เจอร่องรอย 3ผู้ต้องหาแหกคุก จนท.ปิดล้อมพื้นที่ รอแค่รุ่งสางอย่างเดียว
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม เจอร่องรอย 3ผู้ต้องหาแหกคุก จนท.ปิดล้อมพื้นที่ รอแค่รุ่งสางอย่างเดียว
เจอร่องรอย 3ผู้ต้องหาแหกคุก จนท.ปิดล้อมพื้นที่ไว้หมดแล้ว รอแค่รุ่งสางอย่างเดียว เผยแอบปีนบ้านเข้าไปตัดโซตรวน ตัดกล้วยน้ำวากิน คาดกำลังหิวโซ
3ผู้ต้องหาแหกคุก จากกรณี นายพิเชษฐ์ กลิ่นโอชา อายุ 31 ปี นายธราธิป เพิ่มลาภเกิด อายุ 26 ปี และ นายกฤษฎา เกตุนุ้ย อายุ 36 ปี แหกห้องขังศาลจังหวัดหลังสวน จ.ชุมพร แล้วชิงรถของกรมราชทัณฑ์ขับหลบหนีไปจอดทิ้งไว้ในสวนมังคุด ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าตัวอย่างเร่งด่วน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 11 ต.ค. นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชุมพร กล่าวว่า หลังได้ประชุมวางแผนแนวทางในการติดตามจับกุม 3 ผู้ต้องหา ก็ได้ข้อสรุป โดยจะตั้งกองบัญชาการปฏิบัติการไล่ล่าตัว ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.41 และฝ่ายปกครอง รวมถึงชาวบ้านอาสากว่า 300 คน กระจายปิดล้อมเขาห้วยคล้า บ้านท่าทอง หมู่ 12 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งเป็นจุดที่พบว่าเข้าไปในป่าบนเขา โดยมีการสับเปลี่ยนกันเฝ้าแต่ละจุดตลอด 24 ชม. ซึ่ง นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี ได้สนับสนุนไฟส่องแสงสว่างด้วย
3ผู้ต้องหาแหกคุก จากกรณี นายพิเชษฐ์ กลิ่นโอชา อายุ 31 ปี นายธราธิป เพิ่มลาภเกิด อายุ 26 ปี และ นายกฤษฎา เกตุนุ้ย อายุ 36 ปี แหกห้องขังศาลจังหวัดหลังสวน จ.ชุมพร แล้วชิงรถของกรมราชทัณฑ์ขับหลบหนีไปจอดทิ้งไว้ในสวนมังคุด ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าตัวอย่างเร่งด่วน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 11 ต.ค. นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชุมพร กล่าวว่า หลังได้ประชุมวางแผนแนวทางในการติดตามจับกุม 3 ผู้ต้องหา ก็ได้ข้อสรุป โดยจะตั้งกองบัญชาการปฏิบัติการไล่ล่าตัว ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.41 และฝ่ายปกครอง รวมถึงชาวบ้านอาสากว่า 300 คน กระจายปิดล้อมเขาห้วยคล้า บ้านท่าทอง หมู่ 12 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งเป็นจุดที่พบว่าเข้าไปในป่าบนเขา โดยมีการสับเปลี่ยนกันเฝ้าแต่ละจุดตลอด 24 ชม. ซึ่ง นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี ได้สนับสนุนไฟส่องแสงสว่างด้วย
ขณะที่ พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 ยังอยู่ในพื้นที่ไม่หลบหนีไปไหน แต่ตอนนี้ซึ่งเป็นเวลาค่ำคืน ไม่สามารถจะเข้าค้นหาได้ เพราะหวั่นจะเกิดอันตราย เพราะไม่รู้ว่าผู้ต้องหามีอะไรไว้ในมือบ้าง เจ้าหน้าที่ทำได้คือการปิดล้อมไว้ และในเช้าพรุ่งนี้ พอฟ้าสางก็จะเดินปูพรมเข้าค้นหาอีกครั้ง โดยจะมีเฮลิคอปเตอร์ที่ บช.ภ.8 ได้ส่งมา ขึ้นบินตรวจค้นทางอากาศ เพื่อจะชี้จุดหากพบสิ่งที่ผิดปกติในพื้นที่ป่าบนเขา แต่ยังไม่พบจุดผิดสังเกตที่คาดว่าผู้ต้องหาซ่อนตัวอยู่
พล.ต.ต.สหรัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับ นายกฤษฎา เป็นคนในพื้นที่ อ.สวี ซึ่งใกล้เคียงกับจุดที่หลบหนี เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังไปยังบ้านของผู้ต้องหาและบ้านญาติแล้ว เพื่อดูความเคลื่อนไหวหากผู้ต้องหาอาจจะหลบหนีมา นอกจากนี้พบว่าโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่องของเจ้าหน้าที่เรือนจำ ที่วางไว้ในรถได้หายไป คาดว่าผู้ต้องหานำโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่เรือนจำไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทดลองโทรไปปรากฏว่าปิดเครื่อง หากเปิดเมื่อไหร่ก็จะรู้พิกัดเมื่อนั้น และเชื่อว่าหากผู้ต้องหาเปิดโทรศัพท์ เบอร์แรกน่าจะแฟนของผู้ต้องหาเอง ซึ่งเราก็ประกบตัวไว้แล้ว
