นอนคุกยกแก๊ง “ศาล” ไม่ให้ประกัน 24คนยกพวกถล่มโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม นอนคุกยกแก๊ง “ศาล” ไม่ให้ประกัน 24คนยกพวกถล่มโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์
ที่ศาลอาญาธนบุรี ถนนเอกชัย พนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ควบคุมตัวนายมนตรี พูลทรัพย์ อายุ 32 ปี กับพวก ซึ่งเป็นชายฉกรรจ์อายุตั้งแต่ 18 ปีเศษ ถึง 41 ปี รวม 20 คน ผู้ต้องหาที่ 1-20 ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่จ.108/2562 - 127/2562 ลงวันที่ 24 ก.พ.62 คดีร่วมกันบุกรุกใช้กำลังทำร้ายร่างกายอาจารย์และนักเรียน ร.ร.มัธยมวัดสิงห์ ระหว่างการสอบ GAT-PAT มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.-9 มี.ค.62 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก และรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา พร้อมคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 20 คน เนื่องจาก พฤติการณ์ของผู้ต้องหากระทำการด้วยความอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ลักษณะเป็นภัยต่อสังคม เกิดผลกระทบกระเทือนต่อสังคมโดยรวม หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ระหว่างที่ ร.ร.มัธยมวัดสิงห์ จัดสนามสอบ GAT-PAT ที่อาคาร 3 ภายในร.ร. ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ซึ่งมีเด็กนักเรียนหลาย ร.ร.เข้าร่วมการสอบ โดยเมื่อเวลา 08.30 น. ร.ร. ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาสอบว่า ได้มีงานบวชที่วัดสิงห์ ซึ่งอยู่ใกล้กับ ร.ร. เปิดเครื่องเสียงส่งเสียงดังรบกวน
ต่อมาเวลา 09.00 น. อาจารย์ฝ่ายวิชาการของ ร.ร. จึงเดินทางไปที่วัดสิงห์ ได้พูดคุยกับพระภิกษุขอให้ช่วยลดเสียงในงานบวช เพื่อให้นักเรียนสามารถสอบได้ แล้วเมื่อเวลา 10.00 น. กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งกำลังจะร่วมงานบวชพระช่วงบ่าย ก็ได้เดินทางมาที่ ร.ร. และมาสอบถามเรื่องการงดใช้เสียง แต่ ร.ร.ชี้แจงกลับไปว่าไม่ได้ให้มีการงดใช้เสียง แต่ให้ลดเสียงลงเท่านั้น เนื่องจากมีนักเรียนกำลังสอบอยู่ จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาจึงเดินทางกลับไปที่วัดจนบวชพระงานที่ 1 ได้เสร็จในช่วงเที่ยง
ต่อมาเมื่อถึงงานบวชพระเพื่อนของกลุ่มที่กลุ่มผู้ต้องหาไปร่วม ซึ่ง ร.ร.ก็ได้จัดสอบต่อช่วงบ่ายตามปกติ แต่เมื่อเวลา 14.30 น. ขณะที่ ผอ.ร.ร.กำลังพูดคุยกับอาจารย์อยู่ในห้องทำงาน ผู้ต้องหากับพวกก็เข้ามาที่โรงเรียนทางประตูด้านวัดสิงห์ จากนั้นได้ทำร้าย รปภ. 2 คน และได้เข้ามาที่ห้อง ผอ. จากนั้นได้พูดจาต่อว่า ร.ร. เรื่องให้งดการใช้เสียง
โดยระหว่างที่กำลังพูดคุยกันนั้นพวกของผู้ต้องหาได้ชกที่ใบหน้าของ ผอ. เมื่ออาจารย์และกลุ่มผู้ต้องหาได้เข้าห้ามปรามซึ่งได้มีการพูดคุยกันต่ออีก ระหว่างนั้นคนในกลุ่มผู้ต้องหาก็ได้ทำร้าย ผอ.ร.ร.อีก โดยมีคนเข้ามาห้าม แต่กลุ่มผู้ต้องหาได้ทำลายทรัพย์สินที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของ ผอ.อีก และขณะที่กำลังจะออกจากห้องทำงานกลุ่มผู้ต้องหาก็ได้ผลักทีวีขนาด 50 นิ้ว ที่วางอยู่บนโต๊ะ จนตกลงพื้นได้รับความเสียหาย และเมื่อออกมาจากห้องทำงานก็ยังทำลายน้ำพุที่หน้าห้องทำงานด้วย ก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นไปที่อาคารเรียนชั้นที่ 2 และ3 และยังได้เข้าไปในห้องเรียนที่มีการสอบแล้วทำร้ายนักเรียน อาจารย์ที่คุมสอบด้วย รวมทั้งทำลายโต๊ะเก้าอี้นักเรียนอีกหลายตัว นอกจากนี้ยังได้กระทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิงที่มาสอบต่อหน้าบุคคลอื่นด้วยการกอดและหอมแก้มด้วย กระทั่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.บางขุนเทียน ได้เข้ามาระงับเหตุ ผู้ต้องหากับพวกก็ได้ออกจาก ร.ร. และหลบหนีไป
