โหดเหี้ยม! ‘พูล้า’ฆ่ายายหลาน เล่าเหตุเชือดคอ ขอใช้สิทธิ์ผู้ต้องหาไม่ไปขอขมาศพ!!

จากกรณี ท้าวพูล้า หรือพูล้า หรือพู อายุ 22 ปี สัญชาติ สปป.ลาว ผู้ต้องหาเหี้ยมใช้มีดปาดคอเพื่อชิงทรัพย์ ทำให้ นางมะลิ อิ่มสวัสดิ์ อายุ 67 ปี และด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี นร.ชั้นป.6 เสียชีวิตสยดสยอง ส่วน ด.ญ.บี(นามสมมุติ) อายุ 9 ปี นร.ชั้น ป.3 อาการสาหัส เหตุเกิดในร้านขายของชำ อ.พระประแดง

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ บก.ภ.จว.สมุทรปราการ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 แถลงข่าวอย่างเป็นทางการสำหรับการจับกุม ท้าวพูล้า หรือพูล้า อายุ 22 ปี สัญชาติ สปป.ลาว ผู้ต้องหาใช้มีดปาดคอเพื่อชิงทรัพย์ โดยตำรวจได้เปลี่ยนแผนจากที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ มาเป็นทำแผนจำลองเหตุการณ์ที่กองบังคับการแทน เนื่องจากหวั่นเกรงว่าญาติๆและประชาชนที่โกรธแค้นจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ ซึ่งได้ใช้ตุ๊กตาผู้หญิงมาจำลองเป็นเหยื่อเด็กหญิงพี่น้องที่โดนปาดคออย่างเหี้ยมโหด ขณะเดียวกันด้านนอกโรงพักก็มีตอนนี้มีญาติผู้เสียชีวิต 4-5 คน รวมทั้งชาวบ้านที่ทราบข่าว พยายามจะขึ้นมาบนกองบังคับการ เพื่อมาดูการทำแผน แต่ตำรวจไม่ยอมให้ขึ้นมาเด็ดขาด สร้างความไม่พอใจให้กับญาติๆและชาวบ้านพอสมควร

ท้าวพูล้า เล่าถึงพฤติการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุเสพยาบ้าเข้าไป 1 เม็ด ระหว่างนั้นเกิดคิดอยากได้เงินของยาย เพราะซื้อของที่ร้านยายอยู่บ่อย ๆ จึงเชื่อว่ายายน่าจะมีเงินเยอะ อีกทั้งยังเคยเห็นยายใส่สร้อยคอทองคำด้วย เวลาประมาณ 03.00-04.00 น.จึงแอบเข้าไปในบ้านของยาย เห็นแมวอยู่บนบ้านร้องเสียงดังจึงหยิบเอามีดทำครัวมาปาดคอแมวเพื่อทดลองมีดก่อน จากนั้นได้รื้อค้นหาทรัพย์สิน จนกระทั่งยายมาเจอเข้าจึงใช้มีดปาดคอยายไป 3 ครั้ง จนยายล้มลง ระหว่างนั้นมีเด็กน้อยมาเห็นตนเอง จึงเอามีดทำครัวปาดคอเด็กต่ออีกจนเด็กล้ม แล้วก็เข้าไปรื้อทรัพย์สินในห้องนอน ก่อนจะใช้มืดปาดคอเด็กที่นอนอยู่จนเสียชีวิต

นายพูล้า เล่าอีกว่า หลังจากก่อเหตุได้นั่งวินจากหน้าปากซอย มาลงที่หน้าบิ้กซีพระประแดง ก่อนจะนั่งแท็กซี่มาลงที่หมอชิต หากซื้อกางเกง เสื้อ และรองเท้า เพื่อเปลี่ยน โดยชุดที่ใส่ก่อเหตุทิ้งในห้องน้ำที่หมอชิต จากนั้นได้บอกคนขับรถทัวร์ว่า ไม่มีบัตรและจะกลับลาว คนขับบอกค่ารถ 1,000 บาท โดยนั่งเบาะข้างคนขับออกจากกรุงเทพประมาณ 08.00 - 09.00 น. ถึงยโสธร 14.00-15.00 น. พอมาถึงคนในรถทัวร์พาไปขายทองได้เงินมา 7,500 บาท จ่ายให้คนรถทัวร์ 300 บาท ค่ารถมอเตอร์ไชด์ 100 บาท จากนั้นคนรถทัวร์ได้พามาซื้อตั๋วเพื่อเดินทางต่อมายัง จ.มุกดาหาร

โดยลงที่ บขส.มุกดาหาร ประมาณ 19.30 น.จากนั้นได้นั่งสามล้อมาริมโขง บอกสามล้อว่าไม่มีบัตรอยากจะข้ามไปฝั่งลาว คนขับสามล้อคิดราคา 1,200 บาท (ที่แรกเรียก 1,500 บาท) และได้มาส่งที่ร้านขายของชำขายกับข้าว นั่งกินเบีย์หมดไป 6 ขวด กำลังรอเรือข้ามไปฝั่งแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน และขอใช้สิทธิ์ของผู้ต้องหาจะไม่ไปขอขมาศพแน่นอน