ล่าสุดเวลา 20.00 น.วันเดียวกัน ที่บ้านนายสุวิทย์ วงค์สุวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก ซึ่งเป็นศูนย์รวมพลและตั้งเป็นศูนย์บัญชาการวางแผนไล่ล่าตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พล.ต.ต.สหรัฐ และนายสมพร ซึ่งอยู่ในพื้นที่ด้วยเพื่อวางแผนให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยกระจายกำลังเฝ้าซุ่มตามจุดต่างๆ ตลอดทั้งคืนกว่า 300 นาย ขณะเดียวกัน พ.ต.สังคม รองมารี ผบ.ชป.1 บก.ควบคุม มทบ.44 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร (สห.) และชุดเคลื่อนที่เร็วจำนวน 26 นายเข้าร่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการติดตามค้นหา เจ้าหน้าที่ได้พบว่าที่บ้านปูนชั้นเดียวห่างจากที่ผู้ต้องหาจอดรถทิ้งไว้ประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นบ้านที่เจ้าของสวนปาล์มสร้างไว้นานๆ จะเข้ามาพักอาศัย ได้พบร่องรอยผู้ต้องหาปืนขึ้นไปบนหลังคาซึ่งสูงกว่าพื้นประมาณ 1.50 เมตร แล้วพังกระเบื้องหลังคาลงไปในบ้านแล้วใช้ค้อนและเลื่อยตัดโซ่ตรวนแต่ยังไม่ขาดแต่ได้หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึงไม่นาน ต่อมาเจ้าหน้าที่เดินตามร่องรอยที่คาดว่าผู้ต้องใช้เส้นทางไปทางด้านเชิงเขาผ่านสวนชาวบ้านและได้สังเกตเห็นว่ามีร่องรอยการตัดกล้วยน้ำว่าที่ปลายต้นด้วย จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้ต้องหาอย่างแน่นอน
พล.ต.ต.สหรัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับ นายกฤษฎา เป็นคนในพื้นที่ อ.สวี ซึ่งใกล้เคียงกับจุดที่หลบหนี เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังไปยังบ้านของผู้ต้องหาและบ้านญาติแล้ว เพื่อดูความเคลื่อนไหวหากผู้ต้องหาอาจจะหลบหนีมา นอกจากนี้พบว่าโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่องของเจ้าหน้าที่เรือนจำ ที่วางไว้ในรถได้หายไป คาดว่าผู้ต้องหานำโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่เรือนจำไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทดลองโทรไปปรากฏว่าปิดเครื่อง หากเปิดเมื่อไหร่ก็จะรู้พิกัดเมื่อนั้น และเชื่อว่าหากผู้ต้องหาเปิดโทรศัพท์ เบอร์แรกน่าจะแฟนของผู้ต้องหาเอง ซึ่งเราก็ประกบตัวไว้แล้ว
ล่าสุดเวลา 20.00 น.วันเดียวกัน ที่บ้านนายสุวิทย์ วงค์สุวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก ซึ่งเป็นศูนย์รวมพลและตั้งเป็นศูนย์บัญชาการวางแผนไล่ล่าตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พล.ต.ต.สหรัฐ และนายสมพร ซึ่งอยู่ในพื้นที่ด้วยเพื่อวางแผนให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยกระจายกำลังเฝ้าซุ่มตามจุดต่างๆ ตลอดทั้งคืนกว่า 300 นาย ขณะเดียวกัน พ.ต.สังคม รองมารี ผบ.ชป.1 บก.ควบคุม มทบ.44 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร (สห.) และชุดเคลื่อนที่เร็วจำนวน 26 นายเข้าร่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการติดตามค้นหา เจ้าหน้าที่ได้พบว่าที่บ้านปูนชั้นเดียวห่างจากที่ผู้ต้องหาจอดรถทิ้งไว้ประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นบ้านที่เจ้าของสวนปาล์มสร้างไว้นานๆ จะเข้ามาพักอาศัย ได้พบร่องรอยผู้ต้องหาปืนขึ้นไปบนหลังคาซึ่งสูงกว่าพื้นประมาณ 1.50 เมตร แล้วพังกระเบื้องหลังคาลงไปในบ้านแล้วใช้ค้อนและเลื่อยตัดโซ่ตรวนแต่ยังไม่ขาดแต่ได้หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึงไม่นาน ต่อมาเจ้าหน้าที่เดินตามร่องรอยที่คาดว่าผู้ต้องใช้เส้นทางไปทางด้านเชิงเขาผ่านสวนชาวบ้านและได้สังเกตเห็นว่ามีร่องรอยการตัดกล้วยน้ำว่าที่ปลายต้นด้วย จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้ต้องหาอย่างแน่นอน
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น