อธิบดีคุกลั่น! ตีตรวน’ฮาคีม’เรื่องปกติ
วันที่ 4 ก.พ. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีการตั้งข้อสังเกตและตำหนิ การใส่ตรวน ระหว่างการคุมตัว นาย ฮาคีม อัล-อาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ไปขึ้นศาลขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำได้พิจารณา ใส่กุญแจข้อเท้านายฮาคีม อัล-อาไรบี ระหว่างออกไปขึ้น ซึ่งเป็นระเบียบขั้นตอนปกติที่
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ สามารถกระทำได้ตามพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 ซึ่งตามพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ในมาตรา 21 ได้ระบุว่า ห้ามใช้เครื่องพันธนาการแก่ผู้ต้องขัง แต่มียกเว้นหลายกรณี ทั้งนี้ในกรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ดุลยพินิจ เป็นไปตามระเบีบบกฎหมาย
ด้านนายกริช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวกับ ข่าวสดออนไลน์ ว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ดำเนินการตามขั้นตอนปฏิบัติตามพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ การพิจารณาใส่เครื่องพันธนาการ เป็นเรื่องที่ผู้ควบคุมเห็นแล้วว่าผู้ต้องขังเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงหลบหนี
เนื่องจากนายฮาคีม เป็นอดีตนักฟุตบอล เป็นผู้ต้องขังคดีที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องระหว่างประเทศ ผู้ควบคุมพิจารณาแล้ว จึงเห็นสมควรใส่กุญแจข้อเท้า ซึ่งเป็นเครื่องพันธนาการอย่างหนึ่งตามกฎหมาย ดังนั้นจึงเห็นว่าไม่ใช่เรื่องแปลกในการใช้เครื่องพันธนาการ สำหรับข้อยกเว้นที่ผู้คุมจะไม่ใส่เครื่องพันธนาการ ก็คือ ผู้ต้องขังหญิง ผู้ต้องขังชายสูงอายุ หรือผู้ต้องขังที่มีร่างกายพิการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นการละเมิดสิทธิผู้ต้องขัง นายกริช กล่าวว่างานราชทัณฑ์สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมุษยชนอยู่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็สุ่มเสี่ยงที่จะติดคุกเพราะทำผิดกฎหมายอาญาด้วยเช่นกัน หากผู้ต้องหลบหนีระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ถูกต้องกรรมการสอบ อาจโดนข้อหาละเว้น หรือละเลย ประมาท ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
ดังนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทำอะไรจะพิจารณาจะกฎหมายที่อำนาจหน้าที่เป็นหลักและพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นหลักสากลที่หลายประเทศก็ใช้กัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 มาตรา 21 ระบุว่า ห้ามใช้เครื่องพันธนาการแก่ผู้ต้องขัง เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
ผู้ต้องขังมีพฤติการณ์ที่จะทําอันตรายต่อชีวิตหรือร่างกายของตนเองหรือผู้อื่นผู้ต้องขังมีพฤติกรรมหรืออาการส่อว่าเป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตไม่สมประกอบซึ่งอาจจะทํา อันตรายต่อชีวิตหรือร่างกายของตนเองหรือผู้อื่น
ผู้ต้องขังมีพฤติการณ์ที่น่าจะหลบหนีการควบคุม
เมื่อผู้ต้องขังถูกคุมตัวไปนอกเรือนจําและเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีหน้าที่ควบคุมเห็นเป็นการสมควร ที่จะต้องใช้เครื่องพันธนาการ
เมื่ออธิบดีสั่งว่าเป็นการจําเป็นต้องใช้เครื่องพันธนาการ เนื่องจากสภาพของเรือนจําสภาพของท้องถิ่น หรือเหตุ จําเป็นอื่น