บอลจบคนไม่จบ แฟนบอลบางกอกกลาสเจ็บตัว ถูกปาหินใส่รถบัส
ร.ต.อ.รังสรรค์ ลมไธสงค์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุดังกล่าวเมื่อเวลาสามทุ่ม วันอาทิตย์ที่ 30 ก.ย. จึงเดินทางไปพร้อมด้วย พ.ต.ท. ตะวัน วัฒนรังสรรค์ สวป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี และ ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองฯ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมเณรแก้วทางหลวงสุพรรณบุรี
ที่เกิดเหตุมีรถบัสจอดอยู่ จำนวน 2 คัน คันถูกปาหินเป็นรถบัสปรับอากาศ 2 ชั้น หมายเลขทะเบียน 33-3262 กทม ทั้งสองคันมีกองเชียร์ของทีมบางกอกกลาส กว่า 70 คน ที่นั่งมาในรถบัสอยู่ท่ามกลางความตกใจ และบางส่วนรีบนำผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ นายสมพงษ์ ตั้งมงคลเจริญ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นแฟนบอลของทีมบางกอกกลาส ส่ง ร.พ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช
จากการสอบถาม คนขับรถบัส คือ นายประวิทย์ วงสาย อายุ 49 ปี เล่าว่า ขับออกจากสนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี หลังเสร็จการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก ประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ โดยตนขับคันแรก เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงดังโป๊ะเหมือนมีวัตถุอะไรขว้างมาที่บริเวณข้างรถ จึงรีบจอดรถลงไปดู ปรากฏว่า กระจกรถถูกปาจนแตกเสียหาย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย โดนเศษกระจกกระเด็นเข้าใส่ที่ตา ข้างซ้าย จึงได้รีบนำส่งโรงพยาบาล และโทรแจ้งจนท.ตำรวจ
เกมลงเอยว่าสุพรรณบุรี เอฟซีชนะบางกอกกลาส 2-0 บรรดาแฟนบอลกองเชียร์บางกอกลาส ก็เดินกลับขึ้นรถบัส โดยเจ้าหน้าที่สนามที่ดูแลความปลอดภัย ก็ได้กันทั้งนักกีฬาและกองเชียร์ให้ขึ้นรถบัส อย่างเรียบร้อย จากนั้นก็เดินทางออกจากสนาม จนมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
จังหวะนั้น นายองศ์ภัคกล่าวว่า ตนและเพื่อนๆ นั่งชั้นล่างของรถ รับประทานข้าวกล่องกันอยู่ จู่ๆ ได้ยินเสียงดังโป๊ะ กระแทกเข้ามาที่กระจกที่ 1 รอบ คิดว่าเพื่อนเปิดขวดโซดา เลยไม่ได้มอง สักพักรอบที่ 2 ดังขึ้นมาอีกครั้งดังมาก กระจกแตกเลย ปรากฏว่ามีคนปาวัตถุเข้ามาที่กระจกรถบัส เห็นเป็นรถ จักรยานยนต์ 2 คัน แต่ไม่ได้สังเกตเป็นใคร มองไม่ทัน จยย.นั้นขับหลบหนีไป
ส่วนเพื่อนตนที่นั่งอยู่โดนเศษกระจกกระเด็นใส่เข้าตา จึงได้รีบพากันส่งโรงพยาบาล ล่าสุดแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ แล้ว ซึ่งก็ยังนับว่าโชคดี ที่เด็กเล็กไม่ได้นั่งด้านล่าง เรื่องที่เกิดขึ้นขอปล่อยให้เป็นเรื่องของจนท.ตำรวจที่ติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
ด้านตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรีลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และว่าจะตรวจสอบกล้องวงจรปิด และ กล้อง CCTV ในบริเวณถนนเส้นดังกล่าวทั้งหมด เพื่อหาผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป