ฟันซ้ำ ‘ครูจอมทรัพย์’ จ่อถอนใบอนุญาต ส่วน ‘ครูปรีชา’ ยังรอผลคดี

นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เปิดเผยกรณี ศาลจังหวัดนครพนม มีคำพิพากษาจำคุก นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือ ครูจอมทรัพย์ อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร 8 ปี ว่า

ก่อนหน้านี้ที่ กมว. อนุมัติต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูให้แก่ นางจอมทรัพย์ เนื่องจากพิจารณาตามหลักเกณฑ์การพิจารณาลักษณะต้องห้าม กรณีต้องโทษจำคุก โดยพิจารณาว่าการขับรถชน คือความประมาทและไม่มีใครอยากทำให้มีคนตาย จึงถือว่าไม่บกพร่องในศีลธรรมอันดีและไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามในทางจรรยาบรรณวิชาชีพ

แต่ขณะนี้เมื่อศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้วว่า มีการปั้นพยาน ให้ความเท็จ และแจ้งความเท็จ เพราะฉะนั้น สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะต้องเสนอเรื่องมายัง กมว.เพื่อให้ กมว.พิจารณากรณีการประพฤติผิดเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพ

"กรณีนางจอมทรัพย์ ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง แต่สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนการประพฤติผิดจรรยาบรรณวิชาชีพได้เลย เพราะมีศาลคำพิพากษาแล้ว ซึ่งต้องรอคุรุสภาเสนอเรื่องเข้ามาก็สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ ได้ทันที ซึ่งตามกรอบเวลาจะต้องแล้วเสร็จภายใน 180 วัน แต่เรื่องนี้สามารถทำได้เร็ว เพราะมีข้อมูลชัดแล้วไม่ต้องเสียเวลาสอบสวนใหม่ ทั้งนี้ โทษการกระทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ มีทั้งพักใช้ใบอนุญาตฯ และเพิกถอนใบอนุญาตฯ แต่กรณีนางจอมทรัพย์ ที่กระทำแบบนี้มีคำพิพากษาออกมาชัดเจน ว่าทำเสื่อมเสียต่อจรรยาบรรณวิชาชีพครู กมว.ก็สามารถเพิกถอนใบอนุญาตฯ ได้" นายเอกชัย กล่าว

นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีนายปรีชา ใคร่ครวญ อดีตครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังสี ที่มีคดีการฟ้องร้องหวย 30 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการสอบสวนฯ และศาลยังไม่มีคำพิพากษาในเรื่องนี้ออกมา

เพราะฉะนั้น เพื่อให้กระบวนการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จำเป็นต้องรอก่อนว่าศาลจะมีคำพิพากษาเช่นไรถ้าศาลพิพากษาและพบว่ามีผลทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อจรรยาบรรณวิชาชีพ ก็จะนำคำพิพากษามาประกอบการพิจารณาความประพฤติทางจรรยาบรรณต่อไป

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนายปรีชา ไม่ได้ปฏิบัติการสอนแล้ว เพราะมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 8 (ราชบุรี-กาญจนบุรี)