รพ.เอกชนอีกแล้ว! รอเช็กสิทธิรักษาสาว ‘แพ้กุ้ง’ ก่อนดับห้องฉุกเฉิน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม รพ.เอกชนอีกแล้ว! รอเช็กสิทธิรักษาสาว ‘แพ้กุ้ง’ ก่อนดับห้องฉุกเฉิน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 พ.ย. นางบุญยืน จันทร์เจิม อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/1 ม.7 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า กรณีที่ น.ส.วิภาพร จันทร์เจิม หรือ ปูเป้ อายุ 25 ปี ลูกสาว ได้เสียชีวิตหลังจากที่กินกุ้งเต้นและมีอาการแพ้ปากบวม ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยแพทย์ได้ฉีดยาเข้าไป 3 เข็ม ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นางบุญยืม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวได้ซื้อกุ้งเต้นที่ตลาดสะพานขาว เมื่อกินเข้าไปลูกของตนก็มีอาการแพ้และอาเจียน ซึ่งน้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันได้ให้กินยาแก้แพ้เข้าไป ทำให้อาการแพ้ลดลง จนถึงช่วงเช้าลูกยังมีอาการปากบวมอยู่ ตนจึงให้ลูกไปหาหมอเพื่อจะฉีดยา เพราะมีประกันสังคมอยู่ โดยลูกขับรถจักรยานยนต์ไปกับหลานสาว และตนก็ไปเป็นเพื่อนที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านรังสิตเวลาประมาณ 10.30 น.
นางบุญยืม กล่าวต่อว่า แพทย์ได้ทำการวัดความดันพร้อมกับนำเข้าห้องตรวจเพื่อฉีดยา โดยแพทย์แจ้งว่าคนไข้ได้รับการฉีดยาและต้องนอนรอดูอาการ จึงให้ตนไปจองห้อง เมื่อเสร็จจากเรื่องดังกล่าว ตนกลับมานั่งรอหน้าห้องที่ลูกพักรอดูอาการ กระทั่งเวลาผ่านไปครู่ใหญ่เห็นว่าลูกยังไม่ออกมา จึงได้เปิดประตูเข้าไปดูก็เห็นลูกนอนเล่นโทรศัพท์มือถือ แต่ยังไม่ได้ฉีดยา
นางบุญยืม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวได้ซื้อกุ้งเต้นที่ตลาดสะพานขาว เมื่อกินเข้าไปลูกของตนก็มีอาการแพ้และอาเจียน ซึ่งน้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันได้ให้กินยาแก้แพ้เข้าไป ทำให้อาการแพ้ลดลง จนถึงช่วงเช้าลูกยังมีอาการปากบวมอยู่ ตนจึงให้ลูกไปหาหมอเพื่อจะฉีดยา เพราะมีประกันสังคมอยู่ โดยลูกขับรถจักรยานยนต์ไปกับหลานสาว และตนก็ไปเป็นเพื่อนที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านรังสิตเวลาประมาณ 10.30 น.
