เหยื่อโผล่เรื่อยๆถูกแอบถอนเงินจากบัญชีกรุงไทยเพิ่มนับสิบรายละหลายแสน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม เหยื่อโผล่เรื่อยๆถูกแอบถอนเงินจากบัญชีกรุงไทยเพิ่มนับสิบรายละหลายแสน
เหยื่อเงินในบัญชีหายทยอยแสดงตัวแจ้งความ ธนาคารเร่งนำเงินคืนพร้อมดอกเบี้ย บางรายไม่ติดใจยอมจบเรื่อง ขณะที่มีรายงานพบเป็นการทุจริตของพนักงานรายเดียวกันมีผู้เสียหายมากกว่า 10 รายความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท
จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "กุนฑล ลิมป์ชยานันต์" โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าเงินในบัญชีของมารดาซึ่งฝากไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน เงินหายจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว 290,000 บาท ทั้งที่สมุดบัญชียังอยู่กับตัวที่ย้ายไปอยู่ที่ฉะเชิงเทราได้เกือบครึ่งปี และบัญชีนี้ไม่มีการทำบัตร ATM
ต่อมาผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาปาย ให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันว่าเงินลูกค้ายังอยู่ไม่หายไปไหน แต่ที่ไม่ปรากฏในบัญชีขอเวลาให้ธนาคารตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน และเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ได้มีการโอนเงินพร้อมดอกเบี้ยคืนให้แล้ว โดยมีรายงานข่าวว่า เกิดจากการทุจริตของพนักงานและมีเหยื่ออีกหลายราย
วันที่ 9 ม.ค. นางสม โอ๊ะเรือนแก้ว ชาวอำเภอปาย ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ถูกถอนเงินออกจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว เปิดเผยว่า
เมื่อทราบข่าว ได้นำสมุดบัญชีไปปรับยอดเงิน พบว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 61 เงินในบัญชีได้ถูกถอนไปจำนวน 300,000 บาท ซึ่งเมื่อไปปรับสมุดบัญชี ทางธนาคารได้รีบนำเงินเข้าบัญชีให้ตามเดิมพร้อมทั้งดอกเบี้ย เมื่อได้เงินคืนแล้วก็ดีใจ ส่วนทางธนาคารจะเอาผิดอย่างไรกับผู้กระทำผิดซึ่งตนเองก็รู้จักมีศักดิ์เป็นหลาน ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่
ด้านนางกนกพร บุญถนอม ชาวอำเภอปายเช่นกัน เปิดเผยต่อสื่อด้วยเสียงสะอึกสะอื้น ว่า
เมื่อทราบข่าว การลอบถอนเงินออกจากบัญชี จึงได้รีบนำสมุดไปปรับที่ธนาคารเมื่อตอนบ่ายวันที่ 8 ม.ค. พบว่าไม่สามารถปรับสมุดได้และทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้บอกว่า จะชดใช้เงินคืนให้แต่ต้องขอเวลาสักระยะหนึ่ง แต่ไม่ระบุว่าจะชดใช้เมื่อไหร่โดยนัดเจรจากับผู้จัดการธนาคารกรุงไทยในวันนี้ ( 9 ม.ค.)
