ลอยอังคาร “น้องดา” พ่อหวั่นคดีเงียบ
ตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง รอง สวป.ซิ่งกระบะข้ามเลนชนรถรีเฟอร์ส่งต่อผู้ป่วย ทำให้พยาบาลเสียชีวิต หลังปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ หากพบเมาแล้วขับจะเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญา ส่วนอาการพยาบาลสาวอีกคนยังโคม่ารักษาตัวในห้องไอซียู..
น.ส.จรวยพร ปาประโคน อายุ 40 ปี พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลประโคนชัย ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูโรงพยาบาลบุรีรัมย์ หลังบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุ ร.ต.อ.เดชา เปรียบสม รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม (รอง สวป.) สถานีตำรวจภูธรประโคนชัย ซิ่งรถกระบะเสียหลัก ข้ามเลนพุ่งชนประสานงากับรถรีเฟอร์ส่งต่อผู้ป่วย บนถนนสายบุรีรัมย์ - ประโคนชัย ส่งผลให้ น.ส.สุดารัตน์ เชื่อมาก อายุ 25 ปี พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน (รพ.สต.)เขาคอกเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายราย รวมทั้ง น.ส.จรวยพร เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด แพทย์แจ้งว่า น.ส.จรวยพร มีอาการตอบสนอง รับรู้การสื่อสารได้ แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่นั่งมาในรถพยาบาลคันเกิดเหตุนั้น แพทย์ทำคลอดให้ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก...
ด้าน พ.ต.อ.สุรชัย สังฆพัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า
ขณะนี้ชุดสืบสวนที่ตำรวจภูธรจังหวัดฯ แต่งตั้งขึ้นใหม่เข้าไปสอบสวนคดีดังกล่าว เพื่อความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เนื่องจากคู่กรณีเป็นตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุและยังปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ โดยอ้างว่าบาดเจ็บบริเวณหน้าอก จึงมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง หากผลสรุปพบว่า ขับรถขณะมึนเมาสุราจริง จะถูกเอาผิดทั้งทางวินัยและกฎหมายโดยไม่มีการละเว้น เพราะถือว่าเป็นผู้รักษากฎหมายแต่กลับกระทำผิดเสียเอง
น.ส.จรวยพร ปาประโคน อายุ 40 ปี พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลประโคนชัย ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูโรงพยาบาลบุรีรัมย์ หลังบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุ ร.ต.อ.เดชา เปรียบสม รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม (รอง สวป.) สถานีตำรวจภูธรประโคนชัย ซิ่งรถกระบะเสียหลัก ข้ามเลนพุ่งชนประสานงากับรถรีเฟอร์ส่งต่อผู้ป่วย บนถนนสายบุรีรัมย์ - ประโคนชัย ส่งผลให้ น.ส.สุดารัตน์ เชื่อมาก อายุ 25 ปี พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน (รพ.สต.)เขาคอกเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายราย รวมทั้ง น.ส.จรวยพร เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด แพทย์แจ้งว่า น.ส.จรวยพร มีอาการตอบสนอง รับรู้การสื่อสารได้ แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่นั่งมาในรถพยาบาลคันเกิดเหตุนั้น แพทย์ทำคลอดให้ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก...