โดยเมื่อวันที่ 25 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 20 คนได้ตามหมายจับ พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหา กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215,278,281,295,298,309 วรรคสอง,365(1)(2),มาตรา 358 และ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551(1),42 โดยชั้นสอบสวนผู้ต้องหามีทั้งให้การรับสารภาพและภาคเสธ เหตุเกิดที่ ร.ร.มัธยมวัดสิงห์ และวัดสิงห์ แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.
โดยศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง
ต่อมาญาติของผู้ต้องหาทั้ง 20 คนได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว กระทั่งเวลา 16.00 น. เศษ ศาลพิจารณาคำร้องและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ตามคำร้องขอฝากขังผู้หาบ่งชี้ว่าผู้ต้องหากับพวกไม่เคารพกฎหมาย หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหากับพวกอาจก่อภยันตรายเเก่พยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ทำให้เกิดความเสียหายเเก่การรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน กรณียังไม่มีเหตุสมควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา จึงมีคำสั่งยกคำร้อง
ต่อมาเมื่อถึงงานบวชพระเพื่อนของกลุ่มที่กลุ่มผู้ต้องหาไปร่วม ซึ่ง ร.ร.ก็ได้จัดสอบต่อช่วงบ่ายตามปกติ แต่เมื่อเวลา 14.30 น. ขณะที่ ผอ.ร.ร.กำลังพูดคุยกับอาจารย์อยู่ในห้องทำงาน ผู้ต้องหากับพวกก็เข้ามาที่โรงเรียนทางประตูด้านวัดสิงห์ จากนั้นได้ทำร้าย รปภ. 2 คน และได้เข้ามาที่ห้อง ผอ. จากนั้นได้พูดจาต่อว่า ร.ร. เรื่องให้งดการใช้เสียง
โดยระหว่างที่กำลังพูดคุยกันนั้นพวกของผู้ต้องหาได้ชกที่ใบหน้าของ ผอ. เมื่ออาจารย์และกลุ่มผู้ต้องหาได้เข้าห้ามปรามซึ่งได้มีการพูดคุยกันต่ออีก ระหว่างนั้นคนในกลุ่มผู้ต้องหาก็ได้ทำร้าย ผอ.ร.ร.อีก โดยมีคนเข้ามาห้าม แต่กลุ่มผู้ต้องหาได้ทำลายทรัพย์สินที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของ ผอ.อีก และขณะที่กำลังจะออกจากห้องทำงานกลุ่มผู้ต้องหาก็ได้ผลักทีวีขนาด 50 นิ้ว ที่วางอยู่บนโต๊ะ จนตกลงพื้นได้รับความเสียหาย และเมื่อออกมาจากห้องทำงานก็ยังทำลายน้ำพุที่หน้าห้องทำงานด้วย ก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นไปที่อาคารเรียนชั้นที่ 2 และ3 และยังได้เข้าไปในห้องเรียนที่มีการสอบแล้วทำร้ายนักเรียน อาจารย์ที่คุมสอบด้วย รวมทั้งทำลายโต๊ะเก้าอี้นักเรียนอีกหลายตัว นอกจากนี้ยังได้กระทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิงที่มาสอบต่อหน้าบุคคลอื่นด้วยการกอดและหอมแก้มด้วย กระทั่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.บางขุนเทียน ได้เข้ามาระงับเหตุ ผู้ต้องหากับพวกก็ได้ออกจาก ร.ร. และหลบหนีไป
โดยเมื่อวันที่ 25 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 20 คนได้ตามหมายจับ พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหา กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215,278,281,295,298,309 วรรคสอง,365(1)(2),มาตรา 358 และ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551(1),42 โดยชั้นสอบสวนผู้ต้องหามีทั้งให้การรับสารภาพและภาคเสธ เหตุเกิดที่ ร.ร.มัธยมวัดสิงห์ และวัดสิงห์ แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.
โดยศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง
ต่อมาญาติของผู้ต้องหาทั้ง 20 คนได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว กระทั่งเวลา 16.00 น. เศษ ศาลพิจารณาคำร้องและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ตามคำร้องขอฝากขังผู้หาบ่งชี้ว่าผู้ต้องหากับพวกไม่เคารพกฎหมาย หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหากับพวกอาจก่อภยันตรายเเก่พยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ทำให้เกิดความเสียหายเเก่การรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน กรณียังไม่มีเหตุสมควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา จึงมีคำสั่งยกคำร้อง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้นำตัวกลุ่มผู้ต้องหาไปควบคุมตัวยังเรือนจำพิเศษธนบุรี ย่านบางบอนระหว่างฝากขังต่อไป
ขณะที่ เยาวชนชาย อายุ 16 ปี 2 คน และอายุ 17 ปี อีก 2 คน ที่ร่วมกระทำผิดคดีนี้ไปยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง ควบคุมตัวระหว่างสอบสวนตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชน และครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 71 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 โดยพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว ศาลสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน
ทั้งนี้ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุที่จะให้ศาลออกหมายควบคุมตัวระหว่างสอบสวน และเมื่อพิจารณาพฤติการณ์แห่งคดีแล้วการกระทำผู้ต้องหาทั้งสี่ อาจเป็นภัยร้ายแรง ต่อผู้อื่น หรือเกรงว่า จะหลบหนี และเมื่อศาลคำนึงถึง การคุ้มครองสิทธิ และประโยชน์สูงสุดของผู้ต้องหาแล้ว จึงมีคำสั่งให้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสี่ไว้ระหว่างสอบสวนไว้ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก และเยาวชน กรุงเทพมหานคร มีกำหนด 30 วันตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.- 26 มี.ค. นี้โดยเมื่อครบกำหนดแล้วให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสี่ เว้นแต่ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
สำหรับผู้ต้องหาทั้งสี่ถูกดำเนินคดีข้อหา ร่วมกัน ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
ขณะที่ เยาวชนชาย อายุ 16 ปี 2 คน และอายุ 17 ปี อีก 2 คน ที่ร่วมกระทำผิดคดีนี้ไปยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง ควบคุมตัวระหว่างสอบสวนตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชน และครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 71 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 โดยพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว ศาลสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน
ทั้งนี้ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีมีเหตุที่จะให้ศาลออกหมายควบคุมตัวระหว่างสอบสวน และเมื่อพิจารณาพฤติการณ์แห่งคดีแล้วการกระทำผู้ต้องหาทั้งสี่ อาจเป็นภัยร้ายแรง ต่อผู้อื่น หรือเกรงว่า จะหลบหนี และเมื่อศาลคำนึงถึง การคุ้มครองสิทธิ และประโยชน์สูงสุดของผู้ต้องหาแล้ว จึงมีคำสั่งให้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสี่ไว้ระหว่างสอบสวนไว้ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก และเยาวชน กรุงเทพมหานคร มีกำหนด 30 วันตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.- 26 มี.ค. นี้โดยเมื่อครบกำหนดแล้วให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสี่ เว้นแต่ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
สำหรับผู้ต้องหาทั้งสี่ถูกดำเนินคดีข้อหา ร่วมกัน ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น