นางกนกพร กล่าวต่อไปว่า เงินที่ตนมีอยู่ เป็นเงินที่เก็บหอมรอบริบมาทั้งชีวิตกว่าจะได้แต่ละบาทต้องลำบากอย่างหนัก และต้องการเก็บเงินเพื่อส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งปีนี้กำลังขึ้นปี 1 ซึ่งที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอและตนกำลังจะทำเรื่องกู้ กับ กยศ.เพื่อส่งลูกเรียน เมื่อมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ทำให้เสียใจมาก สำหรับเงินในบัญชีถูกยักยอกไปเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 61 เป็นเงิน 352,000 บาท
จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "กุนฑล ลิมป์ชยานันต์" โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าเงินในบัญชีของมารดาซึ่งฝากไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน เงินหายจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว 290,000 บาท ทั้งที่สมุดบัญชียังอยู่กับตัวที่ย้ายไปอยู่ที่ฉะเชิงเทราได้เกือบครึ่งปี และบัญชีนี้ไม่มีการทำบัตร ATM
ต่อมาผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาปาย ให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันว่าเงินลูกค้ายังอยู่ไม่หายไปไหน แต่ที่ไม่ปรากฏในบัญชีขอเวลาให้ธนาคารตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน และเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ได้มีการโอนเงินพร้อมดอกเบี้ยคืนให้แล้ว โดยมีรายงานข่าวว่า เกิดจากการทุจริตของพนักงานและมีเหยื่ออีกหลายราย
วันที่ 9 ม.ค. นางสม โอ๊ะเรือนแก้ว ชาวอำเภอปาย ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ถูกถอนเงินออกจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว เปิดเผยว่า
เมื่อทราบข่าว ได้นำสมุดบัญชีไปปรับยอดเงิน พบว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 61 เงินในบัญชีได้ถูกถอนไปจำนวน 300,000 บาท ซึ่งเมื่อไปปรับสมุดบัญชี ทางธนาคารได้รีบนำเงินเข้าบัญชีให้ตามเดิมพร้อมทั้งดอกเบี้ย เมื่อได้เงินคืนแล้วก็ดีใจ ส่วนทางธนาคารจะเอาผิดอย่างไรกับผู้กระทำผิดซึ่งตนเองก็รู้จักมีศักดิ์เป็นหลาน ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่
ด้านนางกนกพร บุญถนอม ชาวอำเภอปายเช่นกัน เปิดเผยต่อสื่อด้วยเสียงสะอึกสะอื้น ว่า
เมื่อทราบข่าว การลอบถอนเงินออกจากบัญชี จึงได้รีบนำสมุดไปปรับที่ธนาคารเมื่อตอนบ่ายวันที่ 8 ม.ค. พบว่าไม่สามารถปรับสมุดได้และทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้บอกว่า จะชดใช้เงินคืนให้แต่ต้องขอเวลาสักระยะหนึ่ง แต่ไม่ระบุว่าจะชดใช้เมื่อไหร่โดยนัดเจรจากับผู้จัดการธนาคารกรุงไทยในวันนี้ ( 9 ม.ค.)
นางกนกพร กล่าวต่อไปว่า เงินที่ตนมีอยู่ เป็นเงินที่เก็บหอมรอบริบมาทั้งชีวิตกว่าจะได้แต่ละบาทต้องลำบากอย่างหนัก และต้องการเก็บเงินเพื่อส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งปีนี้กำลังขึ้นปี 1 ซึ่งที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอและตนกำลังจะทำเรื่องกู้ กับ กยศ.เพื่อส่งลูกเรียน เมื่อมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ทำให้เสียใจมาก สำหรับเงินในบัญชีถูกยักยอกไปเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 61 เป็นเงิน 352,000 บาท
เมื่อวานนี้ นายพงษ์ศักดิ์ จ่าเหว่ ชาวบ้านเมืองน้อย ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เดินทางไปยัง สภ.ปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย สาขาปาย กรณีมีการยักยอกถอนเงินออกจากบัญชีของลูกค้า จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปาย ได้นำนายพงษ์ศักดิ์ ไปที่ธนาคารเพื่อนำสมุดไปปรับยอดเงินบัญชี และนำเงินเข้าบัญชีทดแทนที่ถูกยักยอกไปรวมทั้งดอกเบี้ย ซึ่งทำให้นายพงษ์ศักดิ์ พอใจและไม่ติดใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ระหว่างดำเนินการ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนทำข่าวหรือถ่ายภาพแต่อย่างใด
ทั้งนี้มีรายงานว่า ธนาคารตรวจสอบพบว่ามีลูกค้าเสียหายจากการกระทำของพนักงานรายเดียวกันรวม 14 ราย ซึ่งธนาคารได้สั่งให้พนักงานหยุดปฏิบัติงานและดำเนินการลงโทษตามระเบียบ รวมทั้งจะดูแลลูกค้าที่ได้รับความเสียหายทุกราย โดยนำเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าบัญชีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้มีรายงานว่า ธนาคารตรวจสอบพบว่ามีลูกค้าเสียหายจากการกระทำของพนักงานรายเดียวกันรวม 14 ราย ซึ่งธนาคารได้สั่งให้พนักงานหยุดปฏิบัติงานและดำเนินการลงโทษตามระเบียบ รวมทั้งจะดูแลลูกค้าที่ได้รับความเสียหายทุกราย โดยนำเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าบัญชีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น