ด้าน พ.ต.อ.สุรชัย สังฆพัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า
ขณะนี้ชุดสืบสวนที่ตำรวจภูธรจังหวัดฯ แต่งตั้งขึ้นใหม่เข้าไปสอบสวนคดีดังกล่าว เพื่อความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เนื่องจากคู่กรณีเป็นตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุและยังปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ โดยอ้างว่าบาดเจ็บบริเวณหน้าอก จึงมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง หากผลสรุปพบว่า ขับรถขณะมึนเมาสุราจริง จะถูกเอาผิดทั้งทางวินัยและกฎหมายโดยไม่มีการละเว้น เพราะถือว่าเป็นผู้รักษากฎหมายแต่กลับกระทำผิดเสียเอง
ขณะที่ นายเจีย เชื่อมาก บิดาของ "น้องดา" พร้อมด้วยนางฉวีวรรณ แสวงตน พี่สาว ญาติพี่น้อง และเพื่อนร่วมวิชาชีพ ได้นำเถ้ากระดูกของ น.ส.สุดารัตน์ หรือน้องดา ไปลอยอังคารที่แม่น้ำมูล อ.สตึก โดยได้มีการประกอบพิธีที่บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อวังกรูด ก่อนจะลงเรือไปประกอบพิธีลอยอังคารกลางแม่น้ำมูล ตามความเชื่อเพื่อส่งดวงวิญญาณของน้องดา ไปสู่สุขคติ ซึ่งครอบครัว และเพื่อนร่วมวิชาชีพที่มาร่วมพิธีลอยอังคาร ต่างขอให้น้องดา ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี ขอให้บุญกุศลและคุณงามความดีที่น้องทำ ดลบันดาลให้ดวงวิญญาณไปสู่สรวงสวรรค์ด้วย
นายเจีย พ่อน้องดา บอกว่า จนถึงขณะนี้ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักไป เพราะลูกจากไปแบบกะทันหันไม่ทันได้ร่ำลา และสิ่งที่ครอบครัวยังกังวลมากที่สุดตอนนี้คือเรื่องคดี จึงอยากให้ทางผู้ใหญ่ได้ช่วยเหลือติดตามเรื่องคดีให้ครอบครัวและลูกสาวได้รับความเป็นธรรมด้วย เพราะเกรงเรื่องจะเงียบหายไป ส่วนที่ ร.ต.อ.เดชา คู่กรณีมากราบขอขมาศพที่บ้านเมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) ก่อนที่จะเคลื่อนศพน้องไปฌาปนกิจนั้น ก็แค่มายกมือไหว้ตนและบอกว่า "ขอโทษ" คำเดียวเท่านั้น ไม่ได้พูดคุยเรื่องการแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด
ด้านนางฉวีวรรณ แสวงตน พี่สาว บอกว่า ถึงแม้ครอบครัวจะเริ่มทำใจได้บ้างกับการสูญเสียของน้อง แต่ก็ยังกังวลเรื่องคดีที่เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควร เพราะจนถึงขณะนี้คู่กรณีก็ยังไม่เห็นมาพูดคุยหรือแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย ถึงแม้จะมีการตั้งข้อหา 3 ข้อหา แต่ยังปฏิเสธข้อกาเมาแล้วขับ ทั้งไม่ยอมให้ตรวจวัดแอลกอฮอล์และเจาะเลือดเพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย จึงอยากฝากให้ผู้หลับผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือติดตามเรื่องคดีให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรมกับที่ต้องสูญเสียด้วย อยากให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
นายเจีย พ่อน้องดา บอกว่า จนถึงขณะนี้ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักไป เพราะลูกจากไปแบบกะทันหันไม่ทันได้ร่ำลา และสิ่งที่ครอบครัวยังกังวลมากที่สุดตอนนี้คือเรื่องคดี จึงอยากให้ทางผู้ใหญ่ได้ช่วยเหลือติดตามเรื่องคดีให้ครอบครัวและลูกสาวได้รับความเป็นธรรมด้วย เพราะเกรงเรื่องจะเงียบหายไป ส่วนที่ ร.ต.อ.เดชา คู่กรณีมากราบขอขมาศพที่บ้านเมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) ก่อนที่จะเคลื่อนศพน้องไปฌาปนกิจนั้น ก็แค่มายกมือไหว้ตนและบอกว่า "ขอโทษ" คำเดียวเท่านั้น ไม่ได้พูดคุยเรื่องการแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด
ด้านนางฉวีวรรณ แสวงตน พี่สาว บอกว่า ถึงแม้ครอบครัวจะเริ่มทำใจได้บ้างกับการสูญเสียของน้อง แต่ก็ยังกังวลเรื่องคดีที่เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควร เพราะจนถึงขณะนี้คู่กรณีก็ยังไม่เห็นมาพูดคุยหรือแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย ถึงแม้จะมีการตั้งข้อหา 3 ข้อหา แต่ยังปฏิเสธข้อกาเมาแล้วขับ ทั้งไม่ยอมให้ตรวจวัดแอลกอฮอล์และเจาะเลือดเพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย จึงอยากฝากให้ผู้หลับผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือติดตามเรื่องคดีให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรมกับที่ต้องสูญเสียด้วย อยากให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
Cr:: springnews
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น