ลั่น!ฟันไม่เลี้ยง2ผอ.ปปง. เรียกรับสินบนนักธุรกิจ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ลั่น!ฟันไม่เลี้ยง2ผอ.ปปง. เรียกรับสินบนนักธุรกิจ
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีพบข้าราชการสำนักงาน ปปง. มีพฤติการณ์เรียกรับสินบนจากนักธุรกิจเช่ารถในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งถูกสำนักงาน ปปง. ตรวจสอบเกี่ยวกับการลักลอบเล่นการพนันสกุลเงินดิจิตอล
โดยข้าราชการดังกล่าวอ้างว่าจะช่วยเหลือทางคดีและมีการเรียกรับเงินจำนวน 2 ล้านบาท ว่า ขณะนี้สำนักงาน ปปง. ได้แต่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน แต่ขณะนี้ข้อมูลมีความชัดเจนมาก ยังไม่จำเป็นต้องขอเอกสารจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คาดว่าภายในพรุ่งนี้จะทราบผลการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง จะต้องตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และอาจจะให้ออกจากราชการไว้ก่อน
พล.ต.ต.ปรีชา กล่าวอีกว่า ไม่ทราบรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ว่ามีความสนิทสนมกับนักธุรกิจอย่างไร เพราะไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ที่ถูกร้องเป็นใคร ต้องรอผลสรุปของกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อน ขอให้ใจเย็นๆ หากมีความผิดจริงตนไม่เลี้ยงอยู่แล้ว และสำนักงาน ปปง. จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ระบุว่าหากข้าราชการสำนักงาน ปปง. กระทำความผิดเองต้องระวางโทษเป็น 3 เท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น แต่ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วย
Cr:: dailynews.co.th
โดยข้าราชการดังกล่าวอ้างว่าจะช่วยเหลือทางคดีและมีการเรียกรับเงินจำนวน 2 ล้านบาท ว่า ขณะนี้สำนักงาน ปปง. ได้แต่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน แต่ขณะนี้ข้อมูลมีความชัดเจนมาก ยังไม่จำเป็นต้องขอเอกสารจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คาดว่าภายในพรุ่งนี้จะทราบผลการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง จะต้องตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และอาจจะให้ออกจากราชการไว้ก่อน
พล.ต.ต.ปรีชา กล่าวอีกว่า ไม่ทราบรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ว่ามีความสนิทสนมกับนักธุรกิจอย่างไร เพราะไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ที่ถูกร้องเป็นใคร ต้องรอผลสรุปของกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อน ขอให้ใจเย็นๆ หากมีความผิดจริงตนไม่เลี้ยงอยู่แล้ว และสำนักงาน ปปง. จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ระบุว่าหากข้าราชการสำนักงาน ปปง. กระทำความผิดเองต้องระวางโทษเป็น 3 เท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น แต่ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วย
Cr:: dailynews.co.th
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น