ทนายษิทธา พา เอมี่ หอบหลักฐานยื่นบช.น.ยันทำคดีโปร่งใส(คลิป)
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ทนายษิทธา พา เอมี่ หอบหลักฐานยื่นบช.น.ยันทำคดีโปร่งใส(คลิป)
จากกรณีข่าวสุดครึกโครม กรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ร้องเรียนให้ตำรวจสอบพิรุธคดีเอมี่ อาเมเรีย หลุดข้อหาค้ายาเสพติด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน และ เอมี่ เดินทางไปยัง บช.น. เพื่อยื่นหลักฐานต่าง ๆ ต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และยินดีให้ตรวจสอบความโปร่งใสในการทำคดีนี้
โดยระบุก่อนการให้สัมภาษณ์ว่า ขออนุญาตไม่ให้ น.ส.อาเมเรีย ให้สัมภาษณ์ใดๆ เพื่อเป็นการปกป้องลูกความของตน
นายษิทรา กล่าวว่า นำหลักฐานที่ใช้ในการต่อสู้คดีของ น.ส.อาเมเรีย ไม่ว่าจะเป็นพยานวัตถุ พยานเอกสาร ที่มีการรับรองสำเนาถูกต้อง คัดถ่ายมาจากศาลทั้งหมด ทุกอย่างในสำนวนมีคำฟ้อง คำให้การตั้งแต่ชั้นสอบสวน ชั้นศาล เอกสารที่โจทย์จำเลย รายงานกระบวนพิจารณา หลักฐานทางการเงินของน.ส.อาเมเรีย และครอบครัว คำพิพากษาของศาล ที่สำคัญคือหลักฐานการใช้โทรศัพท์ของน.ส.อาเมเรีย ที่ยืนยัน ได้ว่าไม่ได้อยู่กับแฟน ขณะไปรับยาเสพติด นำมายื่นให้กับคณะกรรมการตรวจสอบสอบข้อเท็จจริง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในการต่อสู้คดีว่าไม่มีลับลมคมทั้งสิ้น เราสู้ด้วยกระบวนการกฎหมายทั้งหมด พยานหลักฐานที่นำมาสำหรับคนที่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย เมื่อเห็นคำพิพากษา เห็นสำนวนคดีทั้งหมดแล้วจะเข้าใจได้ดีว่าที่ น.ส.อาเมเรีย ชนะคดีนี้เพราะเป็นเอกสารทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น
ถามว่าหนักใจหรือไม่ที่มีคนออกมาร้องเรียนและมีหลักฐานสำคัญด้วย นายษิทรา กล่าวว่า ไม่มีความหนักใจเลย หากคนร้องเรียนมั่นใจว่ามีหลักฐานสำคัญจริงๆ ถ้าเกิดผลออกมาแล้วว่าไม่มีตำรวจทุจริต ต้องรับผิดชอบด้วย และอยากเรียกร้องให้ตำรวจ อัยการ ที่เสียหาย ต้องเอาเรื่องเขาแล้ว เพราะออกมาทำให้สังคมเคลือบแคลงสงสัยในกระบวนการยุติธรรม หากไม่ใช่เรื่องจริงขึ้นมา แต่เสียหายไปแล้ว ถามว่าไม่ได้ร้องเรียนตนแล้วมาทำไม ตนเป็นทนายของน.ส.อาเมเรีย หากมีการวิ่งเต้นคดี มันก็ต้องกระทบกับตนด้วย เพราะเป็นทนายความ
ถามว่าทางคู่กรณียืนยันว่ามีพยานบุคคล 3 คนที่ยืนยันได้ว่ามีการวิ่งเต้นคดีจริง ทนายษิทรามีความกังวลใจหรือไม่ นายษิทรา กล่าวว่า ไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้นำหลักฐานไปเสนอกับทาง บช.น. หากมีผลออกมาอย่างไร ค่อยฟังกันอีกครั้งดีกว่า เพราะเราสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของ น.ส.อาเมเรีย และยืนยันว่าไม่มีการวิ่งเต้นคดี และโอนเงินให้กับทางตำรวจแน่นอน หากตำรวจคนใดเคยรับเงินจากตนหรือแม่ของ น.ส.อาเมเรีย ให้ออกมายืนยันได้ หากมีหลักฐานชัดเจนตนตายแน่นอน แต่มันไม่เคยมีทั้งสิ้น ซึ่งตอนที่ต่อสู้คดีอยู่ทางตำรวจที่ทำคดีก็ยังไม่อยากคุยกับตนเลย เพราะคดีนี้เป็นคดีที่ดาราถูกจับและเป็นคดีที่สำคัญ และสื่อให้ความสนใจ ไม่มีตำรวจคนใดกล้าทำแบบนั้นแน่
