ศาลอาญาสั่งกักตัว ฮาคีม ต่ออีก 2 เดือน หลังปฏิเสธการส่งตัวกลับบาห์เรน

ศาลอาญา ขยายระยะเวลาควบคุมตัวของนายฮาคีม อัล อาไรบี นักฟุตบอลชาวบาห์เรน ที่ถูกทางการไทยจับกุม ออกไปอีกจนถึงเดือน เม.ย. หลังจากเขาร้องขอต่อศาลไม่ขอกลับบาห์เรน โดยศาลให้เวลา ยื่นหลักฐานต่อศาลเพื่อคัดค้านการส่งตัวเขาเป็นผู้ร้ายข้ามแดนภายในเวลา 60 วัน

     สำนักข่าวรอยเตอร์รายว่า นายอัล อาไรบี นักฟุตบอลชาวบาห์เรน ที่ได้สถานะผู้ลี้ภัยอยู่ในออสเตรเลีย แต่ถูกทางการไทยควบคุมตัวเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ในระหว่างการท่องเที่ยวกับภรรยา จะต้องถูกควบคุมตัวอีกอย่างน้อยสองเดือน เพื่อเตรียมหลักฐานต่าง ๆ รอการยื่นคัดค้านภายในวันที่ 5 เม.ย. นี้ และมีนัดตรวจหลักฐานในวันที่ 22 เม.ย.

        ทั้งนี้ เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่า ในวันนี้ศาลจึงมีคำสั่งให้นายอัล อาไรบี ในฐานะจำเลยยื่นคำคัดค้านคำร้องอัยการต่อศาลภายใน 10 วัน เเต่จำเลยเเถลงว่าไม่สามารถยื่นให้ทันภายใน 10 วัน เนื่องจากต้องใช้เวลาในการขอเอกสารจากต่างประเทศในการสู้คดีหลายประเด็น ซึ่งมีทั้งประเด็นการเมืองเเละศาสนา และศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์เเห่งความเป็นธรรมจึงให้ยื่นคำคัดค้านภายในวันที่ 5 เม.ย. นี้ เเละนัดตรวจหลักฐาน ต่อไปในวันที่ 22 เม.ย. นี้

นางณัฐาศิริ เบิร์กแมน ทนายความชาวไทยของนักฟุตบอลรายนี้ จะขอยื่นหลักฐานต่อศาลเพื่อคัดค้านการส่งตัวเขาเป็นผู้ร้ายข้ามแดนภายในเวลา 60 วัน หลังจากนั้น ศาลก็จะรับคำคัดค้านไว้ไต่สวน

    การปรากฎตัวต่อศาลในวันนี้ของนายอัล อาไรบี เป็นผลมาจากสำนักงานอัยการของไทยได้ยื่นเรื่องต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมาเพื่อให้ส่งตัวนายอัล อาไรบี เป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามการร้องขอของบาห์เรน ซึ่งเป็นประเทศที่เขาได้หนีออกมาท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมือง และเขาได้สถานะผู้ลี้ภัยในออสเตรเลีย

ในระหว่างเจ้าหน้าที่นำตัวนายฮาคีม อัล อาไรบี เข้ามายังห้องพิจารณาคดี ภายในศาลอาญารัชดา เขาปรากฏตัวพร้อมโซ่ตรวนที่ข้อเท้า พร้อมกับตะโกนออกมาบอกว่า "อย่าส่งตัวผมกลับบาห์เรน" ท่ามกลางความสนใจของผู้แทนจากนานาชาติ เช่น ผู้แทนจากสถานทูตต่างประเทศ 14 แห่ง อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และออสเตรเลีย ร่วมสังเกตการณ์

ตำหนิทางการไทยบังคับผู้ลี้ภัยใส่โซ่ตรวน

การปรากฏตัวของนักฟุตบอลรายนี้ด้วยการใส่โซ่ตรวนที่ข้อเท้าได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน รวมทั้งสังคมที่ต่างวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความไม่เหมาะสม เช่นเดียวกันกับสมาพันธ์นานาชาติเพื่อสิทธิมนุษยชนที่ออกมาเรียกร้องให้ยุติการกระทำดังกล่าว

นายแอนเดรีย จอร์เจ็ตต้า ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย สมาพันธ์นานาชาติเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวกับบีบีซีไทยว่า ไม่มีเหตุผลอันสมควรที่ผู้ถูกคุมขังจะต้องถูกทำให้อับอายต่อหน้าสาธารณะชนด้วยการใส่โซ่ตรวน

