หนุ่มเปิดใจ รอดถูกฆ่ายกครัวเพราะแกล้งตาย ชี้ปม มือสังหารเครียด ญาติเมียไม่ยอมรับ (คลิป)

เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 62 พ.ต.ท.ลาภ คำพันธ์ สว.(สอบสวน) สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุยิงกันตายหลายศพที่ห้องแถวชั้นเดียวขนาดสองคูหาที่ หมู่ที่ 8 ตำบลพะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร โดยด้านหน้าของห้องแถวเปิดเป็นร้านเสริมสวย และบริเวณที่เกิดเหตุมีขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหาร กระจัดกระจายไปทั่ว

เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตจำนวน 7 ราย ทั้งหมดเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน โดยในจำนวนนี้มี เด็กวัย 6 ขวบ และ 9 ขวบรวมอยู่ด้วย ทุกศพถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม.

นอกจากนี้พบ นายทินกร อ่อนมุกข์ อายุ 33 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่หน้าท้องทะลุสีข้างด้านขวา นอนร้องขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปทำแผลที่โรงพยาบาลพะโต๊ะ

โดย นายทินกร ให้การว่า คืนเกิดเหตุ (31 ธ.ค. 61) ขณะกำลังนั่งดื่มกินสังสรรค์ปีใหม่กับครอบครัวที่หน้าบ้าน ปรากฏว่า นายสุชีพ ศรสังข์ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นพี่เขยของตน กลับมาบ้านด้วยอาการเมาสุราพร้อมส่งเสียงโวยวายว่า "ผมอยู่ที่นี่ไม่เคยมีความดี ทั้งที่ช่วยเหลือมาทุกอย่าง เอาอย่างนี้ดีกว่าเคลียร์กันเลย" และชักปืนยิงใส่ นายวิจิตร นาคลอด ลูกเขยคนโตของครอบครัวเสียชีวิต แล้วจึงหันมายิงตนเองจนล้มลง แต่ขณะนั้นตนแกล้งตายจึงรอดชีวิตมาได้

จากนั้นนายสุชีพจึงเดินไปจ่อยิง แม่ และพี่สาวอีก 2 คนของตน ก่อนเดินเข้าไปในห้องแล้วยิง ด.ช.กษิเดช และ ด.ญ.วัย 6 ขวบ ทั้งที่ ด.ช.วัย 9 ขวบ เป็นลูกของนายสุชีพ ผู้ก่อเหตุ สุดท้ายนายสุชีพจึงยิงตัวเองตาม ในส่วนของภรรยาผู้ตายทราบว่า ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดไม่ได้กลับมาร่วมงานสังสรรค์ จึงรอดจากเหตุสลดครั้งนี้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ นายสุชีพ เคยถูกจับคดียักยอกทรัพย์และคดีพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ จ.นครศรีธรรมราช นอกจากนั้นยังมีประวัติพัวพันเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 60 และมาอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ส่วนภรรยาของนายสุชีพหนีไปทำงานที่กรุงเทพฯ ทำให้นายสุชีพโกรธแค้นและมีเรื่องระหองระแหงกับครอบครัวฝ่ายภรรยามาตลอด แต่ก็ไม่ยอมย้ายออกไปอยู่ที่อื่น

ล่าสุด นายทินกร ผู้รอดชีวิต เดินทางรับศพผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ศพ นำไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนา ที่วัดปะติมะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาญาติและเพื่อนบ้าน ขณะที่ศพของนายสุชีพ ผู้ก่อเหตุ ยังคงถูกเก็บไว้ที่โรงเย็นของ รพ.พะโต๊ะ เพื่อรอญาติจากจังหวัดนครศรีธรรมราช มารับไปทำพิธีทางศาสนา และศพของนายวิจิตร นาคลอด ซึ่งเป็นลูกเขยคนโตของบ้าน มีนางสมจิต นาคลอด พี่สาว และญาติ ๆ ได้เดินทางมารับศพ เพื่อนำไปทำพิธีทางศาสนา ณ วัดน้ำผุด อ.เมืองชุมพร

โดย ญาติของนายวิจิตร บอกว่า ที่ผ่านมาตนรู้จักกับนายสุชีพ เพียงผิวเผิน ไม่สนิทมาก แต่พอสังเกตได้ว่านายสุชีพ เป็นคนนิสัยดี สุภาพอ่อนน้อม เพราะเห็นจากการช่วยงานศพญาติด้วยกัน ซึ่งนายสุชีพจะไม่ดูดาย ยกมือไหว้ทุกคนในลักษณะให้เกียรติคน ตนจึงคิดว่าจะมาก่อเหตุได้ถึงขนาดนี้ และฆ่าได้กระทั่งลูกของตัวเอง ที่มีอายุเพียง 6 ขวบ และ 9 ขวบ ซึ่งยังเป็นเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไร

ด้าน นางสมจิต นาคลอด พี่สาวของนายวิจิตร บอกว่า นายสุชีพ คนก่อเหตุ อาจถูกครอบครัวของภรรยากดดัน เพราะนายสุชีพ เคยต้องคดีและติดคุกมาก่อน และหลังพ้นคดีมา อาจทำให้ทางครอบครัวของภรรยาไม่ค่อยชอบ จึงเกิดความเครียด และยังมาถูกต่อว่า จนบันดาลโทสะ ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ยินมาว่า นายสุชีพ ถูกแม่ยายต่อว่าต่อหน้าคนในบ้าน จึงอาจทำให้อายและคับแค้นใจ จึงขับรถยนต์ออกจากบ้านไปนั่งดื่มเบียร์คนเดียวถึง 4 ขวด แล้วจึงขับรถกลับมาแล้วก่อเหตุดังกล่าว