ถามว่าคู่กรณีที่มาร้องเรียนเป็นคนที่เคยมีปัญหากับทนายษิทรา มาก่อนนายษิทรา กล่าวว่า ให้สังคมเป็นผู้ตัดสินว่าที่เขาออกมาต้องการอะไรกันแน่ ตนไม่อยากไปวิจารณ์ว่าเขามีปัญหาส่วนตัวกับตนหรือไม่ แต่ให้ดูว่าการกระทำที่ผ่านมาเป็นอย่างไร แต่ตนคิดว่าคนที่มีจิตใจที่เป็นกลางน่าจะมองออกว่าเขาออกมาเพื่ออะไร ต่อข้อซักถามว่าคู่กรณีระบุว่าไม่ได้หมายถึงทนายษิทรา แต่ที่ออกมาทนายออกมาคือการร้อนตัวนั้น ตนไม่ได้ร้อนตัว แต่มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ที่เขาระบุว่าตำรวจมีการวิ่งเต้นคดี อยู่ๆ ตำรวจจะไปวิ่งเต้นกันเองหรือไม่ ความหมายของเขาก็สื่อได้อยู่แล้วว่าทางทนาย หรือน.ส.อาเมเรีย เกี่ยวข้องด้วย ไม่อยากให้มีการทำลายกระบวนการยุติธรรม ให้ตำรวจหรืออัยการต้องเสียหาย เพราะข้าราชการอยู่ในเครื่องแบบจะไม่ออกมาตอบโต้อะไร แต่ตนมีเอกสารหลักฐานต่างๆ ก็สามารถออกมาชี้แจงได้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน และ เอมี่ เดินทางไปยัง บช.น. เพื่อยื่นหลักฐานต่าง ๆ ต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และยินดีให้ตรวจสอบความโปร่งใสในการทำคดีนี้
โดยระบุก่อนการให้สัมภาษณ์ว่า ขออนุญาตไม่ให้ น.ส.อาเมเรีย ให้สัมภาษณ์ใดๆ เพื่อเป็นการปกป้องลูกความของตน
นายษิทรา กล่าวว่า นำหลักฐานที่ใช้ในการต่อสู้คดีของ น.ส.อาเมเรีย ไม่ว่าจะเป็นพยานวัตถุ พยานเอกสาร ที่มีการรับรองสำเนาถูกต้อง คัดถ่ายมาจากศาลทั้งหมด ทุกอย่างในสำนวนมีคำฟ้อง คำให้การตั้งแต่ชั้นสอบสวน ชั้นศาล เอกสารที่โจทย์จำเลย รายงานกระบวนพิจารณา หลักฐานทางการเงินของน.ส.อาเมเรีย และครอบครัว คำพิพากษาของศาล ที่สำคัญคือหลักฐานการใช้โทรศัพท์ของน.ส.อาเมเรีย ที่ยืนยัน ได้ว่าไม่ได้อยู่กับแฟน ขณะไปรับยาเสพติด นำมายื่นให้กับคณะกรรมการตรวจสอบสอบข้อเท็จจริง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในการต่อสู้คดีว่าไม่มีลับลมคมทั้งสิ้น เราสู้ด้วยกระบวนการกฎหมายทั้งหมด พยานหลักฐานที่นำมาสำหรับคนที่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย เมื่อเห็นคำพิพากษา เห็นสำนวนคดีทั้งหมดแล้วจะเข้าใจได้ดีว่าที่ น.ส.อาเมเรีย ชนะคดีนี้เพราะเป็นเอกสารทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น
ถามว่าหนักใจหรือไม่ที่มีคนออกมาร้องเรียนและมีหลักฐานสำคัญด้วย นายษิทรา กล่าวว่า ไม่มีความหนักใจเลย หากคนร้องเรียนมั่นใจว่ามีหลักฐานสำคัญจริงๆ ถ้าเกิดผลออกมาแล้วว่าไม่มีตำรวจทุจริต ต้องรับผิดชอบด้วย และอยากเรียกร้องให้ตำรวจ อัยการ ที่เสียหาย ต้องเอาเรื่องเขาแล้ว เพราะออกมาทำให้สังคมเคลือบแคลงสงสัยในกระบวนการยุติธรรม หากไม่ใช่เรื่องจริงขึ้นมา แต่เสียหายไปแล้ว ถามว่าไม่ได้ร้องเรียนตนแล้วมาทำไม ตนเป็นทนายของน.ส.อาเมเรีย หากมีการวิ่งเต้นคดี มันก็ต้องกระทบกับตนด้วย เพราะเป็นทนายความ