"ประเทศไทยถูกตำหนิอย่างต่อเนื่องจากองค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติเกี่ยวกับการกระทำที่โบราณแบบนี้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวต้องหยุดทันที" เขากล่าวออสเตรเลียระบุ

บาห์เรนไม่เคยแจ้งว่าต้องการตัวนายอัล อาไรบี

เวลาต่อมา สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ในช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลบาห์เรนไม่เคยแสดงความพยายามหรือแจ้งรัฐบาลออสเตรเลียแม้แต่ครั้งเดียว ถึงกรณีนายอัล อาไรบี หรือต้องการตัวเขา กลับประเทศและการกระทำของรัฐบาลบาห์เรนครั้งนี้จะทำให้ประเทศไทยอยู่ในสถานะลำบากมาก

นอกจากนี้ ยังกลายเป็นกระแสทางสื่อสังคมออนไลน์อีกด้วย จนทำให้ #SaveHakeem กลายเป็นแฮชแทกอันดับหนึ่งของไทย

แอมเนสตี้ฯ เรียกร้องให้ยุติกระบวนการใด ๆ ทั้งหมดทันที

นางแคทเธอรีน เกอร์สัน นักรณรงค์ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยกล่าวว่า "ทางการไทยควรยุติกระบวนการใด ๆ ที่เป็นผลมาจากคำขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากเป็นที่ประจักษ์กันดีว่า อัล อาไรบี เป็นเหยื่อที่รอดชีวิตจากการทรมานในบาห์เรน และครอบครัวของเขายังถูกประหัตประหารต่อไปที่นั่น นอกจากนั้นเขาและภรรยาก็ยังได้รับที่พักพิงในออสเตรเลีย เขาไม่ควรถูกกักตัวแม้แต่อีกเพียงวันเดียวก็ตาม และควรได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านที่เมลเบิร์นทันที

ฮาคีม อัล อาไรบี นักเตะเชื้อสายบาห์เรนที่ถูกไทยควบคุมตัวคือใคร?
เธอยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยควรตระหนักว่า แรงจูงใจเพียงอย่างเดียวของบาห์เรนคือการจับตัวเขามาลงโทษอีก จากการที่เขาออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองอย่างสงบ และหากถูกส่งตัวกลับไปบาห์เรน ก็มีความเสี่ยงอย่างมากที่เขาจะถูกคุมขังอย่างไม่เป็นธรรม ถูกทรมานและปฏิบัติอย่างโหดร้าย

ทั้งนี้เธอระบุว่า ตำรวจสากล หรือ Interpol ทำถูกต้องแล้วที่ได้ยกเลิก "หมายแดง" เพื่อจับตัวนักฟุตบอลรายดังกล่าว เนื่องจากเป็นการออกหมายที่ขัดกับนโยบายคุ้มครองผู้ลี้ภัยของหน่วยงาน

เหมือนหรือต่างจากกรณีสาวซาอุฯ
นักรณรงค์ของแอมเนสตี้ ฯ รายนี้เสนอแนะว่า ทางการมีโอกาสอีกครั้งที่จะแสดงเจตจำนงเพื่อคุ้มครองผู้ลี้ภัย โดยการปล่อยตัวนายอัล อาไรบี และไม่ปฏิบัติตามคำขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนของบาห์เรน เธอเห็นว่า คำร้องขอของทางการบาห์เรน เป็นการละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ในประเด็นนี้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เคยทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านว่า ศาลจะตัดสินว่า ฮาคีมควรถูกส่งตัวกลับไปที่บาห์เรนหรือออสเตรเลีย คดีของเขาต่างจากของราฮาฟ แอล-เคนูน ผู้หญิงซาอุฯ เพราะเธอไม่ถูกออกหมายใด ๆ

ต่อมาเขาได้โพสต์ข้อความทวิตเตอร์เพิ่มเติมว่า นายอัล อาไรบีถูกควบคุมตัวไว้เพราะมีหมายจับจากทั้งทางองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือ อินเตอร์โพล และรัฐบาลบาห์เรน เขามีสิทธิ์ที่จะต่อสู้คดี อย่างเป็นธรรมในศาลไทย บนพื้นฐานของสถานะผู้ลี้ภัยของเขา ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะตัดสินคดีของเขาอย่างไร ไม่ใช่อำนาจของทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะตัดสินใจ

ลำดับเหตุการณ์

• 27 พ.ย. 2018 -ฮาคีม ถูกจับตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมกับภรรยา ขณะเดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวฉลองการแต่งงาน
• 11 ธ.ค. 2018 - พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขออนุญาตขัง ฮาคีม เป็นเวลา 60 วัน
• 18 ม.ค. 2019 - รัฐบาลบาห์เรน ได้มีหนังสือพร้อมเอกสารหลักฐาน ส่งถึงอัยการสูงสุดของไทย ให้ส่งตัวฮาคีมเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปรับโทษตามคำพิพากษาที่ประเทศบาห์เรน
• 1 ก.พ. 2019 - พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ ยื่นคำร้องต่อศาลขอส่งตัวฮาคีมเป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศบาห์เรน

นายอัล อาไรบี (ขวา) จับมือกับซัลมาน บิน อิบรอฮิม อัลเคาะลีฟะฮ์ ซึ่งเป็นประธานสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียคนปัจจุบันและรองประธานฟีฟ่า และเป็นพระภาดา (ลูกพี่ลูกน้อง) ของกษัตริย์องค์ปัจจุบันของบาห์เรน

----
บาห์เรนคือเพื่อนสนิทของไทย

ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกกับบีบีซีไทยเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ว่า ไม่สามารถคาดการณ์ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าวในขณะนี้ แต่สามารถอธิบายให้ฟังว่า บาห์เรนถือว่าเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์พิเศษในทุกระดับนับตั้งแต่ระดับราชวงศ์ รัฐบาล รวมไปจนถึงการค้าและการลงทุน ในอ่าวเปอร์เซีย นับตั้งแต่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบียไม่ค่อยราบรื่นนักที่ผ่านมา ดังนั้นบาห์เรนจึงกลายเป็นประตูการค้า การทูตและการลงทุนของไทยในภูมิภาคดังกล่าว

"โดยทั่วไป ชาวบาห์เรนชื่นชอบประเทศไทยอยู่แล้ว ในขณะที่บนเวทีนานาชาติ บาห์เรนก็ได้แสดงออกถึงความเป็นเพื่อนที่ใกล้ชิด เช่น การปกป้องหรือชี้แจงให้กับไทยในกรณี 3 ชายแดนภาคใต้ บนเวทีองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี)" นักวิชาการรายนี้กล่าว

ดร.สราวุธ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
----
สิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นที่ชื่นชอบของชาวบาห์เรนก็คือ สมาชิกราชวงศ์ของบาห์เรนเสด็จเยือนประเทศไทยปีละหลายครั้ง

ในประเด็นนี้ นายฐานิศร์ ณ สงขลา เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมานามา ให้สัมภาษณ์เว็บไทยรัฐ ในเดือน พ.ค. ปีที่แล้วว่า เจ้าชายเคาะลีฟะฮ์ บิน ซัลมาน อัล เคาะลีฟะฮ์ นายกรัฐมนตรีบาห์เรน ทรงโปรดปรานประเทศไทยอย่างมาก เสด็จประเทศไทยทั้งในแบบส่วนพระองค์และเป็นทางการอยู่บ่อยครั้ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้า เจ้าชายเคาะลีฟะฮ์ บิน ซัลมาน อัล เคาะลีฟะฮ์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2560

--

"หากถามว่า ทำไมนายกรัฐมนตรีบาห์เรนถึงทรงชื่นชอบประเทศไทยอย่างมาก คำตอบก็คือ ท่านชื่นชอบในอัธยาศัยไมตรีของคนไทย คนไทยมีความยิ้มแย้ม ถ้อยทีถ้อยอาศัย ซึ่งจุดนี้เป็นนิสัยของคนไทยโดยทั่วไปที่ทำให้ชาวต่างชาติตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัว" เอกอัครราชทูตไทยอธิบาย

ไทยและบาห์เรนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2520 (ค.ศ. 1977) โดยเริ่มต้นรัฐบาลไทยได้ตั้งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย เพื่อดูแลกิจการในบาห์เรน ต่อมาในปี 2532 กิจการใด ๆ เกี่ยวกับบาห์เรนถูกย้ายไปอยู่ใต้เขตอาณาของสถานเอกอัครราชทูตไทยในคูเวต ก่อนที่จะไทยได้เปิดสถานเอกอัครราชทูตในกรุงมานามา ประเทศบาห์เรนขึ้น เมื่อเดือน พ.ย. 2546 เท่าที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมีความขัดแย้งกันในทางการเมืองกับบาห์เรน

>>>>>>
เครดิตแหล่งข่าว : bbc.com/thai