กำนันจ๊อบ โต้ลั่น “ผมไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล” แจงนาทีเมียท้องถ่ายรูปคู่ เอม ตามใจตุ๊ด

กำนันจ๊อบ โต้ลั่น"ผมไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล" / จากกรณี รายการ ตามใจตุ๊ด ประกาศยุติการถ่ายทำและยกเลิกการออกอากาศ รายการตอนที่ 14 จ.นครปฐม โดยไม่ขอลงรายละเอียดว่าทำไมถึงยุติและยกเลิก แต่ระบุว่า

 "#ตามใจตุ๊ด Ep.14 ที่ถ่ายนครปฐม ขอยุติการถ่ายทำ ไม่มีการออนแอร์นะคะ และขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดนะคะ ขอบคุณพี่ ๆ น้อง ๆ บางส่วนที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีนะคะ #รักมาก ๆ ค่ะ ....เอม ตามใจตุ๊ด"

ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา โดยมีชาวเน็ตหลายคน อ้างว่ารู้ความจริง มาโพสต์สาเหตุถึงการยกเลิก เช่นว่า ทางทีมงานมีปัญหากับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทำให้ต้องเลิกถ่ายทำ คือ เอม ปัดมือไปโดนท้องของภรรยาผู้มีอิทธิพลที่ตั้งครรภ์ ทำให้เกิดเรื่องขึ้น

 เอม ตามใจตุ๊ด ได้ออกมาคอมเมนต์ในโพสต์ที่มีคนอ้างว่ารู้ความจริง เรื่องทะเลาะกับผู้มีอิทธิพลนครปฐม ว่า

"ไม่ใช่ค่ะ มั่วนะคะ" และ "ไม่รู้ข่าวอะไร ไม่โยง ไม่นึกเองนะคะ ประเภท เค้าบอกมาว่า... เออ ได้ยินมาว่า... ไรงี้ ไม่ต้องทำให้เป็นประเด็นนะคะ ไหว้ละค่ะ"

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเย็นวันที่ 22 ม.ค. นายไมตรี เนียะแก้ว หรือ กำนันจ๊อบ กำนันคนดังนครปฐม เปิดใจกับ ข่าวสดออนไลน์ ว่า เมื่อช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 19 ม.ค.62 ที่ผ่านมา ตนกับเพื่อนอีก 9 คน ได้นัดทานข้าวกันที่ร้านดังกล่าว โดยตนได้พาภรรยา ซึ่งท้อง 9 เดือนไปด้วยจริง เพราะอยากให้มา ไม่อยากให้อยู่บ้านคนเดียว อีกทั้งเป็นน้องคนสนิทตั้งใจมาหา จึงอยากให้มานั่งเป็นเพื่อนกัน จึงชวนออกมาด้วย คิดว่านั่งแค่สักพักก็กลับ

จนกระทั่งเมื่อเข้าไปในที่สถานบันเทิง ได้พบเห็น เอม ตามใจตุ๊ด พิธีกรชื่อดัง จากนั้น ตนและภรรยา ซึ่งจำได้จึงเข้าไปทักทายและบอกว่าเป็นแฟนคลับ ชื่นชอบมาก ติดตามผลงานอยู่ และทั้งนี้ได้นั่งคุยกัน จากนั้นได้ขอถ่ายรูป ก่อนเอมจะบอกว่า ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวจะออกมาถ่ายรูปกันหลังจากที่เอมเข้าห้องน้ำเสร็จก็ได้ออกมาถ่ายรูปกับครอบครัวของตนเรียบร้อย ขณะเดียวกันมีพนักงานได้เข้ามาบอกว่า นอกร้านกำลังมีเรื่อง เมื่อตนทราบจึงได้รีบออกไปทันที เพราะไม่อยากให้มีเรื่องกัน เมื่อออกไปถึงหน้าร้านเห็นว่ามีคนขับรถ และเด็กวัยรุ่นที่มากับตน กำลังทะเลาะกันอยู่ จึงได้เข้าห้ามปรามทันที โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าทะเลาะกันเรื่องอะไรกัน

ตนยังพูดออกไปว่าเลยว่า เฮ้ย ทะเลาะอะไรกัน ให้เกียรติกันบ้าง แล้วอีกอย่างคนที่เจ้าของร้านก็เป็นคนที่รู้จักและเคารพกันจึงช่วยกันห้ามปราม จนได้แยกย้ายกันไปและไม่ติดใจเอาความ ทางกลุ่มของเอมก็ได้เดินทางกลับ ตนยังบอกไปเลยว่า มาเที่ยวได้นะ ไม่ต้องกลัว สบายใจได้นะ ที่นี่ไม่มีนักเลง มาเที่ยวได้อย่างสบายใจ

ขอบอกตามตรงว่าไม่รู้จริงๆ บอกอย่างลูกผู้ชายเลยว่า ไม่รู้เรื่องและมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เลย ตัวเองเข้าไปห้ามแต่ยังไม่รู้เลยว่าเขามีเรื่องอะไรกัน จนกระทั่งมีข่าวออกมา แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เพราะ เด็กในโต๊ะของเรา 1 คน ได้ออกไปมีเรื่องกับคนขับรถของเอม ซึ่งหลังจากที่ข่าวนี้ได้เผยแพร่ลงโซเชี่ยลทำให้ตนและครอบครัวซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้อง ได้รับผลกระทบเป็นอย่างยิ่ง จากกระแสโซเชี่ยล ใครจะรับผิดชอบ

"เรื่องก็ไม่ไปถึงตำรวจ ไม่มีการแจ้งความอะไรเลย จนกระทั่งมาเป็นข่าวในโซเชี่ยล เขียนกันไปว่ามีเรื่องกับผู้มีอิทธิพล ทำให้ผมเสียหายไปด้วย ทั้งที่ไม่ได้มีการข่มขู่อะไร เป็นเรื่องคนขับรถทะเลาะกันเอง" กำนันจ๊อบกล่าว