ถามว่าทางคู่กรณียืนยันว่ามีพยานบุคคล 3 คนที่ยืนยันได้ว่ามีการวิ่งเต้นคดีจริง ทนายษิทรามีความกังวลใจหรือไม่ นายษิทรา กล่าวว่า ไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้นำหลักฐานไปเสนอกับทาง บช.น. หากมีผลออกมาอย่างไร ค่อยฟังกันอีกครั้งดีกว่า เพราะเราสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของ น.ส.อาเมเรีย และยืนยันว่าไม่มีการวิ่งเต้นคดี และโอนเงินให้กับทางตำรวจแน่นอน หากตำรวจคนใดเคยรับเงินจากตนหรือแม่ของ น.ส.อาเมเรีย ให้ออกมายืนยันได้ หากมีหลักฐานชัดเจนตนตายแน่นอน แต่มันไม่เคยมีทั้งสิ้น ซึ่งตอนที่ต่อสู้คดีอยู่ทางตำรวจที่ทำคดีก็ยังไม่อยากคุยกับตนเลย เพราะคดีนี้เป็นคดีที่ดาราถูกจับและเป็นคดีที่สำคัญ และสื่อให้ความสนใจ ไม่มีตำรวจคนใดกล้าทำแบบนั้นแน่
ถามว่าคู่กรณีที่มาร้องเรียนเป็นคนที่เคยมีปัญหากับทนายษิทรา มาก่อนนายษิทรา กล่าวว่า ให้สังคมเป็นผู้ตัดสินว่าที่เขาออกมาต้องการอะไรกันแน่ ตนไม่อยากไปวิจารณ์ว่าเขามีปัญหาส่วนตัวกับตนหรือไม่ แต่ให้ดูว่าการกระทำที่ผ่านมาเป็นอย่างไร แต่ตนคิดว่าคนที่มีจิตใจที่เป็นกลางน่าจะมองออกว่าเขาออกมาเพื่ออะไร ต่อข้อซักถามว่าคู่กรณีระบุว่าไม่ได้หมายถึงทนายษิทรา แต่ที่ออกมาทนายออกมาคือการร้อนตัวนั้น ตนไม่ได้ร้อนตัว แต่มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ที่เขาระบุว่าตำรวจมีการวิ่งเต้นคดี อยู่ๆ ตำรวจจะไปวิ่งเต้นกันเองหรือไม่ ความหมายของเขาก็สื่อได้อยู่แล้วว่าทางทนาย หรือน.ส.อาเมเรีย เกี่ยวข้องด้วย ไม่อยากให้มีการทำลายกระบวนการยุติธรรม ให้ตำรวจหรืออัยการต้องเสียหาย เพราะข้าราชการอยู่ในเครื่องแบบจะไม่ออกมาตอบโต้อะไร แต่ตนมีเอกสารหลักฐานต่างๆ ก็สามารถออกมาชี้แจงได้
"ถ้าเกิดคนที่ติดตามผมจริงๆ จะทราบว่าผมทำคดียาเสพติดไม่เยอะเลย ส่วนมากจะเป็นคดีชาวบ้าน ผมไม่ใช่คนที่ต้องออกข่าวทุกเรื่อง ผมจะเลือกออกข่าวเฉพาะคดีสำคัญและประชาชนจะได้ประโยชน์ ส่วนเรื่องเงินหลักสิบล้านที่มีการพูดถึงก็ไม่มีจริง คนที่พูดมีหลักฐานแค่ไหน ไม่ใช่ไปมโนกันเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมูลนิธิ เป็นการจ้างวานข้างนอก ต้องมีค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่เงินระดับหลักล้านแน่นอน ซึ่งผมยินดีให้คณะกรรมการตรวจสอบได้เลย วันนี้ถึงต้องนำเอกสารเข้ามาชี้แจงความบริสุทธิ์ ส่วนเรื่องที่คู่กรณีจะนำเอกสารไปมอบให้อัยการเพื่อขอบื่นอุทธรณ์นั้น ผมต้องขอบอกว่าการอุทธรณ์หรือไม่อุทธรณ์เป็นอำนาจของอัยการ แต่โดยปกติเขาอุทธรณ์อยู่แล้ว" นายษิทรา กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.สมพงษ์ พร้อม พ.ต.อ.เจนกมล คำนวล รองผบก.อก.บช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายร้องทุกข์ ฝอ.1 บก.อก.บช.น. ลงมารับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว โดย พล.ต.ต.สมพงษ์ เปิดเผยภายหลังว่า
