขนาดใหญ่ 2 ตัวจากบริษัทในย่านลาดกระบัง กทม. หลังจากนั้นได้ขับรถคันดังกล่าว มุ่งหน้ากลับบริษัท ที่ตั้งอยู่ในย่านอำเภอบางพลี ใกล้กับที่เกิดเหตุเพื่อพักรถ และจะนำสินค้าไปส่งให้ลูกค้าในวันพรุ่งนี้
ในขณะที่ตนกำลังเลี้ยวรถยูเทินกลับรถ ซึ่งก่อนหน้านั้น ตนก็ได้ดูเป็นอย่างดีแล้วว่า ไม่มีรถทางซ้ายวิ่งมาแต่อย่างใด แต่ด้วยความยาวของรถ ทำให้ขับรถพวงคันดังกล่าวเลี้ยวกลับรถอย่างช้า ๆ
ในขณะที่เลี้ยวกลับรถข้ามฝั่งมาเกือบที่จะตั้งลำเข้าเลนซ้าย อยู่ ๆ รถยนต์กระบะคันดังกล่าวซึ่งขับมาด้วยความเร็วสูง ได้พุ่งชนเข้าที่บริเวณกลางคันรถของตน โดยรถยนต์ที่ชนได้มุดเข้าไปใต้หางรถพ่วงเสียดังสนั่น ด้วยความตกใจตนจึงได้รีบจอดรถและวิ่งลงมาดู พบว่าผู้ตายร่างอัดก๊อฟปีเสียชีวิตคาอยู่ในซากรถที่มุดเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถของตน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า
ในขณะที่ผู้ตายขับรถมาด้วยความเร็วสูง โดยไม่ทันได้มองว่า มีรถพวงกำลังเลี้ยวกลับรถอยู่ด้านหน้า หรือไม่ผู้ตายอาจจะหลับใน จึงขับรถมาด้วยความเร็ว และพุ่งชนเข้าที่บริเวณกลางคันของรถพวงเข้าอย่างแรง โดยไม่ทันได้เบรกเป็นเหตุให้ศีรษะของผู้ตายฟาดเข้ากับโครงเหล็กหางพวงเข้าอย่างจัด จนหน้าผากเปิดกระดูกแขนขาหักเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จะได้สอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป