อัจฉริยะ หอบหลักฐานร้องทนายคนดัง-ตั้ม’ พร้อมชี้แจง ปมถูกแจ้งจับ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม อัจฉริยะ หอบหลักฐานร้องทนายคนดัง-ตั้ม’ พร้อมชี้แจง ปมถูกแจ้งจับ
วันที่ 3 ต.ค. ที่กองปราบปราม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.ธนวัฒน์ หลีพงษ์ สว.(สอบสวน) กก.6 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษทนายความชื่อดัง ในข้อหา เป็นคนกลางเรียกหรือรับสินบน ตามป.วิอาญา มาตรา 143 กรณีเรียกรับเงิน 5 แสนบาท จากนายสมนึก และนางวาสนา (ขอสงวนนามสกุล) สองสามีภรรยา เจ้าของธุรกิจส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ที่จ.สมุทรสาคร เพื่อเป็นค่าวิ่งเต้นทางคดีต่ออัยการให้เพิ่มข้อกล่าวหา พร้อมนำสลิปการโอนเงิน และคลิปเสียงที่เคยเผยแพร่เอาไว้มามอบให้เป็นหลักฐาน
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายสมนึก และนางวาสนา ถูกคนร้ายรายหนึ่งหลอกให้เล่นแชร์ลูกโซ่ห้องเย็น มูลค่าความเสียหายประมาณ 10,300,000 บาท ต่อมาตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ระหว่างที่อัยการดำเนินการฟ้องร้องผู้ต้องหาต่อศาล ทางทนายคนดังกล่าวไปแอบอ้างกับผู้เสียหายว่า รู้จักและสนิทสนมกับอัยการที่รับผิดชอบคดีนี้ และสามารถจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาได้
โดยมีค่าดำเนินการ 5 แสนบาท ทางผู้เสียหายก็ตกลงจ่ายเงินให้ไปตามข้อตกลง จากนั้นปรากฏว่า อัยการกลับสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปตามข้อกล่าวหาเดิม ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มตามคำกล่าวอ้างแต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงทวงเงินค่าดำเนินการคืน
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายสมนึก และนางวาสนา ถูกคนร้ายรายหนึ่งหลอกให้เล่นแชร์ลูกโซ่ห้องเย็น มูลค่าความเสียหายประมาณ 10,300,000 บาท ต่อมาตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ระหว่างที่อัยการดำเนินการฟ้องร้องผู้ต้องหาต่อศาล ทางทนายคนดังกล่าวไปแอบอ้างกับผู้เสียหายว่า รู้จักและสนิทสนมกับอัยการที่รับผิดชอบคดีนี้ และสามารถจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาได้
โดยมีค่าดำเนินการ 5 แสนบาท ทางผู้เสียหายก็ตกลงจ่ายเงินให้ไปตามข้อตกลง จากนั้นปรากฏว่า อัยการกลับสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปตามข้อกล่าวหาเดิม ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มตามคำกล่าวอ้างแต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงทวงเงินค่าดำเนินการคืน
แต่ทนายคนดังกลับไม่ยอมจ่าย สองสามีภรรยาจึงมาร้องเรียนตนให้ช่วยเหลือ ตนจึงนำคลิปเสียงการเจรจาระหว่างทนายคนดังเจรจากับผู้เสียหายไปเผยแพร่ ทำให้ทนายคนดังรีบโอนเงินคืนให้ 450,000 บาท โดยโอนผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย ส่วนที่เหลืออีก 50,000 บาท มีผู้นำเงินสดมาคืนให้
หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น ตนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าทนายคนดังไม่มีความเกี่ยวข้องคดีนี้แต่อย่างใด ในวันนี้ตนได้รับมอบหมายจากผู้เสียหายให้เข้ามาแจ้งความที่กองปราบปราม ส่วนผู้เสียหายเดินทางไปให้ถ้อยคำกับสภาทนายความเพื่อร้องเรียนพฤติกรรมทนายคนดังด้วย
หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น ตนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าทนายคนดังไม่มีความเกี่ยวข้องคดีนี้แต่อย่างใด ในวันนี้ตนได้รับมอบหมายจากผู้เสียหายให้เข้ามาแจ้งความที่กองปราบปราม ส่วนผู้เสียหายเดินทางไปให้ถ้อยคำกับสภาทนายความเพื่อร้องเรียนพฤติกรรมทนายคนดังด้วย
นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ที่ผ่านมา ตนยังทราบว่าทนายคนดังยังเคยรับทำคดียาเสพติด ซึ่งกล่าวหาตำรวจของสภ.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร จำนวน 8 นายว่า ยัดยาและเรียกทรัพย์สินจากสองสามีภรรยารายหนึ่งในคดียาเสพติด ต่อมามาศาลมีคำตัดสินว่า ตำรวจทั้ง 8 นายบริสุทธิ์
แต่ภรรยาซึ่งเป็นผู้กล่าวหา ถูกตัดสินจำคุก 4 ปี ปรับ 4 แสน ส่วนตัวสามีนั้นศาลชั้นต้นยกฟ้อง เนื่องจากมีการฟ้องผิดศาล
นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า คดีนี้ทางทนายคนดังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี แต่เข้าไปเป็นคนกลางและเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย เพื่อมาวิ่งเต้นล้มคดี ร่วมทั้งยังเรียกรับเงินในคดีฉ้อโกง ถือเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม บุคคลที่อาศัยความเป็นทนายตั้งมูลนิธิทนายเพื่อประชาชน ในการหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง จึงต้องขจัดออกไปจากสังคม
เบื้องต้น พ.ต.ท.ธนวัฒน์ ได้สอบปากคำผู้ร้องเรียนไว้ พร้อมนำหลักฐานไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนนำเสนอผู้บังบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
แต่ภรรยาซึ่งเป็นผู้กล่าวหา ถูกตัดสินจำคุก 4 ปี ปรับ 4 แสน ส่วนตัวสามีนั้นศาลชั้นต้นยกฟ้อง เนื่องจากมีการฟ้องผิดศาล
นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า คดีนี้ทางทนายคนดังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี แต่เข้าไปเป็นคนกลางและเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย เพื่อมาวิ่งเต้นล้มคดี ร่วมทั้งยังเรียกรับเงินในคดีฉ้อโกง ถือเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม บุคคลที่อาศัยความเป็นทนายตั้งมูลนิธิทนายเพื่อประชาชน ในการหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง จึงต้องขจัดออกไปจากสังคม
เบื้องต้น พ.ต.ท.ธนวัฒน์ ได้สอบปากคำผู้ร้องเรียนไว้ พร้อมนำหลักฐานไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนนำเสนอผู้บังบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าว"ข่าวสด" รายงานว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ซึ่งได้รับการเปิดเผยว่า ในขณะนี้ตนยังไม่ทราบเรื่องที่นายอัจฉริยะเข้าแจ้งความที่กองปราบฯ เพราะอยู่ในช่วงพักร้อนที่เกาะแห่งหนึ่ง พร้อมกับครอบครัว
"ผมขอยังไม่ให้ข้อมูลใดๆ ในขณะนี้ เพราะผมยังไม่ทราบเรื่องราวใดๆ เลย ทั้งนี้ผมจะสิ้นสุดการพักร้อน ในวันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค.นี้ และจะพร้อมที่จะพูดคุยถึงเรื่องคดีนี้อย่างแน่นอนครับ"ทนายตั้มกล่าว
"ผมขอยังไม่ให้ข้อมูลใดๆ ในขณะนี้ เพราะผมยังไม่ทราบเรื่องราวใดๆ เลย ทั้งนี้ผมจะสิ้นสุดการพักร้อน ในวันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค.นี้ และจะพร้อมที่จะพูดคุยถึงเรื่องคดีนี้อย่างแน่นอนครับ"ทนายตั้มกล่าว
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น