สืบเนื่องจากกรณีที่มีคดีของน.ส.อาเมเรีย หรือเอมี่ จาคอป คดีข้อหาเสพยาเสพติด ภายหลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวผ่านทางสื่อมวลชน ทางทนายษิทรา จึงนำเอกสารที่ไปขอคัดคำสำเนาคำพิพากษาศาล และเอกสารที่อ้างว่าเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทางคดี ทางพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. แต่งตั้งให้ตนเป็นหัวคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว เอกสารทุกฝ่ายยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย หลังจากนี้จะเรียกทุกฝ่ายที่ยื่นเอกสารมาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ขอให้คณะกรรมทำงานมีการประชุมก่อนเพื่อแบ่งหน้าที่การทำงาน แต่ในวันนี้ก็จะทำการสอบปากคำไว้เป็นข้อมูลว่ามีวัตถุประสงค์อะไร โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ได้สอบปากคำเบื้องต้นพร้อมทั้งรับเอกสาร
ขณะนี้ตำรวจยังรอคำพิพากษาฉบับจริง โดยให้คณะพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงทำหนังสือร้องขอต่อศาลแล้ว และจะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีในอาทิตย์หน้า ส่วนคลิปที่ทางนายอัจฉริยะ มามอบให้และทางทนายษิทรา มอบให้ ทางตำรวจจะให้ทุกฝ่าย การดำเนินการดังกล่าวไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาเอาไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ต้องตรวจสอบให้ละเอียดเนื่องจากพี่น้องประชาชนให้ความสนใจ" รองผบช.น. กล่าวว่า
เมื่อถามถึงกรณีที่นายอัฉริยะมาร้องขอให้เปลี่ยนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จนั้น พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว พ.ต.อ.ทนงศิลป์ มณีโชติ ผกก.สน.สายไหม เพิ่งย้ายมา อย่างไรก็ตาม ต้องขอหารือกับทางพล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 ก่อน เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ อะไรก็ตามที่เขาร้องมาเพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรมก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เชื่อว่าน่าจะใช้เวลาไม่นานในกรณีดังกล่าว โดยจะต้องตรวจสอบหมดตั้งแต่ชุดจับกุม ชุดพนักงานสอบสวนว่ามีความบกพร่องตรงไหน หากดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ศาลท่านพิจารณาในประเด็นใดก็จะต้องนำมาพิจารณาตรวจสอบประกอบกับข้อเท็จจริงดังกล่าว ขณะนี้เห็นเพียงเอกสารของทางนายอัฉริยะ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการตามระเบียบของข้าราชการ
ชมคลิปด้าน พล.ต.ต.สมพงษ์ พร้อม พ.ต.อ.เจนกมล คำนวล รองผบก.อก.บช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายร้องทุกข์ ฝอ.1 บก.อก.บช.น. ลงมารับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว โดย พล.ต.ต.สมพงษ์ เปิดเผยภายหลังว่า
สืบเนื่องจากกรณีที่มีคดีของน.ส.อาเมเรีย หรือเอมี่ จาคอป คดีข้อหาเสพยาเสพติด ภายหลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวผ่านทางสื่อมวลชน ทางทนายษิทรา จึงนำเอกสารที่ไปขอคัดคำสำเนาคำพิพากษาศาล และเอกสารที่อ้างว่าเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทางคดี ทางพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. แต่งตั้งให้ตนเป็นหัวคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว เอกสารทุกฝ่ายยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย หลังจากนี้จะเรียกทุกฝ่ายที่ยื่นเอกสารมาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ขอให้คณะกรรมทำงานมีการประชุมก่อนเพื่อแบ่งหน้าที่การทำงาน แต่ในวันนี้ก็จะทำการสอบปากคำไว้เป็นข้อมูลว่ามีวัตถุประสงค์อะไร โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ได้สอบปากคำเบื้องต้นพร้อมทั้งรับเอกสาร
ขณะนี้ตำรวจยังรอคำพิพากษาฉบับจริง โดยให้คณะพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงทำหนังสือร้องขอต่อศาลแล้ว และจะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีในอาทิตย์หน้า ส่วนคลิปที่ทางนายอัจฉริยะ มามอบให้และทางทนายษิทรา มอบให้ ทางตำรวจจะให้ทุกฝ่าย การดำเนินการดังกล่าวไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาเอาไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ต้องตรวจสอบให้ละเอียดเนื่องจากพี่น้องประชาชนให้ความสนใจ" รองผบช.น. กล่าวว่า
เมื่อถามถึงกรณีที่นายอัฉริยะมาร้องขอให้เปลี่ยนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จนั้น พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว พ.ต.อ.ทนงศิลป์ มณีโชติ ผกก.สน.สายไหม เพิ่งย้ายมา อย่างไรก็ตาม ต้องขอหารือกับทางพล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 ก่อน เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ อะไรก็ตามที่เขาร้องมาเพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรมก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เชื่อว่าน่าจะใช้เวลาไม่นานในกรณีดังกล่าว โดยจะต้องตรวจสอบหมดตั้งแต่ชุดจับกุม ชุดพนักงานสอบสวนว่ามีความบกพร่องตรงไหน หากดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ศาลท่านพิจารณาในประเด็นใดก็จะต้องนำมาพิจารณาตรวจสอบประกอบกับข้อเท็จจริงดังกล่าว ขณะนี้เห็นเพียงเอกสารของทางนายอัฉริยะ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการตามระเบียบของข้าราชการ
VVVVVV
VVVVVVVV
VVVVVV
VVVVVVV
-------------
Cr::: matichon.co.th
Cr::: matichon.co.th
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น