นางบุญยืม กล่าวต่อว่า แพทย์ได้ทำการวัดความดันพร้อมกับนำเข้าห้องตรวจเพื่อฉีดยา โดยแพทย์แจ้งว่าคนไข้ได้รับการฉีดยาและต้องนอนรอดูอาการ จึงให้ตนไปจองห้อง เมื่อเสร็จจากเรื่องดังกล่าว ตนกลับมานั่งรอหน้าห้องที่ลูกพักรอดูอาการ กระทั่งเวลาผ่านไปครู่ใหญ่เห็นว่าลูกยังไม่ออกมา จึงได้เปิดประตูเข้าไปดูก็เห็นลูกนอนเล่นโทรศัพท์มือถือ แต่ยังไม่ได้ฉีดยา
นางบุญยืม กล่าวอีกว่า ต่อมาแพทย์ได้บอกกลับมาว่า จากการเช็กสิทธิประกันสังคม พบว่าผู้ป่วยไม่ได้มีสิทธิการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และแม่จะสามารถสำรองจ่ายค่ารักษาได้หรือไม่ ซึ่งตนตอบไปว่าตกลงสำรองจ่ายก่อน แพทย์จึงบอกให้ตนออกมารอด้านนอก หลังจากนั้น 3-5 นาที แพทย์และพยาบาลได้ไปเข็นเครื่องช่วยหายใจมา ตนก็ไม่คิดว่าจะเข็นเครื่องมือมาให้ลูกสาวเพื่อช่วยชีวิต เมื่อตรวจสอบเห็นลูกสาวมีอาการทุรนทุราย ชักดิ้นไปมา ไม่ได้สติ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข็นไปห้องไอซียู ซึ่งตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก
"กระทั่ง แพทย์ได้เรียกแม่ไปคุยและแจ้งว่า ลูกสาวมีภาวะหัวใจโต หัวใจล้มเหลว น้ำท่วมปอด หมอฉีดยาไป 2 เข็ม โดยเข็มที่ 3 คือยากระตุ้นหัวใจ เพราะผู้ป่วยความดันต่ำ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา คือเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 06.30 น. ซึ่งแม่รับไม่ได้ เพราะลูกไม่ได้มีอาการล้มหมอนนอนเสื่อ หรือเจ็บป่วยอย่างหนักถึงขั้นที่คาดว่าจะมาเสียชีวิต" แม่ของผู้ตาย กล่าว
นางบุญยืม กล่าวว่า หลังลูกเสียชีวิตได้ส่งตัวไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยแพทย์ระบุสาเหตุการตายว่า ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจล้มเหลว รอผลทางห้องปฏิบัติการ จากนั้น ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพราะติดใจการเสียชีวิตของลูก ประกอบกับไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กระทรวงสาธารณะสุข สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปทุมธานี แต่ทุกอย่างเงียบสนิท
"หลังจากลูกเสียชีวิตต้องรับภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน เพราะปกติลูกทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว หาเงินมาจุนเจือครอบครัวและเลี้ยงลูกสาววัย 5 ขวบที่กำลังเจริญเติบโต หลานร้องถามหาแม่ทุกวันว่าแม่ไปไหน ทำไมไม่กลับมา จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและผู้ที่มีความรู้ช่วยดำเนินการทำทุกอย่าง" นางบุญยืม กล่าว
"กระทั่ง แพทย์ได้เรียกแม่ไปคุยและแจ้งว่า ลูกสาวมีภาวะหัวใจโต หัวใจล้มเหลว น้ำท่วมปอด หมอฉีดยาไป 2 เข็ม โดยเข็มที่ 3 คือยากระตุ้นหัวใจ เพราะผู้ป่วยความดันต่ำ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา คือเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 06.30 น. ซึ่งแม่รับไม่ได้ เพราะลูกไม่ได้มีอาการล้มหมอนนอนเสื่อ หรือเจ็บป่วยอย่างหนักถึงขั้นที่คาดว่าจะมาเสียชีวิต" แม่ของผู้ตาย กล่าว
นางบุญยืม กล่าวว่า หลังลูกเสียชีวิตได้ส่งตัวไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยแพทย์ระบุสาเหตุการตายว่า ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจล้มเหลว รอผลทางห้องปฏิบัติการ จากนั้น ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพราะติดใจการเสียชีวิตของลูก ประกอบกับไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กระทรวงสาธารณะสุข สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปทุมธานี แต่ทุกอย่างเงียบสนิท
"หลังจากลูกเสียชีวิตต้องรับภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน เพราะปกติลูกทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว หาเงินมาจุนเจือครอบครัวและเลี้ยงลูกสาววัย 5 ขวบที่กำลังเจริญเติบโต หลานร้องถามหาแม่ทุกวันว่าแม่ไปไหน ทำไมไม่กลับมา จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและผู้ที่มีความรู้ช่วยดำเนินการทำทุกอย่าง" นางบุญยืม กล่าว
Cr:::khaosod.co.th
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น